:::     :::

Face/Off

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,565
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จูเลน โลเปเตกี อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนและทีมชุดขาวจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโปรเจ็กใหม่ของทัพเซบียาโน่ที่มีการปรับเปลี่ยนขุมกำลังมากสุดเป็นประวัติการณ์

ภาพยนตร์แอคชั่นจากสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้ายต่างผ่าตัดแปลงโฉมเพื่อเล่นงานฝั่งตรงข้าม เป็นหนังที่ดูสนุกตื่นเต้นตามสไตล์ จอห์น วู

ที่ยกตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง'Face/Off'มาจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในถิ่น'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'ตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งทำให้นึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที หลัง เซบีย่า เป็นทีมที่ปรับแต่งขุมกำลังมากที่สุดของลีกเมืองกระทิงมากที่สุดจนแทบจะจำโฉมหน้าทีมซีซั่นก่อนไม่ได้เมื่อดึงผู้เล่นใหม่มา 11 คนและปล่อยนักเตะออก 12 รายและอาจเพิ่มจำนวนมากขึ้นก่อนตลาดปิดทำการในวันที่ 2 กันยายนนี้ 


สมาชิกใหม่ที่ย้ายมาค้าแข้งกับทีมเซบียาโน่ในช่วงซัมเมอร์นี้ 11 คน ไล่จาก มัวนาส ดับบูร์ (ซัลซ์บวร์ก), ลุค เดอ ย็อง (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น), โจน จอร์ดาน (เออิบาร์), เฟร์นานโด ฟรานซิสโก้ เรเจส (กาลาตาซาราย), ลูกัส โอกัมโปส (มาร์กเซย), ดีเอโก้ การ์ลอส (น็องต์), ชูลส์ กุนเด้ (บอร์กโดซ์), โอลีเบร์ ตอร์เรส (ปอร์โต้), เนมานย่า กูเดล (กว่างโจว เอเวอร์กรานด์), เซร์คิโอ เรกีลอน (เรอัล มาดริด) กับ โรนี่ โลเปส (โมนาโก)

12 คนที่ย้ายออกจนถึงตอนนี้คือ วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), ปาโบล ซาราเบีย (เปแอสเช), ควินซี่ย์ โพรเมส (อาแจ็กซ์), หลุยส์ มูเรียล (อตาลันต้า), มักซิมิเลียน โวเบอร์ (ซัลซ์บวร์ก), กาเบรียล เมร์กาโด้ (อัล รายยาน), โรเก้ เมซ่า (เลกาเนส), อิบราฮิม อามาดู (นอริช), อเล็กซ์ บีดาล (อลาเบส), อันเดร ซิลวา (มิลาน), มาร์โก ร็อก (นาโปลี) กับ มักซีม โกนาลงส์ (โรม่า) 

ตัวเลขการย้ายออกจะเพิ่มขึ้นก่อนตลาดช่วงซัมเมอร์ปิดทำการในวันที่ 2 กันยายนนี้ เนื่องจากยังมีแข้งที่อยู่ในข่ายถูกโละทิ้งทั้ง กิลแยร์เม่ อาราน่า, เซร์จี้ โกเมซ, โยรีส ญาญง หรือ ฟรังโก้ วาซเกซ 


ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผ่าตัดแปลงโฉมทีมเซบียาโน่ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ ราม่อน โรดรีเกซ เบร์เดโฆ หรือ มอนชี่ นั่นเอง

มอนชี่ เป็นอดีตนักเตะของสโมสรเคยเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่รีไทร์ด้วยวัยเพียง 30 ปี ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีมดังแคว้นอันดาลูเซียรอบแรกในช่วงปี 2000 เขาทำงานร่วมกับบรรดาสเกาต์ทั่วโลกมากกว่า 700 คน 

นอกจากการดันเด็กรุ่นน้องขึ้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสรแล้ว 'มอนชี่'ยังจัดอยู่ในประเภท'มือจั่วขั้นเทพ'จากการดึงผู้เล่นแววดีมาปั้นแล้วขายต่อทำกำไรให้สโมสรมากกว่า 200 ล้านยูโร พร้อมมีส่วนช่วยทีมเซบียาโน่คว้าแชมป์ 11 รายการ ตลอดช่วงการทำงาน 16 ปีกับทีมดังแดนใต้ของสเปน 

มอนชี่ ย้ายไปแสวงหาความท้าทายในอาชีพกับ โรม่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 โดยเซ็นสัญญา 4 ปีกับทีมหมาป่ากรุงโรม ทว่าเขาอยู่อิตาลีได้เพียง 2 ปีก่อนยกเลิกสัญญาและหวนคืนสู่ถิ่น'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'อีกครั้ง โดยกลับมารับตำแหน่งเดิมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา 


เซบีย่า ตั้ง ฆัวกิน กาปาร์รอส อดีตเทรนเนอร์เป็นผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของสโมสรหลังจากนั้น ทว่าทำผลงานไม่โดนใจไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งเทรนเนอร์จากการเลือก เอดูอาร์โด้ เบรีซโซ่, วินเชนโซ่ มอนเตลล่า หรือ ปาโบล มาชิน จน กาปาร์รอส ต้องลงมารักษาการถึง 2 รอบ ส่วนการซื้อนักเตะมาเสริมทัพก็ไม่ใกล้เคียงกับผลงานของผู้อำนวยการคนเก่า

ตามข้อมูลระบุว่า กาปาร์รอส จั่วแข้งใหม่เข้าทีม 12 คน ปรากฎว่ามีแต่เฉพาะ โทมาช วาชลิค นายทวารทีมชาติสาธารณรัฐเช็กที่ย้ายมาจาก บาเซิ่ล เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าป้าย ส่วนที่เหลืออยู่ในข่ายล้มเหลวเกือบทั้งหมด 

หลุยส์ มูเรียล ถูกดึงมาจาก ซามพ์โดเรีย ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโรแพงสุดของสโมสร แต่กองหน้าโคลอมเบียนทำผลงานน่าผิดหวังก่อนถูกขายให้ อตาลันต้า แบบขาดทุน 5 ล้านยูโร ไม่ต่างจาก ควินซี่ย์ โพรเมส ที่ดึงมาจาก สปาร์ตัก มอสโก ก่อนถูกปล่อยไปอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม แบบขาดทุนอีกราย 


อันเดร ซิลวา ที่ยืมตัวมาจาก มิลาน ก็ทำผลงานเด่นเฉพาะช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมาก่อนหายเข้ากลีบเมฆ ขณะที่ มักซีม โกนาลงส์ ที่ยืมตัวมาจาก โรม่า โชคร้ายถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานซะเป็นส่วนใหญ่ ก่อนทั้งสองรายจะถูกส่งคืนต้นสังกัด ยังไม่นับรวม อิบราฮิม่า อามาดู, โยรีส ญาญง, อเล็กซ์ บีดาล, โรเก้ เมซ่า กับ เซร์จี้ โกเมซ ที่ล้มเหลวทุกราย แถมยังเสียค่าใช้จ่ายรวมกันไม่น้อยกว่า 80 ล้านยูโร 

นั่นคือความแตกต่างในช่วงที่'มอนชี่'อำลาตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีมเซบียาโน่เกือบ 2 ปี ก่อนหวนคืนสู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง 

'มอนชี่'ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตนับตั้งแต่คืนตำแหน่งเก่า เริ่มด้วยการดึง จูเลน โลเปเตกี เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก กาปาร์รอส จากนั้นผู้อำนวยการวัย 50 ปีเดินหน้าหาวัตถุดิบในการสร้างโปรเจ็กใหม่ร่วมกับอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปน และ เรอัล มาดริด ก่อนเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่มากถึง 11 คน


จากรายชื่อสมาชิกใหม่ของทีมเซบียาโน่อาจเป็นเพียงแข้งเกรด บี, ซี หรือ ดี เท่านั้น ทว่าจากประวัติการทำงานของ'มอนชี่'ตลอดช่วง 17 ปีก่อนหน้านี้ เขามีความสามารถพิเศษในการปั้นดินเป็นดาว ถ้าแข้งใหม่ที่ดึงมาร่วมทีมรอบนี้ทำผลงานดีเกินครึ่งก็ถือว่างานของเขาประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับ'เชฟคนใหม่'อย่าง โลเปเตกี ด้วยเช่นกันว่าจะผสมผสานผู้เล่นใหม่ให้เข้าใจการเล่นซึ่งกันและกันได้รวดเร็วเพียงใด 

ตามปกติแล้วการทำทีมฟุตบอลอาชีพมักจะไม่ปรับเปลี่ยนขุมกำลังมากขนาดนี้ มันอาจก่อให้เกิดปัญหามากกว่าผลดี เนื่องจากนักเตะใหม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากันและมันจะมีปัญหาเรื่องทีมเวิร์คในช่วงแรก 


'มอนชี่'ยังเสี่ยงปล่อย วิสซาม เบน เยแดร์ ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมซีซั่นก่อนหลังกระทุ้ง 18 ประตูบนเวทีลีกาเพื่อสร้างแนวรุกชุดใหม่หลังการดึงมาทั้ง ลุค เดอ ย็อง, มัวนาส ดับบูร์, ลูกัส โอกัมโปส และ โรนี่ โลเปส แต่ยังมองไม่ออกว่าผู้เล่นคนใดจะเป็นตัวผลิตสกอร์ทดแทนกองหน้าชาวฝรั่งเศส 

เซบีย่า ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นทั้งหมด 7 เกม สถิติชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 แต่ทีมเซบียาโน่เสียประตูทุกนัด นั่นอาจเป็นผลกระทบมาจากการปรับเปลี่ยนขุมกำลังเกือบยกชุด 

หากเปรียบเทียบ 11 ผู้เล่นตัวจริงชุดที่ลงเล่นนัดปิดซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งทีมเซบียาโน่ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 กับชุดที่ โลเปเตกี น่าจะเลือกใช้งานในเกมเปิดซีซั่นใหม่กับ เอสปันญ่อล ในวันอาทิตย์นี้ จะแตกต่างกันอย่างน้อย 6 ตำแหน่ง 


พวกแข้งเก่าที่ยังเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กใหม่ของอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนคือ โทมาช วาชลิค (ผู้รักษาประตู), เฆซุส นาบาส (แบ็กขวา), ดาเนียล การ์รีโซ่ (เซนเตอร์), มูนีร์ เอล อัดดาดี้ (กองหน้า) หรือ ฟรังโก้ วาซเกซ (มิดฟิลด์) ส่วน เอเวร์ บาเนก้า พลาดการลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลเนื่องจากติดโทษพักแข้ง ทว่าทั้ง มูนีร์ หรือ ฟรังโก้ วาซเกซ อาจหลุดจากทีมตัวจริงหลังจากนั้นถ้าหากนักเตะใหม่ปรับตัวเข้ากับระบบของ โลเปเตกี 

สำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะลงประเดิมสนามมีทั้ง ลุค เดอ ย็อง, ลูกัส โอกัมโปส, โจน จอร์ดาน, แฟร์นานโด ฟรานซิสโก้ เรเจส, เซร์คิโอ เรกีลอน, ชูลส์ กุนเด้ หรือ ดีเอโก้ การ์ลอส ส่วน โอลีเบร์ ตอร์เรส, โรนี่ โลเปส หรือ เนมานย่า กูเดล คงจะได้รับโอกาสในไม่ช้า

นับตั้งแต่กลับมาทำงานในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายกีฬารอบ 2 'มอนชี่'ใช้จ่ายเงินเพื่อดึงนักเตะใหม่มาร่วมทีมรวมกัน 144 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการลงทุนมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรภายในตลาดรอบเดียว 


'มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญมากมาย ผมมีความสุขกับการเซ็นสัญญาทั้ง 11 ครั้งและเราได้ใช้ความพยายามในการลงทุน' มอนชี่ เปิดเผย ทว่าตัวเลขการจับจ่ายของทีมเซบียาโน่ยังไม่หยุดลงเพียงเท่านี้จนกว่าตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์จะปิดทำการในวันที่ 2 กันยายน เนื่องจากทีมดังแคว้นอันดาลูเซียยังต้องการกองหน้าเข้ามาเสริมทัพอีกหนึ่งคนหลังการเซ็นสัญญากับรายล่าสุด โรนี่ โลเปส 

'การสร้างทีมยังไม่หยุดลงเพียงเท่านี้เมื่อตลาดนักเตะยังเปิดทำการ ยังเหลือเวลาอีก 17 วันสำหรับการย้ายเข้าและออก เราไม่สามารถเพิกเฉยได้ แม้ว่าจะมีการเซ็นสัญญาสำคัญแล้ว 11 คน แต่ยังมีโอกาสที่จะเซ็นกับนักเตะใหม่เพิ่มเติมโดยเฉพาะแนวรุก ตอนนี้เรามีกองหน้า 3 คนในทีม ผมยืนยันได้ว่าการวางแผนเสริมทัพยังไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้'

การเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารของ เซบีย่า ที่ปรับโฉมหน้าไปจากซีซั่นก่อนมากกว่าครึ่งเป็นอีกทีมที่น่าติดตามไม่น้อยไปกว่า บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด หรือ บาเลนเซีย ว่าทีมของโลเปเตกีจะทำผลงานออกมาแบบไหนโดยเฉพาะการเริ่มต้นด้วยเกมยากบนสังเวียน'อาร์ซีดีอี สเตเดี้ยม'ของ เอสปันญ่อล ในวันอาทิตย์นี้ 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด