:::     :::

เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,847
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทัพนักเตะอาซูลกราน่าฉลองชัยชนะในห้องแต่งตัวหลังเกมสยบ เรอัล มาดริด 3-0 ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันสำเร็จ

บาร์เซโลน่า มุ่งหน้าสู่การคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ สมัยที่ 5 ติดต่อกันและแชมป์ครั้งที่ 31 ในประวัติศาสตร์สโมสรบนสังเวียน'เบนีโต้ บียามาริน'ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

ทัพอาซูลกราน่ายังสร้างสถิติทะยานเข้าชิงฟุตบอลรายการนี้ซีซั่นที่ 6 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ซีซั่น 2013-14 ซึ่งพวกเขาปราชัยต่อ เรอัล มาดริด 1-2 จากการทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของ แกเร็ธ เบล 

หลังจากนั้นทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่ากวาดแชมป์เรียบวุธจากชัยชนะเหนือ แอธเลติก บิลเบา (3-1), เซบีย่า (2-0), อลาเบส (3-1) และ เซบีย่า (5-0) คว้าแชมป์รายการนี้รวมกัน 30 สมัยจากการเข้าชิงฯ 40 ครั้ง 


ลิโอเนล เมสซี่ กับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยังทำสถิติเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ครั้งที่ 9 เทียบเท่า อากุสติน เกียนซ่า กับ โฆเซ่ มาเรีย เบลาอุสเต้ อดีตสองนักเตะ แอธเลติก บิลเบา ในช่วงปี 1943-58 หลังซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์และมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนสอยแชมป์รายการนี้มาแล้ว 6 สมัย 

ขณะที่ เกียนซ่า เป็นเจ้าของสถิติคว้าแชมป์รายการนี้มากสุด 7 สมัยในปี 1943, 1944, 1945, 1950, 1955, 1956 กับ 1958

เมสซี่ ยังเป็นนักเตะที่ทำประตูในนัดชิงชนะเลิศของ โกปา เดล เรย์ มากสุด 5 ประตู (2009, 2012, 2015, 2017 กับ 2018) เหลืออีกเพียงประตูเดียวจะทำผลงานเท่า โจเซป ซามีเตียร์ อดีตกองหน้ารุ่นปู่ของทีมอาซูลกราน่าในช่วงปี 1919-1932

ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้'ครั้งที่ 40 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ บาร์เซโลน่า ตามหลังเฉพาะ ชาบี เอร์นานเดซ ที่เคยลงเล่น 42 เกม ขณะที่ อันเดรส อีเนียสต้า อีกหนึ่งแข้งระดับตำนานของทีมอาซูลกราน่าลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้'38 เกม 


ส่วนสถิติลงเล่นเกม'เอล กลาซิโก้'มากสุดเป็นของ มานูเอล ซานชีส อดีตกองหลัง เรอัล มาดริด จำนวน 43 เกม ขณะที่ ฟรานซิสโก้ เคนโต้ อีกหนึ่งอดีตแข้งดาวดังทีมชุดขาวลงเล่น 42 เกมเท่า ชาบี ส่วน เซร์คิโอ รามอส ลงเล่น 41 นัด ซึ่งถ้าหากกองหลังชาวอันดาลูซบาดเจ็บหรือติดโทษแบนคงทำสถิติขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนหน้านี้แล้ว

40 เกม'เอล กลาซิโก้'ของ เมสซี่ เป็นการลงเล่นลีกา 24 นัด, ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 6 นัด, แชมเปี้ยนส์ลีก 2 นัดและ โกปา เดล เรย์ 8 นัด ทำสถิติยิงรวมกัน 26 ประตู 

บาร์เซโลน่า คว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ที่'เบนีโต้ บียามาริน'ด้วยชัยชนะเหนือทีมคู่ปรับตลอดชาติอย่าง เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ 3-0 ซึ่งเป็นการยิงตรงกรอบเพียง 2 ครั้งและหนึ่งประตูมาจากการยิงลูกจุดโทษ 


ทัพอาซูลกราน่ากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการฟุตบอลเมืองกระทิงด้วยการเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ 5 สมัยติดต่อกันหลังคว้าแชมป์รายการนี้ 4 ซีซั่นติดเท่า แอธเลติก บิลเบา และ เรอัล มาดริด ซึ่งยังเป็นการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 9 จาก 11 ฤดูกาลหลังสุดด้วย 

