เราไม่กลัวเมสซี่!?!?
เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า เตรียมเปิดศึก'เอล กลาซิโก้'สองยกติดต่อกันทั้งรายการ โกปา เดล เรย์ วันพุธนี้ ต่อด้วยเกมลา ลีกา ในวันเสาร์ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งการลุ้นแย่งความสำเร็จจนกระทั่งถึงช่วงท้ายซีซั่นของทัพ'โลส บลังโกส'หรือ ทัพอาซูลกราน่าจะปิดฉากซีซั่นทีมคู่ปรับตลอดชาติทั้งสองรายการอย่างสมบูรณ์แบบ
เกมบุกของทีมอาซูลกราน่าออกอาการฝืดยิงเพียง 4 ประตูและคว้าชัยชนะเพียงครั้งเดียวจากการลงเล่นทุกรายการตลอด 5 นัดหลัง ก่อนที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะระเบิดฟอร์มทำแฮตทริคครั้งที่ 50 ในอาชีพค้าแข้งนำทีมยักษ์กาตาลุนย่าบุกสยบ เซบีย่า 4-2 ถึงสังเวียน'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เสริมสร้างความมั่นใจก่อนเกมเยือน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'สองนัดติดต่อกัน
'เมื่อทุกอย่างไหลลื่น สิ่งต่างๆก็ดีสำหรับเรา'เมสซี่ กล่าวหลังเกมกระทุ้งทีมเซบียาโน่เมื่อวันเสาร์ 'เรากลับมาเล่นได้เหมือนที่เรารู้'
เมสซี่ ยิง 2 ประตูในเกมไล่ตามตีเสมอ บาเลนเซีย 2-2 บนเวทีลีกาที่'คัมป์ นู' หลังจากนั้นอีก 4 เกมปรากฎว่า เมสซี่ ยิงเพิ่มอีกเพียงประตูเดียวจากลูกจุดโทษในเกมเฉือนชนะ เรอัล บายาโดลิด 1-0 ซึ่งเขาพลาดอีกหนึ่งจุดโทษในเกมดังกล่าวด้วย
การบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาจากเกมเสมอทีมค้างคาวทำให้ เมสซี่ มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองในแมตช์'เอล กลาซิโก้'บนเวที โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่'คัมป์ นู'ซึ่ง ทีมอาซูลกราน่าต้องไล่ตามตีเสมอจากการทำประตูของ มัลคอม ซิลวา นั่นทำให้ทัพ'โลส บลังโกส'กุมความได้เปรียบก่อนลงเล่นที่เบร์นาเบวในวันพุธนี้
เมสซี่ ทำผลงานต่ำกว่าระดับมาตรฐานส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมอาซูลกราน่าโดยตรงจนยิงคู่แข่งได้เพียงประตูเดียวตลอดการลงเล่น 270 นาทีจนถูกมองว่าทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าอาจเสียโมเมนตัมก่อนการลงเล่นสองเกมสำคัญที่'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' แต่สถานการณ์พลิกผันหลังเกมบุกสยบทีมเซบียาโน่
แฮตทริคของ เมสซี่ มาถูกที่ถูกเวลาเพราะมันช่วยเติมความเชื่อมั่นให้ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์และเพื่อนร่วมทีมก่อนการลงฟาดแข้งกับทีมชุดขาวสองยกติดต่อกัน
'เราเหลือเพียงก้าวเล็กๆสำหรับการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศอีกครั้ง'เมสซี่ เผย'มันเป็นแมตช์ที่ยากมากในการเล่นกับ เรอัล มาดริด ที่สนามของพวกเขา แต่เรามั่นใจว่าเราสามารถไปที่นั่นและคว้าชัยชนะ จากนั้นเราจะเริ่มคิดถึงเกมลีกอีกครั้ง เราจะพยายามเพื่อคว้าชัยชนะทุกอย่าง'
เรอัล มาดริด กุมความได้เปรียบจากการยิงประตูนอกบ้านหลังดึงผลเสมอ 1-1 มาจาก'คัมป์ นู'ก็จริง แต่ทีมชุดขาวเล่นกันไม่ดีนักโดยเฉพาะเกมล่าสุดที่บุกชนะ เลบันเต้ 2-1 จากสองจุดโทษและหนึ่งในนั้นเป็นจุดโทษปัญหาที่ค้านสายตาแฟนบอล
ทัพ'โลส บลังโกส'คว้าชัยชนะ 5 นัดติดต่อกันก่อนเกมเยือน'คัมป์ นู'ช่วง 3 สัปดาห์ก่อน ซึ่งทีมของ ซานติอาโก้ โซลารี่ เล่นกันด้วยสปิริตจนสามารถคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการ ก่อนคว้าชัยชนะเหนือคู่ปรับร่วมเมือง แอตเลติโก มาดริด ต่อด้วย อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก สานต่อความหวังการลุ้นแชมป์ทั้ง 3 รายการจนถึงช่วงปลายซีซั่น
ทว่าสถานการณ์จะพลิกผันหลังทีมชุดขาวถูก คีโรน่า บุกมาเชือดพ่ายคาถิ่นเบร์นาเบว ก่อนเบียดคว้าชัยเหนือ เลบันเต้ แบบกระเสือกกระสนรักษาระยะห่างจากจ่าฝูง บาร์เซโลน่า เหลือ 9 แต้มเท่าเดิม
แม้ฟอร์มของมาดริดจะดูแผ่วลงไป แต่พวกเขาเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการเผชิญหน้ากับทัพอาซูลกราน่าที่มี เมสซี่ ซึ่งอยู่ในเวอร์ชั่นดีที่สุดอีกครั้ง
'เราพร้อมสำหรับทุกอย่าง'วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียนเปิดเผย 'เมสซี่ เป็นผู้เล่นอัศจรรย์ทำสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้ แต่เราไม่กลัวเขา แม้ว่าเขาจะเป็นยอดนักเตะ แต่เรามีผู้เล่นดีที่สุดในโลกในทีมของเราเช่นกัน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เล่นสองแมตช์'เอล กลาซิโก้'ในสัปดาห์นี้'
บาร์เซโลน่า เคยเปิด'คัมป์ นู'กระทุ้ง เรอัล มาดริด 5-1 ในศึก'เอล กลาซิโก้'ครั้งแรกบนเวทีลีกาซีซั่นนี้ส่งผลให้ทัพ'โลส บลังโก้'ตัดสินใจปลด จูเลน โลเปเตกี หลังจากนั้นเพียงวันเดียวก่อนโปรโมต โซลารี่ จากทีมเยาวชนขึ้นมารับงานต่อจากอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปน
วินิซิอุส จูเนียร์ อาจทำใจดีสู้เสือว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวแข้งคนสำคัญของฝ่ายตรงข้ามก็ตาม แต่สถิติที่ เมสซี่ ทำไว้ในการเล่นเกม'เอล กลาซิโก้'ก่อนหน้านี้คงทำให้นักเตะมาดริดแข้งขาสั่นไม่น้อยเช่นกัน จากการยิง 26 ประตูและ 14 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นสถิติมากสุดในประวัติศาสตร์ของทั้งสองอย่างจากการลงเล่น 39 นัด เมสซี่ ยังกระทุ้งถึง 15 ประตูจากการลงเล่นบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' 19 เกมด้วย
จาก 39 เกมที่ลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้' เมสซี่ นำทีมอาซูลกราน่าคว้าชัยชนะ 17 ครั้ง เสมอ 10 ครั้ง ส่วน เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายกำชัย 12 ครั้ง ขณะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่บอกว่าไม่กลัวซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์กำลังจะลงเล่นเกม'เอล กลาซิโก้'ครั้งที่สองในอาชีพหากเขาได้ออกสตาร์ทคืนวันพุธนี้
เมสซี่ ยังเพิ่งทำแฮตทริคครั้งที่ 50 ในอาชีพค้าแข้งจากเกมล่าสุดบนสังเวียน'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'ซึ่งเป็นการทำแฮตทริคกับทีมอาซูลกราน่าครั้งที่ 44 ส่วนอีก 6 ครั้งเกิดขึ้นกับการเล่นกับทีมชาติอาร์เจนตินา
บาร์เซโลน่า ส่ง เมสซี่ ลงประเดิมเวทีลีกาในเกมกับ เอสปันญ่อล เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2004 ประมาณ 3 ปีหลังจากนั้นกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ทำแฮตทริคแรกกับทัพอาซูลกราน่าสำเร็จในแมตช์'เอล กลาซิโก้'ในเกมเสมอ เรอัล มาดริด 3-3 ที่'คัมป์ นู'เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2007 ก่อนทำแฮตทริคกับทีมชุดขาวอีกครั้งในเกมบุกคว้าชัยที่'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'4-3 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2014
จาก 44 แฮตทริคของ เมสซี่ เป็นการยิง 3 ประตู 38 ครั้ง, 4 ประตู 5 ครั้งและ 5 ประตูอีกหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นการกระทุ้ง เลเวอร์คูเซ่น 7-1 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีม นัดสอง เมื่อปี 2012
เมสซี่ ทำแฮตทริคใส่ บาเลนเซีย มากสุดในอาชีพ 4 ครั้ง โดยเกิดขึ้น 3 ครั้งบนเวทีลีกา อีกหนึ่งครั้งในศึก โกปา เดล เรย์ ขณะที่ แอตเลติโก มาดริด, เซบีย่า, โอซาซูน่า, เอสปันญ่อล กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ถูกซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์จัดแฮตทริคให้ทีมละ 3 ครั้ง ส่วน เรอัล มาดริด โดนไปสองหนเท่า มาลาก้า, เลบันเต้ และ ราโย บาเยกาโน่
'เราไม่กลัวเมสซี่'อาจเป็นการกล่าวด้วยความมั่นใจของเด็กหนุ่มอย่างวินิซิอุส แต่สำหรับแข้งทีมชุดขาวคนอื่น รวมถึงตัวเทรนเนอร์โซลารี่คงไม่คิดเหมือนดาวรุ่งชาวบราซิเลียนในการเผชิญหน้านักเตะเหนือมนุษย์อย่างเมสซี่ในแมตช์'เอล กลาซิโก้'ทั้งสองยกในช่วงสัปดาห์นี้แน่นอน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT