กลับมาด้วยใจ

มันเป็นครั้งแรกของสโมสรที่ บียาร์เรอัล เปลี่ยนเทรนเนอร์ถึง 2 ครั้งในฤดูกาลเดียวกัน

จากที่เริ่มต้นซีซั่นด้วย ฆาเบียร์ กาเยฆา แต่ถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้หลังเกมพ่าย เซลต้า บีโก้ คาบ้าน 2-3 นัดที่ 15 ของฤดูกาลเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนตั้ง หลุยส์ การ์เซีย ปลาซ่า เข้ามารับช่วงต่อ แต่เทรนเนอร์วัย 46 ปีคุมทีมเรือดำน้ำเหลืองลงเล่นเพียง 9 นัดจนกระทั่งถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังเกมพ่าย บาเลนเซีย 0-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

นับตั้งแต่ หลุยส์ การ์เซีย ปลาซ่า เข้ามารับตำแหน่ง เขานำทีมกำชัยชนะเพียงเกมเดียวบนเวทียูโรปาลีกที่เปิดบ้านทุบ สปาร์ตัก มอสโก 2-0 เท่านั้น แต่ไม่เคยนำทีมคว้าชัยบนเวทีลีกาทั้งทั้ง 6 เกม (เสมอ 4, แพ้ 2) รวมถึงการตกรอบ 16 ทีมของศึก โกปา เดล เรย์ หลังการปราชัยต่อ เอสปันญ่อล ด้วยสกอร์รวม 3-5

การสั่งปลด หลุยส์ การ์เซีย ปลาซ่า ออกจากตำแหน่งอาจไม่ใช่เรื่องแปลกหากประเมินจากผลงานที่ผ่านมา แต่ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือ เฟร์นานโด โรอิก ประธานบียาร์เรอัลกลับดึง ฆาเบียร์ กาเยฆา กลับมารับตำแหน่งเดิมอีกครั้งทั้งที่เพิ่งไล่ตะเพิดออกไปราว 2 เดือนก่อนหน้านี้ 

บียาร์เรอัล มีศักยภาพไม่ด้อยไปกว่าหลายๆทีมในโซนครึ่งล่างตารางลีกา แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือความเชื่อมั่นหลังการคว้าชัยชนะบนเวทีลีกาครั้งสุดท้ายตั้งแต่เกมเชือด เรอัล เบติส 2-1 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ทว่านับจากนั้นทีมเรือดำน้ำเหลืองสะกดคำว่าชนะไม่เป็น 8 เกมติดต่อกัน (เสมอ 4, แพ้ 4) จนจมปลักอยู่อันดับรองบ๊วยห่างจากโซนปลอดภัย 5 คะแนน 

อย่างไรก็ตามยังมีโปรแกรมเหลืออีก 17 เกม ซึ่งเพียงพอสำหรับการเก็บคะแนนในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด แต่เทรนเนอร์ที่จะเข้ามารับผิดชอบหน้าที่ดังกล่าวจะต้องรู้จักทีมและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นเทรนเนอร์คนใหม่หน้าเก่าอย่าง ฆาเบียร์ กาเยฆา จึงน่าจะตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุด 

กาเยฆา วัย 40 ปีคลุกคลีกับทีมเยาวชนของ บียาร์เรอัล มาตั้งแต่ปี 2012 ก่อนขยับขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ชั่วคราวในช่วงเดือนกันยายนปี 2017 หลังสโมสรสั่งปลด ฟราน เอสกรีบา ออกจากตำแหน่ง เขาทำผลงานดีด้วยการนำทีมจบฤดูกาลดังกล่าวอันดับ 5 พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกจนกระทั่งสโมสรตกรางวัลด้วยการเป็นเทรนเนอร์ทีมชุดใหญ่แบบถาวร 

ทว่าอีกประมาณหนึ่งปีต่อมา กาเยฆา กระเด็นตกเก้าอี้หลัง บียาร์เรอัล ทำผลงานย่ำแย่จนอยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียง 3 แต้ม แต่สถานการณ์มันเลวร้ายยิ่งกว่าหลังการปลดเทรนเนอร์วัย 40 ปี เนื่องจากทีมเรือดำน้ำเหลืองหล่นมาอยู่ในพื้นที่สีแดงและห่างจากโซนปลอดภัย 5 คะแนน

เฟร์นานโด โรอิก ส่งสัญญาฉุกเฉินถึงลูกน้องเก่าเพื่อดึงเข้ามากอบกู้สถานการณ์ของทีมเรือดำน้ำเหลืองโดยมีภารกิจจนถึงสิ้นสุดซีซั่นนี้และจากนั้นค่อยว่ากันตามผลงาน

'บียาร์เรอัล และ ผม รู้จักแยกแยะด้วยการทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่หลายคนคาดหวังและผมขอยืดอกแสดงความรับผิดชอบกับทุกการตัดสินใจ'

'มันเป็นการตัดสินใจของผมและผมถือว่าเป็นการตัดสินใจจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล' เฟร์นานโด โรอิก กล่าวในการแถลงข่าวแต่งตั้ง ฆาเบียร์ กาเยฆา นั่งเก้าอี้เทรนเนอร์อีกรอบ

ขณะที่ หลุยส์ การ์เซีย ปลาซ่า ซึ่งทำงานมาได้เพียง 50 วันก่อนเด้งตกเก้าอี้ยอมรับผลที่เกิดขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่มีส่วนร่วมกับการตัดสินใจครั้งนี้ก็ตาม 

'ผมไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่ผมยอมรับ ผมคิดว่าตัวเองยังมีความสามารถและดำเนินชีวิตต่อไปได้ เราฝึกซ้อมในช่วงเช้า ผมไม่ได้ยินข่าวใดๆ มันเป็นการฝึกซ้อมที่น่าตื่นเต้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะ แต่ผมแข็งแกร่งและยอมรับมัน ผมยังมีเวลาเพียงพอที่จะบอกลาลูกทีมด้วย'เทรนเนอร์วัย 46 ปีกล่าวหลังการตกงานแบบไม่มีวี่แววก่อนหน้านั้น 

ส่วนเทรนเนอร์คนใหม่หน้าเก่าของ บียาร์เรอัล อย่าง ฆาเบียร์ กาเยฆา ยินดีและเต็มใจที่จะกลับมาช่วยกอบกู้เรือดำน้ำเหลืองที่กำลังดิ่งลงสู่ก้นทะเลลึกด้วยเช่นกันหลังได้รับการติดต่อจากเจ้านายเก่า เฟร์นานโด โรอิก ที่เพิ่งไล่เขาออกไปราว 2 เดือนก่อนหน้านี้ 

'มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ผมกลับมาเพื่อนักเตะเพราะความเชื่อมั่นที่ผมมีในตัวพวกเขาที่สามารถนำพาพวกเราหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ ผมยังกลับมาเพื่อ บียาร์เรอัล ผมครุ่นคิดหลายรอบก่อนตัดสินใจกลับมารับงานนี้ มันเป็นการตัดสินใจด้วยใจล้วนๆ'กาเยฆา เปิดอก

'ผมมีความรับผิดชอบมากขึ้นและผมต้องการความช่วยเหลือจากทุกทางเท่าที่เป็นไปได้ ขณะเดียวกัน เฟร์นานโด โรอิก ยังมอบความไว้วางใจผม ดังนั้นผมจะพยายามไม่ทำให้เขาผิดหวัง ผมพร้อมร่วมหัวจมท้ายไปกับเขา'

กาเยฆา ยังเปิดเผยถึงการหวนคืนสู่ตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บียาร์เรอัล ครั้งนี้ว่า'ท่านประธานโทรศัพท์หาผมพร้อมข้อเสนอและผมตอบรับโดยไม่ลังเลด้วยความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ผมเข้าใจถึงสถานการณ์และมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งนี้ต่อไป ผมปรารถนาที่จะอยู่ที่นี่นานหลายปี แต่ผมไม่ได้คาดหวัง มันเป็นน่าประหลาดใจและเป็นเรื่องดีสำหรับผม'

บียาร์เรอัล อยู่อันดับ 19 ของลีกเมืองกระทิงอยู่ห่างจากพื้นที่ปลอดภัย 5 คะแนนจึงมีความสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในฤดูกาล 2011-12 หลังจบซีซั่นอันดับ 18 ก่อนจะหวนคืนสู่เวทีลีกาตั้งแต่ซีซั่น 2013-14 จนถึงปัจจุบัน แต่ กาเยฆา ยังเชื่อมั่นว่าทีมเรือดำน้ำเหลืองจะรอดพ้นวิกฤติครั้งนี้ 

'สถานการณ์มีความยุ่งยากซับซ้อน แต่ผมแข็งแกร่งขึ้นและมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม เรามีหน้าที่วิเคราะห์ตัวเองถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมดูทุกเกมที่ผ่านมาทั้งหมด ผมติดตามทีมของผมมาโดยตลอดและตอนนี้ผมมีความมั่นใจมากกว่าเดิม'

กาเยฆา เคยคุมทีมเรือดำน้ำเหลืองลงเล่นก่อนหน้านี้ 65 เกม ทำสถิติชนะ 25 เสมอ 18 แพ้ 22 ยิง 100 ประตู เสีย 80 ประตู ภารกิจหลักคือการนำ บียาร์เรอัล อยู่รอดปลอดภัยในซีซั่นนี้ โดยเทรนเนอร์วัย 40 ปีจะคุมทีมลงประเดิมสนามบนสังเวียน'เอสตาดิโอ เด ลา เซรามีก้า'รับมือ เอสปันญ่อล  

หวังว่าจะเกิด'จุดเปลี่ยน'ขึ้นกับ บียาร์เรอัล ซึ่งมีขุมกำลังแพงสุดในประวัติศาสตร์และทำผลงานแย่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร โดยเริ่มต้นจากการเก็บชัยชนะเหนือทีมนกแก้วในวันอาทิตย์นี้