'สงคราม 7 ปีของ บาร์ซ่า กับ เปแอสเช'
ตั้งแต่'กาตาร์ อินเวสต์เมนต์'เข้ามาครอบครองสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี 2011 กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางนำ เปแอสเช ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในขาใหญ่ของตลาดนักเตะเบียดแบบไหล่ต่อไหล่ในการไล่ล่าผู้เล่นเป้าหมายแย่งกับบรรดาขาประจำก่อนหน้านี้
เปแอสเช ยุคมหาเศรษฐีจากกาตาร์ประเดิมจั่ว ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ เป็นผู้เล่นค่าตัวแพงรายแรกที่ย้ายจาก ปาแลร์โม่ ด้วยค่าตัว 42 ล้านยูโรในช่วงซัมเมอร์ปี 2011 นับจนถึงปัจจุบันทีมดังเมืองน้ำหอมช้อปปิ้งนักเตะรวมกันด้วยมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านยูโร
แต่การทำธุรกิจไม่ว่าจะวงการไหนมีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เว้นแม้กระทั่งวงการฟุตบอลที่มักจะมีการเปิดศึกนอกสนามเพื่อแย่งชิงนักเตะเป้าหมายที่สโมสรต้องการ
นั่นจึงเป็นที่มาของสาย'เกาเหลา'กลายเป็นสงครามระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ บาร์เซโลน่า อีกหนึ่งขาใหญ่ของตลาดนักเตะ สืบเนื่องจากทั้งสองสโมสรมักจะเปิดศึกแย่งชิงนักเตะมาโดยตลอดนับตั้งแต่ เปแอสเช ถูกหวยได้กลุ่มทุน'กาตาร์ อินเวสต์เมนต์'เข้ามาเป็นกระเป๋าเงิน ส่วนใหญ่ทีมอาซูลกราน่าจะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้พลังทรัพย์ของทีมดังเมืองน้ำหอมด้วย
จุดเริ่มต้นความขัดแย้งตลอด 7 ปีที่ผ่านมาระหว่างสองสโมสรเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ซึ่ง บาร์เซโลน่า ตามจีบ ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์ทีมชาติบราซิลของ มิลาน มาเป็นเวลานานเนื่องจากต้องการดึงเข้ามาเป็นตัวแทนระยะยาวของ การ์เลส ปูโยล ที่ใกล้วัยเกษียณ ก่อนที่ เปแอสเช จะโดดร่วมวงแย่งนักเตะและสวมบท'ป๋า'เปย์ค่าตัวให้ทีมปีศาจแดง-ดำ 42 ล้านยูโรปาดหน้าดึงเซนเตอร์ทีมแซมบ้ามาร่วมทีมสำเร็จ
บาร์เซโลน่า ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่อคู่ปรับหน้าใหม่จากฝรั่งเศสในตลาดนักเตะยกแรก ถึงจะมีบางคนตราหน้านักเตะว่าย้ายไปเพราะเห็นแก่เงินที่ เปแอสเช เปย์ค่าเหนื่อยมากกว่า แต่มันอาจเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นจากความผิดหวังที่เกิดขึ้นเท่านั้น แม้ว่าการปฏิเสธสโมสรที่มีประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักบนเวทีลูกหนัง
ภารกิจของทีมอาซูลกราน่ายังคงเป็นการตามหา'ทายาท'ของ ปูโยล ต่อไป จนกลายเป็นการแลกหมัด'ยกสอง'เพื่อชิงตัว มาร์กินโญส กองหลังชาวบราซิเลียนของ โรม่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ก่อนทีมยักษ์กาตาลุนย่าจะถูกหมัดน็อกอีกครั้ง หลัง เปแอสเช ดึงเซนเตอร์ทีมชาติบราซิลเข้าสังกัดด้วยค่าตัว 31.4 ล้านยูโร เรื่องเงินค่าตัวพอสู้ไหว แต่ที่บาร์ซ่าสู้ไม่ได้คือการจ่ายค่าเหนื่อยหนักกว่าของทีมดังเมืองน้ำหอม
ท้ายที่สุดทีม'เลือดหมู-น้ำเงิน'ต้องใช้แผนสำรองด้วยการเซ็นสัญญากับยอดกองหลังอย่าง เฌเรมี มาติเยอ กับ โธมัส แฟร์มาเล่น จาก บาเลนเซีย และ อาร์เซน่อล มาแก้ขัดตามลำดับ
ทั้งสองทีมเว้นวรรคการเปิดศึกในตลาดนักเตะพักใหญ่จนกระทั่ง บาร์เซโลน่า เริ่มก่อชนวนในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 หลังลักลอบตีท้ายครัว เปแอสเช ด้วยการทาบทาม มาร์โก แวร์รัตติ ที่ทีมยักษ์กาตาลุนย่ามองว่าจะเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของ ชาบี เอร์นานเดซ ทว่าความพยายามของ บาร์เซโลน่า จะกลายเป็นหมันแล้วยังถูก เปแอสเช เอาคืนแบบทบต้นทบดอกด้วย
สงครามระหว่างสองสโมสรร้อนระอุตลอดช่วงซัมเมอร์ปีนั้นหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กลับมาทาบ เนย์มาร์ อีกครั้งหลังเคยตามจีบมาแล้วในช่วงหน้าร้อนปีก่อน แต่ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเนื่องจากกองหน้าชาวบราซิเลียนอยากย้ายหนีหลืบเงาของ ลิโอเนล เมสซี่ และที่สำคัญเหนือกว่านั้นคือการรับค่าเหนื่อยอู้ฟู่แบบที่บาร์ซ่าจ่ายให้เขาไม่ได้ตกปีละ 30 ล้านยูโรหลังหักภาษี
แม้ว่า เปแอสเช จะต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาเป็นเงินถึง 222 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติโลกของการย้ายสังกัดนักเตะมาจนถึงปัจจุบัน แต่เงินจำนวนดังกล่าวไม่เป็นปัญหาสำหรับกลุ่มทุนกาตาร์แม้แต่น้อย
บาร์เซโลน่า วิ่งแบบขาขวิดเพื่อหาตัวแทนของ เนย์มาร์ ภายใต้เวลากระชั้นชิด ก่อนหน้ามืดเซ็นสัญญากับ อุสมาน เดมเบเล่ กองหน้าวัยรุ่นของ ดอร์ทมุนด์ ที่เพิ่งแจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังเพียง 2 ปี ด้วยค่าตัวสูงถึง 105 ล้านยูโร
จากนั้นทีมอาซูลกราน่าพยายามจะดึง ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียนของ ลิเวอร์พูล แต่ไม่ประสบความสำเร็จ รวมถึงแผน'ซี'อย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ก็ถูก เปแอสเช โก่งค่าตัวสูงถึง 80 ล้านยูโร มากกว่าที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์ซ่าตั้งงบไว้ถึง 20 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จในการดึง กูตินโญ่ เข้าสู่ถิ่น'คัมป์ นู'ในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 แต่ก็ต้องจ่ายค่าตัวราว 145 ล้านยูโร นับรวมกันค่าตัว เดมเบเล่ นั่นเท่ากับว่าทีมอาซูลกราน่าเสียเงินมากกว่าการย้ายสังกัดของ เนย์มาร์ ด้วยซ้ำ
ทั้งสองทีมยังป่วนอีกฝ่ายกันอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นโดยในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยื่นข้อเสนอ 85 ล้านยูโรเพื่อขอซื้อ อีวาน ราคิติช แต่ บาร์เซโลน่า ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ยอมปล่อยนักเตะออกจาก'คัมป์ นู'เว้นเสียแต่ว่า เปแอสเช จะหน้ามืดอีกครั้งด้วยการจ่าย 120 ล้านยูโรเพื่อฉีกสัญญานักเตะ
บาร์เซโลน่า ป่วนคืนด้วยการทาบทาม อาเดรียง ราบิโอต์ จนมีส่วนทำให้มิดฟิลด์วัย 23 ปีบ่ายเบี่ยงสัญญาฉบับใหม่จาก เปแอสเช ในช่วงเดือนมกราคมปี 2019 จนทีมดังฝรั่งเศสขู่จะฟ้องร้องฟีฟ่าที่ทีมอาซูลกราน่าเข้ามาวุ่นวายกับนักเตะในสังกัด ท้ายที่สุดราบิโอต์ตัดสินใจแยกทางกับสโมสรหลังหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายน แต่จุดหมายไม่ใช่'คัมป์ นู'แต่อาจจะลงเอยกับ ยูเวนตุส
ก่อนสองสโมสรจะเปิดฉากแลกหมัดกันในตลาดนักเตะอีกยกในศึกชิงตัว เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม สืบเนื่องจากนักเตะมีใจให้ทีมยักษ์กาตาลุนย่ามากกว่า
ถึงกระนั้นทีมอาซูลกราน่าก็ต้องทุ่มทุนถึง 75 ล้านยูโรบวกกับอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 11 ล้านยูโรเพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะ ซึ่งต้องยอมรับว่าการเข้ามาของ เปแอสเช มีส่วนทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นด้วย
แต่การพลาดคว้าตัว เดอ ย็อง ทำให้ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธาน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รู้สึกหงุดหงิดกับการทำงานของ อันเตโร่ เอ็นรีเก้ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาชาวโปรตุกีส กอปรกับความขัดแย้งกับ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมันส่งผลให้ ผอ.วัย 51 ปีถูกเด้งออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมาพร้อมการดึง เลโอนาร์โด้ กลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง
ภารกิจหลักของ เลโอนาร์โด้ คือการไล่ล่าตัว มัทไธส์ เดอ ลิกต์ เซนเตอร์ดาวรุ่งทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า เช่นเดียวกัน แต่มันไม่ใช่เป็นการดวลแบบตัวต่อตัวเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากกองหลังวัย 19 ปีตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสร
แม้ บาร์เซโลน่า จะเป็นทีมเต็งที่มีโอกาสคว้านักเตะเข้าทีมในช่วงแรกก็ตาม แต่สถานการณ์แปรเปลี่ยนกลายเป็น เปแอสเช กับ ยูเวนตุส ที่มีโอกาสเซ็นสัญญากับเซนเตอร์ชาวดัตช์เนื่องจากทั้งสองสโมสรพร้อมจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโตมัดใจนักเตะและที่สำคัญพวกเขาพร้อมเปย์ให้ตามข้อเรียกร้องของ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของนักเตะด้วย
ทว่าศึกยกล่าสุดนี้ทั้ง บาร์เซโลน่า กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อาจตกเป็นฝ่ายผิดหวังทั้งคู่ หลัง ยูเวนตุส อาจจะสวมบท'ตาอยู่'คว้า เดอ ลิกท์ ไปร่วมทีมตามความประสงค์ของ ไรโอล่า ซึ่งกองหลังชาวดัตช์ก็ยอมรับการตัดสินใจของเอเยนต์ด้วยเช่นกัน
ศึกนอกสังเวียนระหว่าง บาร์ซ่า กับ เปแอสเช ยังไม่ยุติลงเพียงเท่านี้โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ เนย์มาร์ ซึ่งพยายามดิ้นรนที่จะย้ายกลับ'คัมป์ นู'ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่เรื่องราวของซุปตาร์ชาวบราซิเลียนอาจจะเป็น'มหากาพย์'ที่ต้องติดตามกันตลอดช่วงหน้าร้อนว่ากองหน้าทีมชาติบราซิลจะได้กลับบ้านอย่างที่เขาคาดหวังหรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT