ตำแหน่งเปลี่ยนแปลงบ่อย...

ผ่านมาถึงนัดที่ 28 ของซีซั่นนี้ ฟุตบอลลีกเมืองกระทิงมีการเปลี่ยนเทรนเนอร์แล้ว 8 ทีม รวมกัน 11 ครั้ง หลัง มิเกล อังเคล ซานเชซ มูนญอซ หรือ มิเชล ถูก ราโย บาเยกาโน่ ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ราโย กำลังตกอยู่ในภาวะคับขันสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นหลังจมปลักอยู่อันดับรองบ๊วยห่างจากโซนปลอดภัย 6 คะแนน ดังนั้นสโมสรจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเปลี่ยนเทรนเนอร์หลังเกมพ่าย บียาร์เรอัล 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการปราชัยบนเวทีลีกา 7 เกมติดต่อกัน

มิเชล มีความผูกพันกับสโมสรมานับตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ ราโย จนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเล่นตำแหน่งปีกซ้ายในช่วงปี 2006-2012 ก่อนจะมาทำงานในฐานะเทรนเนอร์ของทีมเยาวชนในปี 2016 และเลื่อนขึ้นมาเป็นนายใหญ่ในปีต่อมาจนกระทั่งกลายเป็นอดีตเทรนเนอร์เมื่อวันจันทร์ 

ส่วนคนที่สโมสรดึงเข้ามารับไม้ต่อจาก มิเชล ไม่ใช่คนอื่นไกลคือ ฟรานซิสโก้ เฆเมซ มาร์ติน หรือ ปาโก้ เฆเมซ วัย 48 ปีที่เคยเป็นทั้งนักเตะและเทรนเนอร์ของ ราโย มาก่อนหน้านี้

ปาโก้ เฆเมซ เคยค้าแข้งกับ ราโย สองช่วง ครั้งแรกในซีซั่น 1992-93 ก่อนกลับมาเล่นกับสโมสรอีกครั้งช่วงสั้นๆในปี 2004 เขายังเคยเป็นเทรนเนอร์ของสโมสรระหว่างปี 2012-2016 คุมทัพลงสนามรวมกัน 164 เกม สถิติชนะ 55 เสมอ 29 แพ้ 80 

เทรนเนอร์วัย 48 กลับมาเซ็นสัญญากับ ราโย จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2020 โดยมีภารกิจหลักคือการนำทีมต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในช่วง 10 นัดสุดท้ายของซีซั่นนี้ แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ เขายังมีโอกาสแก้ตัวอีกหนึ่งซีซั่นในการนำสโมสรหวนคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง

ราโย บาเยกาโน่ เป็นสโมสรที่ 8 ของลีกาที่เปลี่ยนเทรนเนอร์ในซีซั่นนี้ ซึ่งมี 3 ทีมที่เปลี่ยนคนคุมทีมถึง 3 ครั้งนั่นคือ เรอัล มาดริด, เซลต้า บีโก้ และ บียาร์เรอัล 

เรอัล มาดริด ปลด จูเลน โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งหลังเกมพ่าย บาร์เซโลน่า 1-5 นัดที่ 10 ของซีซั่น ทำสถิติ ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 6 จากการคุมทีมลงสนาม 14 เกม โดยตั้ง ซานติอาโก้ โซลารี่ ขึ้นมารับช่วงต่อเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมปีก่อน 

แต่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ถูกทัพ'โลส บลังโกส'เขี่ยพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาหลังการลงเล่นนัดที่ 27 พร้อมดึงนายเก่า ซีเนดีน ซีดาน กลับมาเป็นนายใหม่อีกรอบ หลัง โซลารี่ ทำทีมหมดลุ้นแชมป์ทั้งสามรายการ ทำสถิติชนะ 22 เสมอ 2 แพ้ 8 จากการลงเล่น 32 เกม

เซลต้า บีโก้ เด้ง อันโตนิโอ โมอาเหม็ด ออกจากตำแหน่งหลังเกมที่ 12 ของซีซั่น เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยคุมทีมลงเล่นเพียง 13 เกม สถิติชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 4 ก่อนตั้ง มิเกล การ์โดโซ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสเข้ามาสานงานต่อ 

ทว่า การ์โดโซ่ คุมทีมดังเมืองบีโก้ลงเล่นเพียง 15 เกม สถิติชนะ 3  เสม 2 แพ้ 10 จนเด้งตกเก้าอี้หลังการลงสนามนัดที่ 26 ของฤดูกาล ก่อน เซลต้า จะตั้ง ฟราน เอสกรีบา อดีตเทรนเนอร์บียาร์เรอัลเข้ามารับภารกิจนำทีมหนีการตกชั้นต่อไป 

บียาร์เรอัล ปรับเปลี่ยนเทรนเนอร์ในซีซั่นนี้ 3 ครั้งเช่นเดียวกัน แตกต่างจาก 2 ทีมแรกเฉพาะใช้เทรนเนอร์เพียง 2 คนเท่านั้น

ทีมเรือดำน้ำเหลืองตัดสินใจปลด ฆาเบียร์ กาเยฆา ซึ่งทำงานมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนปี 2017 ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม หลังการลงเล่นเกมที่ 15 พร้อมตั้ง หลุยส์ การ์เซีย ปลาซ่า เข้ามารับช่วงต่อ ทว่ามันเป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่หลังเทรนเนอร์วัย 46 ปีทำผลงานแย่กว่าคนเก่าด้วยซ้ำ สถิติคุมทีมลงเล่น 9 เกม ชนะ 1 เสมอ 5 แพ้ 3 

ดังนั้น เฟร์นานโด โรอิก ประธานสโมสรบียาร์เรอัลจึงไม่ลังเลที่จะเขี่ยทิ้งหลังการลงเล่นนัดที่ 21 ก่อนดึงคนเก่า ฆาเบียร์ กาเยฆา กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเทรนเนอร์วัย 40 ปีไม่ทำให้ผิดหวังหลัง บียาร์เรอัล ดีขึ้นทันตาเห็นจากผลงานชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 2 จากการคุมทีมลงเล่น 11 เกม

ส่วนที่เหลืออีก 5 สโมสรมีการเปลี่ยนเทรนเนอร์เพียงครั้งเดียว ไล่จาก อ้วยส์ก้า เป็นทีมแรกของลีกาที่สั่งปลดเทรนเนอร์ในซีซั่นนี้หลังการลงเล่นนัดที่ 8

ทีมน้องใหม่ อ้วยส์ก้า เลือกเทรนเนอร์มือใหม่หัดขับอย่าง เลโอนาร์โด้ ฟรังโก้ คุมทีมลงเล่นลีกาครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร นั่นคือความผิดพลาด แต่พวกเขายังไหวตัวทันปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหลังเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ทำผลงาน ชนะ 1 แพ้ 2 แพ้ 5 

แม้การมาของ ฟรานซิสโก้ โรดรีเกซ บิลเชซ จะไม่สามารถช่วยให้ อ้วยส์ก้า หลุดพ้นจากอันดับบ๊วยของลีกาหลังทำสถิติ ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 10 จากการลงเล่น 17 เกม ทว่าจากที่เคยหมดหวังยังกลับมามีโอกาสต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอีกครั้งในช่วง 10 นัดสุดท้ายของซีซั่น แม้ว่าจะริบหรี่ก็ตาม แต่ยังดีกว่าไม่มีโอกาสเลย

แอธเลติก บิลเบา ตั้ง เอดูอาร์โด้ เบรีซโซ่ เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์คุมทีมลงเล่นเพียง 15 เกม ก่อนถูกปลดหลังการลงเล่นนัดที่ 14 บนเวทีลีกาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ทำสถิติชนะ 2 เสมอ 8 แพ้ 5 ก่อนโปรโมต กาอีซก้า การีตาโน่ จากเทรนเนอร์ทีมเยาวชนขึ้นมารับช่วงต่อ 

ผลงานการคุมทีมของ การีตาโน่ โดดเด่นกว่าเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ชัดเจนจากสถิติชนะ 9 เสมอ 5 แพ้ 3 ส่วน เบรีซโซ่ ถูกปารากวัยดึงไปรับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติในปัจจุบัน

เรอัล โซเซียดาด ปลด อาเซียร์ การีตาโน่ ออกจากตำแหน่งหลังการลงเล่นนัดที่ 17 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังการคุมทีมลงเล่น 19 เกม สถิติชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 8 ก่อนโปรโมตเทรนเนอร์ทีมเยาวชน อีมานอล อัลกวาซิล ขึ้นมาทำหน้าที่แทน 

อัลกวาซิล เทรนเนอร์วัย 47 ปีทำทีม'ลา เรอัล'เล่นเหนียวแน่นขึ้นชัดเจน ทำสถิติชนะ 4 เสมอ 7 แพ้ 2 จากการลงเล่น 13 เกม 

เซบีย่า สั่งปลด ปาโบล มาชิน ออกจากตำแหน่งไล่หลัง เรอัล มาดริด ตะเพิด ซานติอาโก้ โซลารี่ เพียงไม่กี่วัน หลังอดีตเทรนเนอร์คีโรน่าทำทีมเซบียาโน่กระเด็นตกรอบ 16 ทีมของศึกยูโรปาลีกแบบน่าผิดหวัง

เทรนเนอร์วัย 43 ปี ทำสถิติชนะ 26 เสมอ 9 แพ้ 15 จากการลงเล่นทุกรายการ 50 เกม แต่นอกจากจะหมดลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้วยังสุ่มเสี่ยงต่อการพลาดตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย สโมสรจึงจำเป็นต้องรีบแก้ไขก่อนจะสายเกินการณ์ด้วยการมอบหน้าที่ให้ ฆัวกิน กาปาร์รอส จากผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลลงมาดูแลทีมแทน 

กาปาร์รอส เจิมนัดแรกในฐานะเทรนเนอร์ด้วยการนำทีมดังแคว้นอันดาลูเซียบุกเชือด เอสปันญ่อล 1-0 ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะนอกบ้านบนเวทีลีกาครั้งแรกในรอบครึ่งปีของทีมด้วย 

ก่อนมาถึงคิว มิเชล ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ที่ถูกปลดเป็นคนล่าสุดของลีกาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ครั้งที่ 11 ของฤดูกาลเทียบเท่าซีซั่น 2016-17 และ 2014-2015 ตามหลังฤดูกาล 2017-2018 ที่มีการเปลี่ยนเทรนเนอร์ 12 ครั้งเพียงซีซั่นเดียวเท่านั้น 

แต่ยังมีโอกาสที่บางสโมสรอาจเลือกการเปลี่ยนเทรนเนอร์ในช่วง 10 เกมสุดท้ายของซีซั่นเช่นเดียวกันโดยเฉพาะบรรดาทีมที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นอย่าง เรอัล บายาโดลิด, เลบันเต้ หรือ เลกาเนส หากสถานการณ์ของทีมยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น