ตลอดช่วง 10 ซีซั่นที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า เอาชนะ เรอัล มาดริด ด้วยการทำ 3 ประตูหรือมากกว่านั้นถึง 6 ครั้งและทีมอาซูลกราน่ายังไม่แพ้ตลอดการลงเล่นเกม'เอล กลาซิโก้'5 นัดหลังสุด


เรอัล มาดริด สร้างโอกาสทำประตู 14 ครั้ง แต่ยิงตรงกรอบเพียง 4 หน หรือคิดเป็น 28 เปอร์เซนต์ ขณะที่ บาร์เซโลน่า ยิงตรงกรอบ 2 จากโอกาส 4 ครั้ง หรือ คิดเป็น 50 เปอร์เซนต์ 

จากชัยชนะเหนือ เรอัล มาดริด เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาทำให้ บาร์เซโลน่า ทำสถิติเทียบเท่าทีมคู่ปรับตลอดชาติจากการลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้'ทุกรายการ ทั้งสองทีมต่างกำชัยชนะ 95 ครั้งเท่ากันและเกมเสมอกันอีก 51 ครั้ง


เรอัล มาดริด พ่ายแพ้คู่แข่ง 3 ประตูหรือมากกว่านั้นเป็นครั้งที่ 5 ในซีซั่นนี้ ครั้งล่าสุดที่ทัพ'โลส บลังโกส'แพ้อย่างน้อย 5 เกมโดยถูกยิงอย่างน้อย 3 ประตูเกิดขึ้นตั้งแต่ซีซั่น 1995-96 

วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียนเป็นผู้เล่นที่มีโอกาสทำประตูมากสุดของเกม'เอล กลาซิโก้'เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีโอกาสสับไกถึง 6 ครั้ง แต่เป็นการยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียว ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ สับไก 2 ครั้ง ตรงกรอบทั้ง 2 หน

ทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ กับ จอร์ดี้ อัลบา สามารถลงเล่นนัดชิงชนะเลิศที่สังเวียน'เบนีโต้ บียามาริน'แบบไร้ปัญหาหลังแข้งบาร์ซ่าทั้งสองคนหลีกเลี่ยงการถูกผู้ตัดสินจดชื่อในเกมเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาสำเร็จ

หัวหอกชาวอุรุกวาโย่เคยพลาดการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศรายการนี้มาแล้วกับ อลาเบส เมื่อปี 2017 เนื่องจากติดโทษพักแข้งหลังถูก เฆซุส คิล มานซาโน่ ตะเพิดออกจากสนามในรอบตัดเชือกเกมสองกับ แอตเลติโก มาดริด 


บาร์เซโลน่า ยังอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ 3 รายการตามเป้าหมายของสโมสรทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ เรอัล มาดริด ทำหลุดมือไปหนึ่งรายการและมีความหวังริบหรี่อีกหนึ่งรายการ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าทัพ'โลส บลังโกส'เหลือลุ้นเพียงแชมเปี้ยนส์ลีกรายการเดียวในซีซั่นนี้เท่านั้น

จากชัยชนะในเกม'เอล กลาซิโก้'ยกล่าสุด สื่อกาลาลันอย่าง'มุนโด้เดปอร์ติโบ'สรุป 10 จุดที่น่าสนใจไว้ดังนี้

1.เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า ค้นพบทีมดีที่สุดของทัพอาซูลกราน่านั่นคือการส่ง อุสมาน เดมเบเล่ ลงเล่นตัวจริงและขยับ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ขึ้นมาเล่นมิดฟิลด์ ซึ่งน่าจะเป็นชุดที่เทรนเนอร์ชาวบาสโก้เตรียมไว้สำหรับรับมือ ลียง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีม นัดสอง

2.เรอัล มาดริด ขาดแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ที่เป็นตัวพลิกโฉมหน้าเกมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเคยเป็นผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างในแมตช์'เอล กลาซิโก้'หลายต่อหลายนัดก่อนหน้านี้ แม้ วินิซิอุส จูเนียร์ จะเล่นได้ดีและสร้างโอกาสทำประตูถึง 6 ครั้ง แต่ดาวรุ่งชาวบราซิเลียนยังไม่ใช่ โรนัลโด้ และยังต้องรอการเติบโตอีกสักระยะ


3.บาร์เซโลน่า กลายเป็นทีมที่เล่นเพียง 45 นาทีเหมือนเกมที่ เซบีย่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทัพอาซูลกราน่าลงเล่นช่วงครึ่งแรกแบบอืดๆต่อบอลไปมาเพื่อปล่อยให้เวลาผ่านไปเท่านั้น แต่ทีมของบัลเบร์เด้กลับมาเล่นในช่วงครึ่งหลังได้อย่างดุดันอันตรายมีการผ่านบอลทะลุช่องพุ่งเข้าหาประตูจนทำได้ 3 ประตูทั้งเกมที่'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'และบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เมื่อคืนวันพุธ

4.มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น กำลังอยู่ในร่างเทพโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบช่วยป้องกันให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูถึงสองครั้งจนยันสกอร์ 0-0 ในช่วง 45 นาทีแรก ก่อนที่แนวรุกของทัพอาซูลกราน่าจะกลับมาทำงานในช่วงครึ่งหลังจนคว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสำเร็จ


5.เรอัล มาดริด สามารถสร้างความกดดันให้แนวรับคู่แข่งได้ดีจนสร้างโอกาสทำประตูหลายครั้งแต่มันเกิดขึ้นเฉพาะช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเท่านั้น 

6.บาร์เซโลน่า แสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมสวนกลับอันตรายหวังผลถึงการทำประตูในหลายจังหวะ แม้ว่าหลายครั้งจะขาดความแม่นยำก็ตาม

7.ลิโอเนล เมสซี่ ค่อนข้างเงียบในการเล่นเมื่อคืนวันพุธ แต่ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังมีเวลาพักเพื่อเติมความสดชื่นก่อนกลับมาลงเล่นในวันเสาร์เพื่อลุ้นทำประตูอีกครั้ง


8.บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายกำชัยชนะขาดลอย 3-0 ทั้งที่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของทีมอาซูลกราน่า แต่ เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในช่วงเลวร้ายยิ่งกว่า ทีมชุดขาวเล่นเกมรุกขาดความเฉียบคมและยังมีปัญหาในการเล่นเกมรับจนเสียประตูมาตลอด 6 เกมหลังสุด

9.เรอัล มาดริด อาจจะเหลือความหวังลุ้นความสำเร็จเพียงรายการเดียวในซีซั่นนี้ ขณะที่ บาร์เซโลน่า ยังมีโอกาสสอยอีก 3 รายการหลังคว้าแชมป์'ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า'มาแล้วหนึ่ง

10.สาวกบาร์เซโลนีสต้าพร้อมตามหนุนหลังทัพอาซูลกราน่าที่จะลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ 6 ปีติดต่อกันแบบไม่รู้เบื่อ แม้ว่าครั้งนี้จะต้องมุ่งหน้าลงภาคใต้เดินทางไกลกว่าปกติก็ตาม


นัดชิงดำศึก โกปา เดล เรย์ ซีซั่นนี้จะมีขึ้นที่สังเวียน'เบนีโต้ บียามาริน'ของ เรอัล เบติส ในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งเป็นการหวนคืนบ้านเก่าอีกครั้งของ อีวาน ราคิติช มิดฟิลด์ชาวโครแอตของ บาร์ซ่า ซึ่งเคยค้าแข้งกับ เซบีย่า นาน 3 ปีครึ่งเพียงแต่เป็นการกลับมาลงเล่นในสนามของคู่ปรับเก่าเท่านั้น

'เราจะลงเล่นนัดชิงชนะเลิศในเมืองที่ผมชื่นชอบเพียงแค่เราลงเล่นผิดสนามแค่นั้น แต่ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เราต้องการชัยชนะจริงๆ มันยังเป็นการเข้าชิงฯครั้งที่ 5 ของผมด้วยหลังคว้าแชมป์มาแล้ว 4 ครั้ง มาดูกันว่าผมจะทำซ้ำรอยเดิมอีกหรือเปล่า'ราคิติช เผย


นักเตะบาร์ซ่าฉลองชัยชนะกันในห้องแต่งตัวหลังเกมชนะทีมชุดขาวทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศสำเร็จเพียงแต่ไม่มีสองแข้งดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ร่วมถ่ายรูปด้วยเท่านั้น เนื่องจากเมสซี่ถูกสุ่มตรวจโด๊ป ส่วนซัวเรซแยกตัวไปให้สัมภาษณ์รายการทีวีหลังเกม


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด