สถิติใหม่ของตลาดเมืองกระทิง
ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ผ่านมาราว 3 สัปดาห์ ปรากฎว่าสโมสรเมืองกระทิงถลุงเงินรวมกันไปแล้วมากกว่าพันล้านยูโรทำลายสถิติเดิมที่เคยจ่ายรวมกันในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน 866 ล้านยูโรลงแบบราบคาบ
ยอดใช้จ่ายล่าสุดตามรายงานระบุว่าพุ่งแตะหลัก 1,167 ล้านยูโร (นับเฉพาะขาเข้า) ซึ่งมีแนวโน้มว่าตัวเลขยังไม่หยุดลงเพียงเท่านี้ด้วยจนกว่าตลาดจะปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม
จากตัวเลข 1,167 ล้านยูโร เป็นผลงานของ 3 ขาใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และ บาร์เซโลน่า รวมกันเกือบ 800 ล้านยูโรหรือมากกว่า 3 ใน 4 ของยอดใช้จ่ายทั้งหมดตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เรอัล มาดริด เขย่าตลาดนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ตามการคาดหมายหลังล้มเหลวแบบไม่เป็นท่าในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา ทีม'โลส บลังโกส'ควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อนักเตะไล่เรียงกัน 5 คน มูลค่ารวม 303 ล้านยูโร
ทีมชุดขาวจ่ายเงินล่วงหน้า 95 ล้านยูโรเพื่อแลกกับ เอแดร์ มิลิเตา กองหลังทีมชาติบราซิลจาก ปอร์โต้ 50 ล้านยูโร กับ โรดรีโก้ โกเอส ดาวรุ่งชาวบราซิเลียนของ ซานโตส อีก 45 ล้านยูโร ก่อนกดเพิ่มอีก 3 คนทันทีที่ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์เปิดอย่างเป็นทางการไล่จาก เอแด็น อาซาร์ จาก เชลซี 100 ล้านยูโร, ลูก้า โยวิช จาก แฟร้งค์เฟิร์ต 60 ล้านยูโร กับ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ จาก ลียง 48 ล้านยูโร
การเขย่าตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ของ เรอัล มาดริด จึงทำให้ทีมชุดขาวขึ้นแท่นเป็นทีมที่จ่ายเงินซื้อผู้เล่นใหม่รวมกันมากสุดของลีกเมืองกระทิง ณ ตอนนี้ แต่ตัวเลขมีโอกาสขยับทะลุหลัก 400 ล้านยูโร ถ้าหากพวกเขาประสบความสำเร็จในการดึง ปอล ป็อกบา มาจาก แมนฯยูไนเต็ด ก่อนตลาดวาย
ทัพ'โลส บลังโกส'ยังพอลดต้นทุนได้บ้างจากการปล่อย มาเตโอ โควาชิช, มาร์กอส ยอเรนเต้, ราอูล เด โตมาส กับ เตโอ แอร์กน็องเดซ ด้วยมูลค่ารวมกัน 115 ล้านยูโร แต่ทีมชุดขาวยังหวังหาทุนเพิ่มเติมจากการขาย ฮาเมส โรดรีเกซ กับ แกเร็ธ เบล ซึ่งน่าจะมีค่าตัวรวมกันมากกว่า 100 ล้านยูโร
ขณะที่ยอดค่าใช้จ่ายของ บาร์เซโลน่า พุ่งกระฉูดเกินกว่า 200 ล้านยูโรทันทีที่พวกเขาจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่า 120 ล้านยูโรของ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด ขยับยอดรวมกันเป็น 237 ล้านยูโร
ทีมอาซูลกราน่าจ่ายเงินไปก่อนหน้านี้ 75 ล้านยูโรเพื่อเซ็นล่วงหน้ากับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ต่อด้วย เนโต้ นายทวารชาวบราซิเลียนจาก บาเลนเซีย 26 ล้านยูโร, เอแมร์ซอน แบ็กขวาดาวรุ่งชาวบราซิเลียนจาก อัตเลติโก มิเนยโร่ 12 ล้านยูโร และอีก 4 ล้านยูโรเพื่อดึง มาร์ก กูกูเรย่า แบ็กดาวรุ่งกลับมาจาก เออิบาร์
แต่ยอดใช้จ่ายของทีมยักษ์กาตาลุนย่าอาจพุ่งทะเพดาน 400 ล้านยูโรถ้าหากพวกเขากล้าและหน้ามืดพอที่จะทุ่มงบจำนวนมหาศาลเพื่อดึง เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ กลับมาค้าแข้งในถิ่น'คัมป์ นู'อีกครั้ง
บาร์เซโลน่า พยายามลดต้นทุนการผลิตลงบ้างจากการปล่อย ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น นายทวารชาวดัตช์ย้ายไป บาเลนเซีย มูลค่า 35 ล้านยูโร, อันเดร โกเมส เซ็นสัญญาถาวรกับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร, เดนิส ซูอาเรซ ย้ายไป เซลต้า บีโก้ 12.9 ล้านยูโร, มาร์ก การ์โดน่า ไป โอซาซูน่า 2.5 ล้านยูโร กับ เซร์จี้ ปาเลนเซีย ไป แซงต์ เอเตียน 2 ล้านยูโร
แอตเลติโก มาดริด เป็นอีกทีมที่ทำผลงานร้อนแรงในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้หลังยอดใช้จ่ายของทีมตราหมีพุ่งทะยานขึ้นมาถึง 243.5 ล้านยูโร จากการสร้างประวัติศาตร์เซ็นสัญญากับ ชูเอา เฟลิกซ์ แนวรุกดาวโรจน์ของ เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวแพงสุดของสโมสร 126 ล้านยูโร
ทัพ'โกลโชเนโรส'ยังเติมแข้งใหม่อีก 6 รายทั้ง มารีโอ เอร์โอโซ่ จาก เอสปันญ่อล 25 ล้านยูโร, คีแรน ทริปเปียร์ จาก สเปอร์ส 22 ล้านยูโร, เฟลีเป้ เอากุสโต้ เดอ อัลเมยด้า มอนเตยโร่ จาก ปอร์โต้ 20 ล้านยูโร, เรนาน โลดี้ แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวบราซิเลียนจาก อัตเลติโก พาราเนนเซ่ 20 ล้านยูโร และ อีวาน ชาพอนยิช กองหน้าดาวรุ่งชาวเซิร์บจาก เบนฟิก้า อีก 5 แสนยูโร
แอตเลติโก มาดริด จ่ายเงินซื้อนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้มากสุดเป็นประวัติการณ์ของสโมสรก็จริง แต่ทีมตราหมียังไม่ได้ควักทุนแม้แต่ยูโรเดียวหลังการปล่อยนักเตะออกจากสังกัดด้วยมูลค่ารวมกันถึง 311.1 ล้านยูโร โดยเฉพาะ 3 ตัวเป้งอย่าง อองตวน กรีซมันน์, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ กับ โรดรีโก้ เอร์นานเดซ โรดรี้ ทำเงินรวมกันถึง 270 ล้านยูโรหลังลูกค้ายอมจ่ายเงินค่าฉีกสัญญานักเตะ
บาร์เซโลน่า ทุ่มเงิน 120 ล้านยูโรเพื่อฉีกสัญญา กรีซมันน์ ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค จ่าย 80 ล้านยูโรเพื่อฉีกสัญญาของ ลูก้าส์ ส่วน โรดรี้ ย้ายซบ แมนฯซิตี้ หลังทีมเรือใบจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่า 70 ล้านยูโร
ทีมตราหมียังเก็บเล็กผสมน้อยจาก เกลซอน มาร์ตินส์ ไป โมนาโก 30 ล้านยูโร, ลูเซียโน่ เวียตโต้ ย้ายซบ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 7.5 ล้านยูโร กับ เบอร์นาร์ด เมนซ่าห์ ย้ายไป คายเซริสปอร์ 3.6 ล้านยูโร และมีโอกาสที่จะรับทรัพย์เพิ่มอีก 50 ล้านยูโรหากการเจรจาปล่อยตัว อังเคล กอร์เรอา แนวรุกชาวอาร์เจนไตน์ย้ายไปค้าแข้งกับ มิลาน ประสบความสำเร็จ
แต่ แอตเลติโก มาดริด ยังมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นนักช้อปอันดับหนึ่งของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ของลีกเมืองกระทิง เนื่องจาก ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ยังต้องการเติมตัวผู้เล่นอีกอย่างน้อย 2 คน โดยเฉพาะ ฮาเมส โรดรีเกซ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโคลอมเบียของ เรอัล มาดริด กับตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ยังต้องการตัวช่วยของ เรนาน โลดี้ ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น มิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กของ สเปอร์ส ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของทีมตราหมีด้วยเช่นกัน
สำหรับแชมป์เสริมทัพด้วยประมาณมากสุดประจำซัมเมอร์นี้ต้องยกให้ เซบีย่า ยุคเทรนเนอร์คนใหม่ จูเลน โลเปเตกี หลังสโมสรดึง ราม่อน โรดรีเกซ เบร์เดโฆ หรือ มอนชี่ กลับมาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอีกครั้ง
มอนชี่ ขยันทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตและกำลังจะดึงนักเตะใหม่เข้าสู่ทีมในช่วงซัมเมอร์นี้เป็นรายที่ 10 นั่นคือ เนมานย่า กูเดลย์ มิดฟิลด์ชาวเซิร์บวัย 27 ปีที่กลายเป็นฟรีเอเจนต์หลังยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก 6 เดือนกับ กว่างโจว เอเวอร์กรานด์ ซึ่งนักเตะเดินทางมาถึงเมืองเซบีย่าตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อเตรียมเข้ารับการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญา 4 ปีในวันรุ่งขึ้น
เซบีย่า เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ก่อนหน้านี้ 9 คนใช้เงินรวมกัน 113 ล้านยูโร ทั้ง ชูลส์ กุนเด้ จาก บอร์กโดซ์ 25 ล้านยูโร, ดีเอโก้ การ์ลอส จาก น็องต์ 15 ล้านยูโร, มัวนาส ดับบูร์ จาก ซัลซ์บวร์ก 15 ล้านยูโร, ลูกัส โอกัมโปส จาก มาร์กเซย 15 ล้านยูโร, โจน จอร์ดาน จาก เออิบาร์ 14 ล้านยูโร, ลุค เดอ ย็อง จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 12.5 ล้านยูโร, โอลีเบร์ ตอร์เรส จาก ปอร์โต้ 12 ล้านยูโร กับ แฟร์นานโด เรเจส จาก กาลาตาซาราย 4.5 ล้านยูโร ส่วน เซร์คิโอ เรกีลอน ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งซีซั่น
ส่วนรายรับของทีมเซบียาโน่ได้มาเพียงบางๆจากการปล่อย ปาโบล ซาราเบีย ย้ายไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 18 ล้านยูโร, ควินซี่ย์ โพรเมส ไป อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม 15.7 ล้านยูโร และ หลุยส์ มูเรียล ไป อตาลันต้า 15 ล้านยูโร ค่าตัวรวมกัน 48.7 ล้านยูโร
แต่ทีมดังแคว้นอันดาลูเซียยังมีแผนปล่อยแข้งส่วนเกินอีกหลายคนในช่วงซัมเมอร์นี้ทั้ง โรเก้ เมซ่า, อิบราฮิม่า อามาดู, กิลแยร์เม่ อาราน่า, เซร์จี้ โกเมซ, อเล็กซ์ บีดาล, เซบาสเตียง กอร์กเชีย หรือ มานูเอล อากูโด้ ดูราน โนลีโต้
บาเลนเซีย เคลื่อนไหวในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ตามฐานะ แม้จะดึง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น มาด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร แต่ก็เหมือนการแลกเปลี่ยนกับ เนโต้ หลังปล่อยนายทวารชาวบราซิเลียนย้ายไป'คัมป์ นู'มูลค่า 26 ล้านยูโร เท่ากับว่าทีมค้างคาวจ่ายส่วนต่างเพิ่มเพียง 9 ล้านยูโรสำหรับการเซ็นสัญญากับนายทวารทีมชาติฮอลแลนด์
ทีมค้างคาวยังจ่ายเงินอีกเพียง 14.5 ล้านยูโรเพื่อดึง มักซี่ โกเมซ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอุรุกวัยมาจาก เซลต้า บีโก้ รวมกับการย้ายสับกลับไปเมืองบีโก้ของ ซานติอาโก้ มีน่า ด้วย นอกจากนี้ บาเลนเซีย ยังเซ็นสัญญากับ เดนิส เชรีเชฟ จาก บียาร์เรอัล 6 ล้านยูโร, มานูเอล บาเยโฆ จาก กาดีซ 5.5 ล้านยูโร และ ฆอร์เค่ ซาเอนซ์ จาก เตเนรีเฟ่ 2 ล้านยูโร
ยอดใช้จ่ายของทีมค้างคาวในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้จึงมีเพียง 63 ล้านยูโร โดยมียอดรายรับราว 45 ล้านยูโร นั่นเท่ากับว่า บาเลนเซีย เพิ่งควักเงินออกจากกระเป๋าแค่ 18 ล้านยูโรเท่านั้น
เรอัล เบติส เป็นอีกทีมที่น่าจับตามองหลังประสบความสำเร็จในการดึง นาบิล เฟคีร์ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก ลียง มาร่วมทีมแบบเหนือความคาดหมายด้วยค่าตัวเบื้องต้น 19.75 ล้านยูโร นอกจากนี้ทีมเบตีโก้ยังมีแผนที่จะเซ็นสัญญากับ บอร์ฆา อีเกลเซียส กองหน้าวัย 26 ปีของ เอสปันญ่อล ซึ่งมีค่าฉีกสัญญา 28 ล้านยูโร ทว่าการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ก็ต้องแลกด้วยการปล่อย โจวานี่ โล เซลโซ่ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินาย้ายออกจากถิ่น'เบนีโต้ บียามาริน'ด้วยเช่นกัน
ส่วนทีมที่เหลือของลีกเมืองกระทิงจะลงทุนเสริมทัพไม่มากนัก สโมสรที่จ่ายเงินเกินหลัก 20 ล้านยูโรมีเพียง 2 ทีมคือ เรอัล โซเซียดาด กับ เซลต้า บีโก้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการดึงนักเตะมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวเนื่องจากการลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงไม่มากนัก
10 อันดับนักเตะค่าตัวแพงสุดของลาลีกาซัมเมอร์นี้ (ล่าสุด)
1.ชูเอา เฟลิกซ์, แอตเลติโก มาดริด, 126 ล้านยูโร
2.อองตวน กรีซมันน์, บาร์เซโลน่า, 120 ล้านยูโร
3.เอแด็น อาซาร์, เรอัล มาดริด, 100 ล้านยูโร
4.เฟรงกี้ เดอ ย็อง, บาร์เซโลน่า, 75 ล้านยูโร
5.ลูก้า โยวิช, เรอัล มาดริด, 60 ล้านยูโร
6.เอแดร์ มิลิเตา, เรอัล มาดริด, 50 ล้านยูโร
7.แฟร์กล็องด์ เมนดี้, เรอัล มาดริด, 48 ล้านยูโร
8.โรดรีโก้ โกเอส, เรอัล มาดริด, 45 ล้านยูโร
9.มาร์กอส ยอเรนเต้, แอตเลติโก มาดริด, 40 ล้านยูโร
10.ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น, บาเลนเซีย, 35 ล้านยูโร
ยอดใช้จ่ายช่วงซัมเมอร์ของทีมลาลีกาสูงสุด 8 อันดับแรก
ปี 2019 : มูลค่ารวม 1,167 ล้านยูโร (ตลาดยังไม่ปิด)
ปี 2018 : มูลค่ารวม 866 ล้านยูโร
ปี 2017 : มูลค่ารวม 600 ล้านยูโร
ปี 2007 : มูลค่ารวม 542 ล้านยูโร
ปี 2015 : มูลค่ารวม 524 ล้านยูโร
ปี 2016 : มูลค่ารวม 490 ล้านยูโร
ปี 2009 : มูลค่ารวม 462 ล้านยูโร
ปี 2001 : มูลค่ารวม 406 ล้านยูโร
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT