ตัวแทนบัลเบร์เด้!?!?
ควันหลงจาก'หายนะ'ที่เกิดขึ้นบนสังเวียนแอนฟิลด์คือการตามหา'แพะ'ที่ต้องรับผิดชอบต่อการตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกแบบน่าอับอายครั้งล่าสุด
สื่อแคว้นกาตาลุนย่า'มุนโด้เดปอร์ติโบ'ตั้งประเด็นสอบถามแฟนบอลว่าใครสมควรรับผิดชอบต่อการหลุดวงโคจรแชมเปี้ยนส์ลีกมากที่สุด?
นักเตะ?, เทรนเนอร์? หรือ ฝ่ายบริหาร?
จากคนร่วมโหวตแสดงความคิดเห็นราว 31,000 คน ปรากฎว่าคะแนนเสียงท่วมท้นโหวต เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เป็น'แพะ'สูงเกือบ 65 เปอร์เซนต์ หรือราว 20,000 คน ลำดับรองมามองว่าเป็นความรับผิดชอบของนักเตะราว 30 เปอร์เซนต์ หรือประมาณ 9,400 คน ส่วนฝ่ายบริหารมีส่วนรับผิดชอบเพียงราว 5 เปอร์เซนต์เท่านั้น
สาวกบาร์เซโลนีสต้าส่วนใหญ่มองว่า เอร์เนสโต้ เคยมีบทเรียนสอนใจเมื่อปีก่อนหลังการตกรอบควอเตอร์ไฟนัลของรายการนี้ทั้งที่เปิด'คัมป์ นู'ถล่ม โรม่า ในเกมแรก 4-1 แต่ยังกล้าๆแพ้ทีมหมาป่าในการเยือนกรุงโรม 0-3 จนหลุดออกนอกเส้นทางด้วยกฎประตูทีมเยือน แต่เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังก่อความผิดพลาดซ้ำสองจนพบกับ'หายนะ'ที่แอนฟิลด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
แม้จะชนะเกมแรกมาก่อน 3-0 แต่ยังตกรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยสกอร์รวม 3-4 แน่นอนว่าคนเป็นเทรนเนอร์ต้องยืดอกแสดงความรับผิดชอบโดยตรง
สื่อกาตาลันชำแหละการวางแผนของเทรนเนอร์ว่ามีหลายจุดที่ผิดพลาดจนทำให้ทีมอาซูลกราน่าล้มเหลวอีกครั้งในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก
บัลเบร์เด้ เลือกจัดทัพในเกมเยือนแอนฟิลด์ไม่ต่างจากเกมแรกที่'คัมป์ นู'โดยเฉพาะการส่ง เซร์จี้ โรเบร์โต้ ลงเล่นแบ็กขวา ขณะที่ เนลซอน เซเมโด้ แบ็กชาวโปรตุกีสมีชื่อเป็นสำรอง ทั้งที่การจัดทีมลักษณะดังกล่าวมันไม่ได้ผลนักในช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกของเกมที่'คัมป์ นู'ก่อน บัลเบร์เด้ จะปรับหมากด้วยการส่ง เซเมโด้ ลงมาเล่นแบ็กขวาและขยับเซร์จี้ขึ้นมาเล่นแดนกลาง
เซเมโด้ เล่นเกมป้องกันดีกว่าเพราะเป็นกองหลังอาชีพ ขณะที่ เซร์จี้ โรเบร์โต้ เป็นตัวช่วยไล่บอลในแดนกลางและสามารถช่วยผ่อนภาระของ อาร์ตูโร่ วีดาล ได้ดี แต่ บัลเบร์เด้ เลือกที่จะจัดทัพรูปแบบเดิมทั้งที่มองเห็นจุดด้อยมาจากเกมแรก รวมถึงช่วงครึ่งแรกที่แอนฟิลด์ซึ่ง เซร์จี้ แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาในการรับมือกับ ซาดิโอ มาเน่ หรือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
แม้เทรนเนอร์ชาวบาสโก้จะปรับหมากมาเล่นรูปแบบดังกล่าวในช่วงนาทีที่ 60 หลังส่ง เซเมโด้ ลงเล่นแทน ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ แต่มันสายเกินการณ์เนื่องจากทีมอาซูลกราน่าเสียโมเมนตัมไปแล้วหลังตกเป็นฝ่ายตามถึง 0-3 ซึ่ง บัลเบร์เด้ ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงพักครึ่ง
ข้อผิดพลาดต่อมาเกี่ยวข้องกับจุดแรกนั่นคือการเดิมพันกับ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ ของ บัลเบร์เด้ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
เทรนเนอร์เลือกส่ง กูตินโญ่ ลงเล่นตัวจริงทั้งสองเกมโดยคาดหวังประสบการณ์ของนักเตะที่เคยเล่นในอังกฤษรับมือกับทีมเมืองผู้ดี แต่ถูกถอดออกจากสนามทั้งสองนัดเนื่องจากเพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเเลียนสอบตกและส่งเซเมโด้ลงเล่นแทนในช่วงนาที 60 ทั้งเกมที่'คัมป์ นู'รวมถึงแอนฟิลด์
สถานการณ์หรือโจทย์แต่ละช่วงเวลามันแตกต่างกัน แต่ บัลเบร์เด้ กลับเลือกใช้คำตอบเดียวกัน มันอาจเป็นการตอบโจทย์ข้อแรก แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับข้อสอง
อีกหนึ่งการตัดสินใจพลาดของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้คือการถอด อาร์ตูโร่ วีดาล ออกจากสนามช่วงนาที 75 เพื่อส่ง อาร์ตูร์ เมโล่ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนลงเล่นแทน ทั้งที่มิดฟิลด์ทีมชาติชิลีเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานดีที่สุดในสนามของทัพอาซูลกราน่า
วีดาล เล่นด้วยความทุ่มเท, สู้ทุกจังหวะและยังสามารถแย่งบอลกลับคืนมาได้หลายครั้ง ทว่าเทรนเนอร์ชาวบาสโก้กลับตัดสินใจที่จะถอดตัวจุดประกายออกจากทีมทำให้แดนกลางของลิเวอร์พูลไม่ถูกกดดันเหมือนที่ควรจะเป็นและความดุดันก้าวร้าวของบาร์ซ่าขาดหายไปอย่างชัดเจน นั่นคือการเลือกทิ้งไพ่ผิดใบของ บัลเบร์เด้
การเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายของ บัลเบร์เด้ ในการเลือกส่ง มัลคอม ซิลวา ลงเล่นแทน อีวาน ราคิติช ช่วงนาที 80 เกิดขึ้นสายเกินไปหลังการก่อความผิดพลาดแบบอ่อนหัดจนเสียประตูที่ 4 ก่อนหน้านั้น แต่มันไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการพลิกสถานการณ์ ก่อนทีมดังแคว้นกาตาลุนย่าจะตกรอบแบบหมดสภาพ
จาก'หายนะ'ที่แอนฟิลด์ทำให้บรรดากูรูลูกหนังสเปนหลายคนมองว่า บัลเบร์เด้ อาจจะไม่ได้ไปต่อกับทีมอาซูลกราน่า แม้ว่าทีมยักษ์กาตาลุนย่าเพิ่งจะใช้อ็อปชั่นขยายสัญญาของเทรนเนอร์วัย 55 ปีไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2020 ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
บัลเบร์เด้ นำทีมอาซูลกราน่าฟาด'ดับเบิ้ลแชมป์'ตั้งแต่การคุมทีมซีซั่นแรกทั้ง ลา ลีกา กับ โกปา เดล เรย์ และเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังมีโอกาสสำเร็จอีกครั้งหากนำต้นสังกัดล้ม บาเลนเซีย ในนัดชิงชนะเลิศของศึก'โกปา เดล เรย์'ในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมนี้ตามเป้าหมาย
ทว่าอนาคตของ บัลเบร์เด้ ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาจะได้ไปต่อกับทีมอาซูลกราน่าหรือไม่ อีกไม่นานน่าจะทราบคำตอบหลังฝ่ายบริหารบาร์เซโลน่าเตรียมนัดประชุมในวันจันทร์นี้เพื่อประเมินความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกแบบน่าผิดหวังและการพูดคุยเรื่องอนาคตของเทรนเนอร์จะเป็นหนึ่งในวาระการประชุมด้วย
บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว 5 สมัย ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นตั้งแต่ซีซั่น 2014-2015 หลังทีมยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ นำทีมยักษ์กาตาลุนย่าคว้า'ทริเปิ้ลแชมป์'ในฤดูกาลดังกล่าว ทั้งสโมสรและแฟนบอลต่างคาดหวังกับรายการนี้ไม่น้อยโดยเฉพาะซีซั่นนี้ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศและยังเป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมแรกด้วยสกอร์ 3-0
ฝ่ายบริหารของบาร์เซโลน่าจะประชุมในวันจันทร์เพื่อประเมินผลงานของ บัลเบร์เด้ เป้าหมายของสโมสรคือการเดินหน้าล่าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 แต่พวกเขาต้องพิจารณาอย่างรอบด้านว่าเทรนเนอร์ชาวบาสโก้จะเป็นคนที่ใช่สำหรับภารกิจดังกล่าวหรือไม่ ความล้มเหลวทั้งที่กรุงโรมและแอนฟิลด์จะตามหลอกหลอนบัลเบร์เด้จนไปถึงซีซั่นหน้าหรือไม่หากเขายังได้รับโอกาสแก้ตัวอีกหนึ่งฤดูกาล
แต่ถึงตอนนี้เริ่มมีการเอ่ยถึงชื่อเทรนเนอร์คนต่อไปของ บาร์เซโลน่า เช่นกันหากทีมยักษ์กาตาลุนย่าตัดสินใจปลด บัลเบร์เด้ ซึ่งมี 6 คนที่ถูกนำมาเอี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว
1.เปาโล อเล็กซานเดร โรดรีเกส ฟอนเซก้า
เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสวัย 46 ปีของ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ถูกกล่าวถึงทั่วภาคพื้นยุโรปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลังเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก มีร์เซีย ลูเชสคู ซึ่งคุมทีมมานาน 12 ซีซั่นตั้งแต่ปี 2016 ก่อนนำทีมดังยูเครนคว้าดับเบิ้ลแชมป์ 2 ครั้ง (2016-17 กับ 2017-18)
จากระบบ 4-2-3-1 ของ ฟอนเซก้า มีส่วนทำให้แบรนด์ชัคตาร์กลับมาเล่นฟุตบอลแบบน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งและมิดฟิลด์อย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาร์ตูโร่ วีดาล กับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง น่าจะเข้ากับระบบการเล่นของเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสอย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะเคยมีปัญหาในการรับมือกับ แมนฯซิตี้ ของ'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า แต่ ชัคตาร์ ทำได้ดีกว่าทั้ง ฮอฟเฟนไฮม์ และ ลียง
สื่อเมืองกระทิงจึงมองว่า เปาโล ฟอนเซก้า มีโอกาสฉายแววเก่งมากยิ่งขึ้นหากมีโอกาสมาร่วมงานกับทีมที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งอย่างทัพอาซูลกราน่า
2.เอริค เทน ฮาก
หลายคนชื่นชอบการทำงานของเขาจากผลงานของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงบนเวทียุโรปซีซั่นนี้ก่อนจะอกหักตกรอบรองชนะเลิศแบบน่าชื่นชม
เทน ฮาก สร้างทีมตามปรัชญาของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ตามรอยตำนานอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ โดยเฉพาะการครองบอลและผ่านบอลจนสามารถโค่นทีมแกร่งอย่าง เรอัล มาดริด กับ ยูเวนตุส ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกก่อนหน้านี้
รูปแบบการทำทีมของ เทน ฮาก จะเข้ากับระบบและปรัชญาของ บาร์เซโลน่า แม้ว่าเทรนเนอร์วัย 49 ปีเพิ่งจะประสบความสำเร็จครั้งแรกกับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ด้วยการคว้าแชมป์ ดัตช์ คัพ ซีซั่นนี้ก็ตาม แต่ เทน ฮาก ยังมีโอกาสนำต้นสังกัดส่งฤดูกาลด้วยการคว้า'ดับเบิ้ลแชมป์'หลังจ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์ปีนี้
3.มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล
มาร์เซลีโน่ พิสูจน์ผลงานบนเวทีลีกากับ เซบีย่า, บียาร์เรอัล มาจนถึง บาเลนเซีย ในปัจจุบัน แต่เทรนเนอร์วัย 53 ปีสามารถสร้างทีมด้วยการผสมผสานระหว่างทรัพยากรนักเตะที่มีอยู่ในมือกับการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมภายใต้งบประมาณการทำทีมแบบจำกัด
แนวทางการทำงานของ มาร์เซลีโน่ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับ บาร์เซโลน่า ที่มี'ลา มาเซีย'ศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนเป็นรากฐานสำคัญของสโมสร
จุดแข็งของ มาร์เซลีโน่ คือการทำฟุตบอลเล่นเกมรุก แต่เทรนเนอร์วัย 53 ปีไม่ลืมการเล่นเกมป้องกันเช่นเดียวกัน เขาจะสร้างทีมให้เล่นเกมรับมั่นคงแข็งแรง เมื่อทีมมีหลังบ้านแน่นหนาแล้วก็น่าจะทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ และผองเพื่อนเล่นเกมรุกแบบสบายใจมากยิ่งขึ้นด้วย
4.เอ็นรีเก้ เซเตียน
ในลา ลีกา มีเทรนเนอร์เพียงไม่กี่คนที่ทำทีมสร้างความตื่นเต้นในฤดูกาลนี้และหนึ่งในนั้นคือ เอ็นรีเก้ เซเตียน เทรนเนอร์วัย 60 ปีของ เรอัล เบติส จนมีข่าวเชื่อมโยงกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงที่ยังไม่ขยายสัญญากับ บัลเบร์เด้
อย่างไรก็ตามชื่อของเทรนเนอร์วัย 60 ปีหลุดไปจากสารบบในช่วงหลังเนื่องจากทีมเบตีโก้ออกอาการเป๋ในช่วงท้ายซีซั่นจนพลาดหวังคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้าจนมีข่าวว่าทีมดังแคว้นอันดาลูเซียอาจจะปลด เซเตียน ออกจากตำแหน่งก่อนจะเปิดโอกาสให้ทำงานต่อและจะตัดสินอนาคตของเทรนเนอร์อีกครั้งหลังจบซีซั่นนี้
ทว่าจากความล้มเหลวของ เรอัล เบติส ไม่ใช่ความผิดทั้งหมดของ เซเตียน เนื่องจากทีมเบตีโก้ยังเล่นกันได้ดี ทีมของเทรนเนอร์วัย 60 ปีจะเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าคู่แข่งและสร้างโอกาสทำประตูต่อเนื่อง เพียงแต่ผลการแข่งขันมันไม่เป็นใจเท่านั้น ส่วนหนึ่งมาจากคุณภาพนักเตะโดยเฉพาะตัวจบสกอร์
เซเตียน เป็นเทรนเนอร์ที่เน้นให้นักเตะเป็นฝ่ายครองบอลและผ่านบอลเข้าไปทะลวงประตูคู่แข่ง ซึ่งเป็นสไตล์การทำทีมที่บาร์ซ่าต้องการแน่นอน แม้จะมีตำหนิเล็กน้อยจากผลงานการทำทีมเบตีโก้ในซีซั่นนี้ แต่ยังมีแฟนบอลจำนวนไม่น้อยเชียร์ให้สโมสรเซ็นสัญญากับเทรนเนอร์วัย 60 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้
5.ปาโบล มาชิน
เทรนเนอร์วัย 44 ปีกำลังว่างงานหลังถูก เซบีย่า ปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหลังทำผลงานย่ำแย่ไม่ได้ผลการแข่งขันอย่างที่ต้องการแม้ว่าทีมของเขาจะเล่นฟุตบอลสวยงามก็ตาม นับตั้งแต่การคุมทีมเล็กๆอย่าง คีโรน่า ในช่วงปี 2014-2018
ทีมของ มาชิน จะเล่นต่อบอลสั้นและนักเตะเคลื่อนที่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงที่คุม คีโรน่า ที่เล่นรูปแบบดังกล่าวจนสามารถทำประตูได้มากมายและคว้าผลการแข่งขันที่ต้องการ
อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์วัย 44 ปียึดระบบ 3 เซนเตอร์เป็นหลักทั้ง 3-4-2-1 หรือ 5-2-2-1 โดยเน้นเกมป้องกันเป็นหลักและรอหาจังหวะสวนกลับเร็วซึ่งเหมาะกับการคุมทีมเล็กๆ แม้ชื่อของ มาชิน จะถูกบาร์เซโลน่านำมาพิจารณาในบางช่วง แต่เขามักจะถูกเขี่ยออกจากตัวเลือกอย่างน้อย 1 หรือ 2 ครั้ง
6.ชาบี เอร์นานเดซ
อีกหนึ่งตำนานของสโมสรที่ประกาศอำลาอาชีพค้าแข้งหลังจบซีซั่นนี้เพื่อเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะเทรนเนอร์ต่อไปและเขาไม่เคยปิดบังความปรารถนาว่าต้องการกลับมาเป็นเทรนเนอร์ของบาร์เซโลน่าอนาคต
ชาบี เริ่มฝึกฝนงานโค้ชขณะที่ยังเป็นผู้เล่นของ อัล ซาดด์ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและเขาทราบดีว่าทีมควรจะเล่นอย่างไรและยังเคยเป็นส่วนสำคัยของ บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่เปลี่ยนศตวรรษ หลังอยู่กับทีมอาซูลกราน่ามาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปี 2015
อย่างไรก็ตามดาวเตะวัย 39 ปียังไม่มีประสบการณ์ทำงานในฐานะเทรนเนอร์ ดังนั้นมันจึงเร็วเกินไปสำหรับ ชาบี ที่จะรีบกลับมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า แม้ว่าจะมีหลายคนมองว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีในการเลือกใช้งานคนที่รู้จักตัวตนของสโมสรอย่างลึกซึ้งมารับงานนี้ก็ตาม
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT