ช่วงปืนฝืดของ'กรีซมันน์'
หลุยส์ ซัวเรซ, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาริม เบนเซม่า ต่างเป็นกองหน้าดาวดังที่อยู่ในโหมดปืนฝืดช่วงต้นฤดูกาล อีกหนึ่งผู้เล่นดาวเด่นที่ถูกอาการสนิทจับแข้งเช่นเดียวกันนั่นคือ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด นั่นเอง
กรีซมันน์ เป็นดาวซัลโวประจำทีมมาตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล โซเซียดาด ในช่วงหน้าร้อนปี 2014
22 ประตูในซีซั่นแรกเท่ากับผลงานในฤดูกาลต่อมา ก่อนจะแผ่วเล็กน้อยช่วงฤดูกาลที่แล้วแต่ก็ยังยิงให้ทีมตราหมี 16 ประตูบนเวทีลีกา ทว่าฟอร์มของกรีซมันน์ในซีซั่นนี้ต่างไปอย่างสิ้นเชิง
แต่สนิมจับแข้งขากรีซมันน์จนยิงได้เพียง 3 ประตูในฤดูกาลนี้ กองหน้าวัย 26 ปีกด 2 ประตูบนเวทีลีกาเท่า โกเก้ กับ โธมัส พาร์เตย์ น้อยกว่า อังเคล กอร์เรอา กับ ยานนิค เฟร์เรยร่า การ์ราสโก้ ซึ่งยิงให้ต้นสังกัด 4 กับ 3 ประตูตามลำดับ
กรีซมันน์ ยิงประตูสุดท้ายบนเวทีลีกาได้ตั้งแต่เกมชนะ เซบีย่า 2-0 เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นอีก 5 เกมเท้าบอดสนิท
ส่วนประตูแรกและประตูเดียวบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มทำได้ในเกมพ่าย เชลซี 1-2 คาสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'เมื่อวันที่ 27 กันยายน
กรีซมันน์ กำลังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาย่ำแย่สุดในอาชีพค้าแข้งนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับทีมตราหมี
กองหน้าชาวฝรั่งเศสลงเล่นตลอด 5 นัดหลังสุดกับ คาราบัก บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม 2 นัด และลีกาอีก 3 นัดกับ เซลต้า บีโก้, บียาร์เรอัล และ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า สถิติระบุว่ากรีซมันน์ยิงตรงกรอบรวมกันเพียง 5 ครั้ง เฉลี่ยนัดละ 1 ครั้งเท่านั้น
แต่สถิติโดยรวมของ แอตเลติโก มาดริด ไม่ดีด้วยเช่นกันหลังยิงรวมกันเพียง 18 ครั้งจากการลงเล่น 5 เกมที่ผ่านมา เฉลี่ยนัดละ 3.5 ครั้ง โดยเฉพาะเกมล่าสุดกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า บนสังเวียน'ริอาซอร์'ทีมตราหมียิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียวและเกิดขึ้นในช่วงครึ่งเวลาหลังซึ่งเป็นประตูชัยจากการยิงของพาร์เตย์นั่นเอง
ลิโอเนล เมสซี่ ของบาร์เซโลน่าเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสทำประตูมากสุดของลีกา 69 ครั้ง ตามมาด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ เรอัล มาดริด 48 ครั้ง
ยาโก้ อัสปาส ของ เซลต้า บีโก้ กับ โจนาธาน บีเอร่า ของ ลาส ปัลมาส สร้างโอกาสยิงเท่ากัน 35 ครั้ง ขณะที่ เลโอนาร์โด้ บาปติสเตา ของ เอสปันญ่อล กับ วิลเลียน โชเซ่ ของ เรอัล มาดริด สับไกคนละ 34 ครั้ง
โรดริโก้ โมเรโน่ ของ บาเลนเซีย สร้างโอกาสยิง 33 ครั้ง ตามมาด้วย มาร์โก อาเซนซีโอ กับ หลุยส์ ซัวเรซ รายละ 30 ครั้ง
ซิโมเน่ ซาซ่า ดาวยิงอิตาเลียนของ บาเลนเซีย สบโอกาสยิง 27 ครั้ง ตามมาด้วย เคราร์ด โมเรโน่ ของ เอสปันญ่อล 26 ครั้ง, คริสเตียน สตูอานี ของ คีโรน่า กับ ฆอร์เค่ โมลีน่า ของ เคตาเฟ่, เซร์คิโอ เลออน ของ เรอัล เบติส คนละ 24 ครั้ง
หลุยส์ มูเรียล กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียของ เซบีย่า, มักซี่ โกเมซ ดาวยิงอุรุกวัยของ เซลต้า บีโก้ กับ เซดริก บากอมบู ของ บียาร์เรอัล คนละ 23 ครั้ง
ส่วน อองตวน กรีซมันน์ ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งเบอร์ต้นๆของ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ สร้างโอกาสสับไกทำประตูเพียง 22 ครั้งเท่านั้น
จากความฝืดของกรีซมันน์มีส่วนทำให้ แอตเลติโก มาดริด กระทุ้งคู่แข่งได้ไม่เกินนัดละ 1 ประตูตลอด 9 เกมหลังสุด นับตั้งแต่เกมชนะ เซบีย่า 2-0
แต่ถึงอย่างไร ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังมองโลกแง่ดีไม่ต่างจากมุมมองของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ที่พูดถึง หลุยส์ ซัวเรซ ว่ามันยังมีสัญญาณทิศทางที่ดี
แอตเลติโก มาดริด เก็บ 23 คะแนนจากการลงเล่น 11 เกมและทีมตราหมียังไม่แพ้ใครเช่นเดียวกับ บาร์เซโลน่า และ บาเลนเซีย ถึงแม้ว่ากรีซมันน์จะยิงประตูไม่ได้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนก็ตาม
'ผมเห็นว่าเราไม่แพ้ตลอด 11 เกมในลีก เรามี 23 คะแนน บาเลนเซีย กับ บาร์เซโลน่า เป็นสองทีมที่เสมอกับเราในว่านต๋า'
'เราเล่นกันเป็นทีม กรีซมันน์เป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในทีมเรา ผมคิดในแง่บวก ถ้าเรามี 23 คะแนนและกรีซมันน์ยังไม่ยิงประตู นั่นยังถือเป็นสัญญาณที่ดี'
แน่นอนว่าย่อมมีการพูดถึงความฝืดของกรีซมันน์เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร? บ้างก็ว่าเป็นเพราะแท็กติกของซิเมโอเน่ แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดเนื่องจากเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ทำทีมตราหมีเล่นรูปแบบเดียวกันนี้ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกรีซมันน์ยังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
บ้างก็ว่ากรีซมันน์สูญเสียแรงจูงใจบางอย่างในการเล่นกับทีมตราหมี ซึ่งเป็นสิ่งที่สาวกโกลโชเนโรสตั้งข้อสงสัยว่ามันอาจมีส่วนทำให้กองหน้าชาวฝรั่งเศสทำผลงานช่วงต้นซีซั่นไม่น่าประทับใจ
กรีซมันน์ เคยยืนยันที่จะอยู่ช่วย แอตเลติโก มาดริด ต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาลหลังทีมตราหมีถูกลงโทษแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ ซึ่งเป็นการออกมาสยบข่าวลือที่ระบุว่ากองหน้าชาวฝรั่งเศสกำลังจะย้ายไปค้าแข้งกับแมนฯยูไนเต็ด
ขณะที่สื่อเมืองกระทิงจับผิดพฤติกรรมของกรีซมันน์ที่ทำตัวดูแปลกไปจากเดิม ยกตัวอย่างเกมล่าสุดที่ แอตเลติโก มาดริด ยกพลบุกสังเวียน'ริอาซอร์' ระหว่างถ่ายรูปทีมก่อนหน้าเกม ซึ่งกองหน้าชาวฝรั่งเศสเดินหันหลังแยกตัวออกไปก่อนทั้งที่เพื่อนร่วมทีมยังยิ้มแฉ่งหน้าชื่นถ่ายรูปกันตามปกติ
มันไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรกเพราะเกมเยือนสังเวียน'บาไลโดส'ของ เซลต้า บีโก้ ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น กรีซมันน์ ไม่มีสมาธิตอนถ่ายรูปทีมเช่นเดียวกัน
'มาร์ก้า'วิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้กรีซมันน์มีพฤติกรรมแปลกไปว่าเป็นเพราะเขาไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ แอตเลติโก มาดริด หรือด้วยเหตผลอื่นใด
ก่อนได้บทสรุปว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความกระตือรือร้นของกรีซมันน์ที่ต้องการควบคุมลูกฟุตบอลและยิงประตูก่อนที่แมตช์จะเริ่มต้นขึ้น
ขณะที่ ฆวนฟราน แบ็กขวาเพื่อนร่วมค่ายยังหนุนหลังกรีซมันน์ไม่เสื่อมคลายพร้อมยืนยันว่ากองหน้าชาวฝรั่งเศสยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมตราหมีไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าจะอยู่ในช่วงปืนฝืดก็ตาม
'กรีซมันน์เป็นผู้เล่นคนสำคัญมากสำหรับเราและพวกเราอยู่กับเขา'แบ็กขวาทีมตราหมีกล่าวถึงกองหน้าชาวฝรั่งเศส
'พวกเรารักเขาและเราเชื่อมั่นใจตัวเขา แต่การตัดสินใจใดๆของเจ้านายกับเขาหรือผู้เล่นคนอื่น พวกเรายอมรับ เจ้านายทำสิ่งดีที่สุดเพื่อทีม กรีซมันน์ควรจะผ่อนคลาย พวกเราหนุนหลังเขาสุดตัว'
ฆวนฟราน กล่าวแนะนำให้กรีซมันน์ทำตัวผ่อนคลายหลังกองหน้าชาวฝรั่งเศสแสดงอาการไม่สบอารมณ์จากการถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงนาที 80 ในเกมเยือน เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ซึ่ง ธีโอ น้องชายกรีซมันน์โพสต์ลงอินสตาแกรมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการตัดสินใจของซิเมโอเน่
'เราก้าวไปข้างหน้า 40 เมตร แต่ถอยหลังกลับมา 80 เมตร ผมไม่เข้าใจเลย อองตวนต้องเล่นเหมือนเป็นนักเตะหมายเลข 6 (มิดฟิลด์) ผมรู้สึกว่าผมดูเกมรูปแบบเดียวกันนี้มาตลอด มันบ้ามาก' ธีโอโพสต์ระบายลงอินสตาแกรมส่วนตัวแม้ว่าจะตัดสินใจลบในภายหลังแต่ไม่ทันการณ์เมื่อถูกก็อปปี้ไปเผยแพร่ต่อแล้ว
อนาคตค้าแข้งของกรีซมันน์คงลงเอยอย่างไรคงจะต้องติดตามสถานการณ์กันในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าว่าเขาจะย้ายออกจากถิ่น'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'หรือไม่หลังตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT