สถิติใหม่ของบาร์ซ่า
ฟุตบอลลีกาฤดูกาล 2017-18 ผ่านมา 11 เกมมีถึง 3 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครนั่นคือ บาร์เซโลน่า, บาเลนเซีย กับ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งเป็นครั้งแรกนับจากฤดูกาล 1996-97
ทีมอาซูลกราน่าเพิ่งทำสถิติดีสุดของสโมสรหลังทำผลงานชนะ 10 เสมอ 1 จากการลงเล่น 11 นัดแรกของฤดูกาล
ขณะที่ บาเลนเซีย เคยทำสถิติชนะ 8 เสมอ 3 ส่วน แอตเลติโก มาดริด ชนะ 6 เสมอ 5
เมื่อนับย้อนกลับไปช่วง 21 ฤดูกาลก่อนหน้านี้มี 3 ทีมที่ไม่แพ้จากการลงเล่น 11 เกมแรก นั่นคือ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า
บาร์เซโลน่า เคยทำสถิติชนะ 8 เสมอ 3 จากการลงเล่น 11 เกมแรก ขณะที่ เรอัล มาดริด กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ทำสถิติชนะ 7 เสมอ 4
ส่วนช่วงฤดูกาล 1982-83 มี 3 ทีมที่ไม่แพ้จากการลงเล่น 11 นัดแรกคือ เรอัล มาดริด, เรอัล โซเซียดาด กับ สปอร์ติ้ง คิฆอน
ทีมชุดขาวทำสถิติชนะ 7 เสมอ 4 ขณะที่ เรอัล โซเซียดาด กับ สปอร์ติ้ง คิฆอน ทำผลงานชนะ 5 เสมอ 6 เท่ากัน
บาร์เซโลน่า ของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ทำผลงานช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลไม่หวือหวาแต่แน่นอน ทีมของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้สะดุดเสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1 บนสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'เพียงนัดเดียวเท่านั้น
ประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกของทีมอาซูลกราน่าอาจจะไม่ดุดันร้อนแรงเท่ายุคที่มีแนวรุก'MSN'เป็นตัวชูโรง แต่ทีมของบัลเบร์เด้ยังกดคู่แข่งรวมกัน 30 ประตูจาก 11 เกมที่ผ่านมา
แต่ผลงานที่ต่างไปจากเดิมคือการเล่นเกมรับเหนียวแน่นจนเสียให้คู่แข่งรวมกันเพียง 4 ประตูเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับทีมยักษ์กาตาลุนย่า ส่วนหนึ่งมาจากแท็กติกของบัลเบร์เด้ที่เน้นความรัดกุมมากกว่าเดิมนั่นเอง
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกของบาร์เซโลน่าต้องยอมรับว่า ลิโอเนล เมสซี่ แบกรับภาระการยิงประตูส่วนใหญ่แต่เพียงผู้เดียว กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กดไป 12 จาก 30 ประตูของทีมอาซูลกราน่า ตามมาห่างๆด้วย หลุยส์ ซัวเรซ กับ เปาลินโญ่ คนละ 3 ประตู ส่วน เดนิส ซูอาเรซ ยิงให้ทีมอีก 2 ประตูก่อน ฟรานซิสโก้ อัลกาเซร์ จะรับเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ เซบีย่า 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
มันเป็นค่ำคืนของหนุ่มปาโก้ที่มีส่วนช่วยทีมอาซูลกราน่าคว้าชัยเหนือทีมเยือนจากแคว้นอันดาลูเซียและเป็นการกลับมายิงประตูได้เป็นครั้งแรกในรอบ 192 วันของกองหน้าวัย 24 ปี
ปาโก้ อัลกาเซร์ ยิงได้เพียง 3 ประตูจากการลงเล่นรวมกัน 1,243 นาทีในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ซีซั่นนี้อดีตกองหน้าจะมีส่วนร่วมกับทีมของบัลเบร์เด้ไม่มากนัก แต่ปาโก้ยิง 2 ประตูจากการลงเล่นเพียง 283 นาที ซึ่งน่าจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เขามากขึ้น
บัลเบร์เด้พยายามหาทางแก้ปัญหาในแนวรุกหลังการสูญเสีย เนย์มาร์ ขณะที่ตัวแทนอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ บาดเจ็บจนต้องพักยาว เทรนเนอร์ชาวบาสโก้มี ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นสองแกนหลัก ส่วนหนึ่งอีกตำแหน่งมีการสับเปลี่ยนทดลองมาหลายคนทั้ง เคราร์ด เดวโลเฟว, เดนิส ซูอาเรซ, อันเดร โกเมส ก่อนมาถึงคิวอัลกาเซร์ ซึ่งหนุ่มปาโก้ตอบแทนความไว้วางใจจากเจ้านายด้วยการเหมาสองประตูจากเกมล่าสุด
หนุ่มปาโก้อาจจะไม่มีผู้เล่นคนสำคัญของบาร์เซโลน่า แต่เมื่อได้รับโอกาสกองหน้าวัย 24 ปีสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังมีประโยชน์สำหรับทีมอาซูลกราน่า
ทว่าบุคคลที่ยังหายสาปสูญจากสารบบการทำประตูของทีมยักษ์กาตาลุนย่ายังคงเป็น หลุยส์ ซัวเรซ เช่นเดิม
ซัวเรซ ทำประตูสุดท้ายให้ทีมอาซูลกราน่าตั้งแต่เกมเสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาจากการกดประตูตีเสมอในช่วงนาที 82
นับจากวันนั้นไม่มีชื่อของหัวหอกชาวอุรุกวาโย่อยู่ในสารบบการยิงประตูของบาร์เซโลน่าอีกเลย
หลุยส์ ซัวเรซ ลงเล่นเต็ม 90 นาทีบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มกับ โอลิมเปียกอส ทั้งสองนัด, 90 นาทีบนเวทีลีกากับ แอธเลติก บิลเบา, 83 นาทีกับ มาลาก้า อีก 90 นาทีในเกมล่าสุดกับเซบีย่า นับจนถึงตอนนี้ซัวเรซลงเล่นรวมกัน 451 นาทีโดยคลำเป้าไม่เจอแม้แต่ครั้งเดียว
มันเป็นช่วงเวลาตกต่ำสุดในชีวิตค้าแข้งของ หลุยส์ ซัวเรซ
อย่างไรก็ตามบัลเบร์เด้ยังคงมองโลกแง่ดีว่าดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยไม่ได้ถอดวิญญาณเพชฌฆาตออกไปจากร่างแต่อย่างใดและเขายังมองเห็นสัญญาณที่ดีจากกองหน้าวัย 30 กะรัต
'เราพูดถึงกันมากเกี่ยวกับซัวเรซเมื่อไม่นานมานี้ แต่ผมยินดีที่จะมีเขาเพราะสิ่งที่เขาทำและทุกอย่างที่เขามอบให้เรา'
'เขาเป็นเพชฌฆาต'
'แม้จะมีข้อเท็จที่ว่าเขาไม่ยิงประตูในช่วงที่ผ่านมา แต่เขายังสร้างโอกาสเสมอเหมือนในเกมกับเซบีย่าและนั่นถือเป็นสัญญาณที่ดีนะ'
บัลเบร์เด้มองว่าความพยายามยิงประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ ยังเป็นสัญญาณที่ดีก็ตาม แต่สื่อเริ่มเอ่ยถึงการเสาะหาตัวแทนของดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยของบาร์เซโลน่ากันบ้างแล้ว
จากความฝืดของดาวยิงวัย 30 ปีทำให้ทีมอาซูลกราน่าอาจต้องมองหาผู้เล่นหมายเลข 9 คนใหม่ ซึ่งมีการพูดถึง 4 คน ณ ตอนนี้
รายแรกที่ไม่ใช่ใครอื่นไกลนั่นคือ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด ทว่ากรีซมันน์ยังมีอาการปืนฝืดไม่ต่างจากซัวเรซหลังยิงเพียง 2 ประตูเท่านั้น
กรีซมันน์ยังเป็นเป้าหมายเบอร์ต้นๆของ แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งเคยพยายามดึงไปเข้าสังกัดตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่นักเตะเลือกที่จะอยู่เล่นกับทีมตราหมีต่อไปหลังต้นสังกัดถูกลงโทษห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่
คนต่อมาคือ เปาโล ดีบาล่า เพลย์เมกเกอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ ยูเวนตุส แม้ดีบาล่าจะไม่ใช่ผู้เล่นตำแหน่งเดียวกับซัวเรซ แต่บางคนยังมองว่าดีบาล่าสามารถเล่นร่วมกับเมสซี่ได้ แม้ว่า ฮอร์เค่ ซามปาโอลี เทรนเนอร์ทีมชาติอาร์เจนตินาจะเคยพูดว่าทั้งสองคนมีเคมีเหมือนกันจนอาจไม่เหมาะสำหรับการเล่นร่วมกัน
อองโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ แมนฯยูไนเต็ด อยู่ในข่ายความสนใจของบาร์เซโลน่าด้วยเช่นกัน มันมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าน้องมาร์กอาจจะย้ายมาค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าในอนาคตหากทีมปีศาจแดงประสบความสำเร็จในการดึงกรีซมันน์เข้าสู่ถิ่น'โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด'
คนสุดท้ายเป็นชื่อใหม่ที่เพิ่งถูกดึงเข้ามามีเอี่ยวกับทีมอาซูลกราน่านั่นคือ อันเดรีย เบล็อตติ ดาวยิงทีมชาติอิตาลีของโตริโน่ ซึ่งถือเป็นนักเตะตำแหน่งหมายเลข 9 เหมือนกับ หลุยส์ ซัวเรซ
เบล็อตติ เป็นกองหน้าเนื้อหอมของวงการลูกหนังยุโรป อายุเพียง 23 ปีและมีโอกาสฉายแววเด่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียช่วงกลางปีหน้าหากทีมอัซซูรี่ฝ่าด่าน สวีเดน ในรอบเพลย์ออฟตามเป้าหมาย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT