สถานการณ์ซับซ้อนของบาร์ซ่า

2-3 ปีนับจากนี้จะเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นของ บาร์เซโลน่า หลังบรรดาแข้งแกนหลักหลายคนอายุแตะหลัก 30 ปีแล้ว

หลุยส์ ซัวเรซ, เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, จอร์ดี้ อัลบา กับ อีวาน ราคิติช เป็นนักเตะบาร์ซ่าที่มีอายุ 30 ปีหรือมากกว่านั้นหลังจบซีซั่นนี้ ซึ่งทีมอาซูลกราน่ามีแผนที่จะนำผู้เล่นสายเลือดใหม่เข้ามาเตรียมพร้อมทดแทนสายเลือดเก่า แต่ก็มีตัวเลือกไม่มากนักในการหาตัวตายตัวแทนของบรรดาผู้เล่นที่กล่าวมาข้างต้น 

นั่นยังไม่นับรวม ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทีมยักษ์กาตาลุนย่าคงไม่สามารถหาตัวแทนของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ที่อาจมีเพียงหนึ่งเดียวในรอบศตวรรษ 

แต่ถึงอย่างไรทีมอาซูลกราน่าจำเป็นต้องมองหาตัวแทนของนักเตะที่เป็นกระดูกสันหลังของทีมที่มีส่วนช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกาถึง 7 สมัยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

การ์เลส ปูโยล, ชาบี เอร์นานเดซ กับ อันเดรส อีเนียสต้า ต่างอำลาสโมสรเมื่อถึงเวลาอันควร แม้บาร์ซ่าจะมีผู้เล่นสายเลือดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทดแทนนักเตะระดับตำนานของสโมสร แต่ต้องยอมรับว่ามันไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างที่หายไปได้แบบร้อยเปอร์เซนต์ 

มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บาร์ซ่าจะต้องพบปัญหาไม่ต่างจากเดิมเมื่อถึงเวลาที่นักเตะอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, จอร์ดี้ อัลบา หรือ อีวาน ราคิติช ต้องกล่าวคำอำลาถิ่น'คัมป์ นู' 

การอำลาของหนึ่งในตำนานสโมสรอย่าง อีเนียสต้า หลังจบฤดูกาล 2017-18 บาร์เซโลน่า เตรียมการล่วงหน้าด้วยการดึงตัว อาร์ตูร์ เมโล่ มาจาก เกรมิโอ เพื่อเป็นตัวตายตัวแทน แม้มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวบราซิเลียนจะปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็วและทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ อาร์ตูร์ ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกพอสมควร 

ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่าน บาร์เซโลน่า แสดงความสนใจ ปอล ป็อกบา ของ แมนฯยูไนเต็ด หลังมีข่าวลือว่ามิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสต้องการย้ายออกจากถิ่น'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'แต่มันไม่เกิดขึ้นและที่สำคัญทีมยักษ์กาตาลุนย่าไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการเซ็นสัญญากับ ป็อกบา ทั้งค่าตัวและค่าเหนื่อยของนักเตะ แม้จะมีข่าวว่าบาร์ซ่าพร้อมจะสู้อีกยก็ตาม 

ดังนั้นทีมอาซูลกราน่าจึงต้องมองหาทางเลือกอื่นที่สามารถใช้งบแบบสมเหตุสมผล 

บาร์เซโลน่า ส่งทีมงานตามเก็บข้อมูลของผู้เล่นดาวรุ่งอนาคตไกลของวงการลูกหนังยุโรปหลายราย ทั้ง มัทไธค์ เดอ ลิกต์ กับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง สองแข้งดาวโรจน์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ กับ ฮุสเซม อาอูอาร์ สองมิดฟิลด์ดาวรุ่งของ ลียง หรือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์วัยรุ่นของ ไลป์ซิก เป็นต้น

แน่นอนหนึ่งในนักเตะตรงสเปกของทีมอาซูลกราน่าก็มีชื่อ อาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อยู่ในข่ายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิดฟิลด์วัย 23 ปีกำลังจะเป็นฟรีเอเจนต์สามารถย้ายสังกัดได้แบบไม่มีค่าตัวหลังจบซีซั่นนี้ 

ราบิโอต์ เป็นนักเตะฝีเท้าดีและสามารถย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวจึงตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรและหนึ่งในนั้นคือ บาร์เซโลน่า 

แม้จะไม่ต้องจ่ายเงินค่าตัวนักเตะ แต่การดึง ราบิโอต์ มาค้าแข้งในถิ่น'คัมป์ นู'เป็นปัญหาที่ทีมยักษ์กาตาลันต้องขบคิดเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากการสร้างปมขัดแย้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพิ่มเติมจากเรื่องราวในอดีตทั้งกรณีของ มาร์โก แวร์รัตติ กับ เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ 

ราบิโอต์ จะย้ายสังกัดแบบไม่มีค่าตัว นั่นหมายความว่านักเตะสามารถเรียกค่าเหนื่อยจากสโมสรใหม่ได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่ามิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสต้องการสัญญา 5 ปีพร้อมค่าจ้างรวมกัน 50 ล้านยูโรหรือตกปีละ 10 ล้านยูโร

นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ทันทีหากมีการเซ็นสัญญากับ ราบิโอต์ เพราะจะทำให้มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยแพงระดับต้นๆของสโมสรและจะสร้างแรงกระเพื่อมภายในห้องแต่งตัวของบาร์ซ่าแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากผู้เล่นหลายๆคนที่รับใช้ทีมมานานยังไม่ได้รับค่าจ้างเท่าคนมาใหม่อย่าง ราบิโอต์ โดยเฉพาะ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ที่เพิ่งเซ็นสัญญาฉบับใหม่ไม่นานมานี้ 

ขณะที่ อีวาน ราคิติช กับ จอร์ดี้ อัลบา ยังไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่เนื่องจากการเจรจาเรื่องค่าเหนื่อยกับสโมสรยังไม่ลงตัวคงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยเช่นกันหากบาร์ซ่าเซ็นสัญญากับ ราบิโอต์ ด้วยค่าเหนื่อยจำนวนดังกล่าว

ทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่ายังแบกภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเหนื่อยนักเตะรวมกันจนหลังแอ่นจนตัวเลขใกล้จะเต็มเพดาน ดังนั้นฝ่ายบริหารบาร์เซโลน่าจึงต้องใคร่ครวญอย่างรอบด้านก่อนจะตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับกรณีของ อาเดรียง ราบิโอต์ 

หากถามว่า บาร์เซโลน่า ต้องการดึง ราบิโอต์ มาร่วมทีมหรือไม่? แน่นอนสามารถตอบทันทีว่าต้องการ ไม่ต่างจากสองแข้งดาวรุ่งค่าย อาแจ็กซ์ อย่าง มัทไธค์ เดอ ลิกต์ และ เฟรงกี้ เดอ ย็อง ซึ่งทีมอาซูลกราน่าหวังดึงเข้ามาเป็นกระดูกสันหลังใหม่ของทีมในอนาคต 

แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าทั้ง เดอ ลิกต์ กับ เดอ ย็อง ต่างตกเป็นเป้าสนใจของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปหลายต่อหลายทีมและค่าตัวนักเตะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆตามความต้องการของตลาด ซึ่ง อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม เพียงนั่งกระดิกเท้าเฝ้ารอข้อเสนอดีที่สุดที่ยื่นมาให้พวกเขาพิจารณาเท่านั้น 

ความปรารถนาของ บาร์เซโลน่า คือต้องการรวบทั้ง เดอ ลิกต์ กับ เดอ ย็อง แต่ยิ่งเวลาผ่านไป โอกาสยิ่งลดน้อยลงตามลำดับจนมีข่าวว่าทีมยักษ์กาตาลันยอมสละหนึ่งคนคือ เดอ ลิกต์ เพื่อทุ่มสุดตัวกับอีกคนคือ เดอ ย็อง 

ปัญหาของการเซ็นสัญญากับ เดอ ลิกต์ หรือ เดอ ย็อง ไม่ใช่เรื่องค่าเหนื่อยเหมือน ราบิโอต์ แต่เป็นจำนวนเงินค่าตัวที่ บาร์เซโลน่า จำต้องเปย์ให้ อาแจ็กซ์ รู้สึกพึงพอใจที่จะปล่อยนักเตะให้พวกเขา ซึ่งมันอาจไม่สูงเท่าหลายสโมสรที่หวังดึงนักเตะไปร่วมทีม แต่ตัวเลขจำต้องสมน้ำสมเนื้อด้วยเช่นกันโดยราคาเริ่มต้นน่าจะอยู่ราว 70 ล้านยูโร 

บาร์เซโลน่า ไม่กังวลกับเรื่องค่าเหนื่อยของนักเตะที่ต้องการไม่สูงมากนักเพียงแต่มากกว่าที่เขาได้รับจาก อาแจ็กซ์ เท่านั้น แต่ทีมอาซูลกราน่ากังวลกับเรื่องค่าตัวนักเตะที่อาจดูแพงเกินจริง ทว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงและตามที่กล่าวไว้ข้างต้น บาร์ซ่า มีตัวเลือกไม่มากนักในการเสาะหาแข้งระดับคุณภาพเพื่อดึงเข้ามาเป็นสายเลือดใหม่ของทีม

อย่างไรก็ตามการลงทุนเรื่องค่าตัว เดอ ย็อง หรือ เดอ ลิกต์ หรือทั้งสองคนจะส่งผลกระทบต่อ บาร์เซโลน่า ในเรื่องของการฝ่าฝืนกฎ'ไฟแนลเชียล แฟร์ เพลย์'ได้เช่นกันหลังทีมอาซูลกราน่าเคยทุ่มเงินเฉียด 300 ล้านยูโรเพื่อเซ็นสัญญากับ อุสมาน เดมเบเล่ และ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยยังไม่นับรวมเบี้ยรายทางอย่าง อาร์ตูร์ เมโล่, อาร์ตูโร่ วีดาล, มัลคอม ซิลวา หรือ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ 

นอกจากนี้ บาร์เซโลน่า ยังต้องเตรียมงบประมาณอีกส่วนหนึ่งสำหรับการหาตัวแทนระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งแน่นอนว่าการหากองหน้าชั้นดีจะต้องใช้ทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านยูโรสำหรับตลาดนักเตะยุคเงินเฟื้อในปัจจุบัน 

บาร์เซโลน่า ตกอยู่ในสถานการณ์ซับซ้อนยุ่งยากมากกว่าที่คิดจึงน่าสนใจว่าฝ่ายบริหารทีมอาซูลกราน่าจะใช้มาตรการใดเลือกแนวทางดีที่สุดเพื่อสโมสร