ก่อนเข้าขั้นวิกฤติ...

เรอัล มาดริด หัวทิ่มหัวตำตั้งแต่การลงประเดิมสนามรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกหลังถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถล่มพ่ายยับ 0-3 หมดสภาพสุดยอดทีมลูกหนังที่คว้าแชมป์รายการนี้มากสุดถึง 12 สมัย 

นอกเหนือจากความห่วยแตกของมาดริดแล้วยังต้องยกเครดิตให้แข้งเปแอสเชที่เล่นกันด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและทุ่มเททุกจังหวะทั้งตอนมีและไม่มีบอล 

อังเคล ดิ มาเรีย คู่ควรกับรางวัล'แมน ออฟ เดอะ แมตช์'จากการรับเหมากดคนเดียวสองประตูสยบทีมเก่า แนวรุกชาวอาร์เจนไตน์กลายเป็นอาวุธอันตรายในแนวรุกของ เปแอสเช ช่วงที่ไม่มีทั้ง เนย์มาร์, คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ หรือ เอดินสัน กาวานี่ 

ขณะที่ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ อดีตมิดฟิลด์เอฟเวอร์ตันเป็นอีกหนึ่งแข้งเปแอสเชที่ทำผลงานโดดเด่นโดยเฉพาะการเล่นเพื่อทีมจนได้รับเสียงชื่นชมจาก โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหลังจ่ายเงิน 30 ล้านยูโรดึงมาจากทีมทอฟฟี่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

'เราพยายามอย่างมากเพื่อการซื้อนักเตะแบบนี้มาร่วมทีม เขาคือเครื่องจักร เขาไม่เคยหยุดวิ่ง เอาชนะในการแย่งบอลหลายครั้งโดยเฉพาะการดวลกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ' 

'มันเป็นการทำงานกันแบบผสมผสานที่ลงตัวระหว่างนักเตะทั้งสามที่เล่นพร้อม มาร์กินโญส และ มาร์โก (แวร์รัตติ) มีความเอาจริงเอาจังและครองบอลเป็นส่วนใหญ่'

กาน่า เกย์, มาร์กินโญส กับ แวร์รัตติ อาจดูชื่อชั้นด้อยกว่า โทนี่ โครส, การ์ลอส กาเซมีโร่ กับ ฮาเมส โรดรีเกซ แต่แผงมิดฟิลด์ของเปแอสเชสยบคู่แข่งแบบอยู่หมัด ทั้งความดุดัน ความสม่ำเสมอ ความทุ่มเท ทั้งเวลามีบอลและไม่มีบอลจนสามารถตัดเส้นทางลำเลียงบอลไปถึงแนวรุกของมาดริด นั่นมีส่วนทำให้ เอแด็น อาซาร์ แข้งค่าตัวแพงและความหวังของ ซีดาน คลายพิษสงไม่ออก

'มันชัดเจนว่าพวกเขาทำได้ดีกว่าเราทุกพื้นที่ของสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแดนกลาง'ซีดาน ยอมรับหลังแผงมิดฟิลด์ของ เรอัล มาดริด ตกเป็นรองคู่แข่งชัดเจน

'สิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดสุดคือเราเล่นแบบไม่มีความดุดันมากพอ โดยเฉพาะเกมระดับแชมเปี้ยนส์ลีก มันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเล่นได้แค่นี้แล้วหวังถึงชัยชนะ ผมไม่กังวลเรื่องการสร้างสรรค์โอกาส แต่เราขาดความดุดันและสม่ำเสมอ'

ปัญหาแดนกลางของ มาดริด มาจากการบาดเจ็บของ ลูก้า โมดริช กับ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ทำให้ ซีดาน มีตัวเลือกลงสนามจำกัด แม้จะมี การ์ลอส กาเซมีโร่ ปักหลักตรงกลางสนามก็ตาม ทว่าทั้ง โทนี่ โครส กับ ฮาเมส โรดรีเกซ ไม่อาจเล่นในสไตล์ดุดันอย่างที่เทรนเนอร์ต้องการซึ่งต่างจากแผงมิดฟิลด์ของเปแอสเชที่ครบเครื่องกว่าทั้งบู๊และบุ๋น 

ฮาเมส ไม่ใช่นักเตะในสไตล์ที่ ซีดาน ต้องการ แต่เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสไม่มีทางเลือกเนื่องจากมีนักเตะแดนกลางเดี้ยงหลายคนจึงจำเป็นต้องใช้เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโคลอมเบีย ทว่า ฮาเมส เหมาะกับบทบาทหมายเลข 10 มากกว่าการเล่นตำแหน่ง 8 หรือ 6 

ซีดาน จึงอยากดึง ปอล ป็อกบา แข้งในอุดมคติมาร่วมทีม แม้มิดฟิลด์ แมนฯยูไนเต็ด จะเป็นแข้งคุณภาพ แต่คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกข้ออย่างที่เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสต้องการเนื่องจากปัญหาแดนกลางของมาดริดต้องการนักเตะสไตล์ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่เล่นเพื่อทีมเหมือน กาน่า เกย์ ของเปแอสเช 

โธมัส ทูเคิ่ล วางหมากมาตัดเกมแดนกลางของมาดริด เมื่อบอลไปไม่ถึงแดนหน้า ต่อให้คู่แข่งมีแนวรุกขั้นเทพก็แทบจะไร้พิษสงไปโดยปริยายเมื่อปราศจากบอล ขณะเดียวกันภาระหนักยังตกอยู่กับแนวรับที่ต้องหมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมป้องกันโดยไม่มีเวลาคิดถึงการเติมเกมรุก

ปัญหาของมาดริดไม่ได้มีเฉพาะแดนกลางเท่านั้น แต่อีกหนึ่งจุดอ่อนในเกมนี้คือแนวรับจากการขาดสองตัวจริงอย่าง เซร์คิโอ รามอส และ มาร์เซโล่ วิเอยร่า จนซีดานต้องเลือกใช้บริหาร เอแดร์ มิลิเตา กับ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ซึ่งมีราคารวมกันมากกว่า 100 ล้านยูโร ทว่ากลับทำผลงานไม่ได้ครึ่งของค่าตัวด้วยซ้ำ 

เมนดี้ มีส่วนร่วมกับเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นไม่มากนัก ลงเล่นเป็นสำรองในเกมพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 1-3 ก่อนออกสตาร์ทตัวจริงในเกมเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 โดยลงสนามรวมกันเพียง 90 นาที อดีตแบ็กซ้ายลียงยังเคยลงเล่นลีกาเพียงนัดเดียวในเกมเสมอ บียาร์เรอัล 2-2 หลัง ซีดาน เลือกพักแข้ง มาร์เซโล่ 

เนื่องจากยังเป็นมือใหม่ในแนวรับของมาดริด ดังนั้นประสิทธิภาพการเล่นจึงเทียบไม่ได้กับ มาร์เซโล่ แต่ถ้าย้อนกลับไปดูผลงานก่อนหน้านี้ของ เซร์คิโอ เรกีลอน เด็กปั้นของทีมชุดขาวน่าจะทำผลงานเหนือกว่าแบ็กซ้ายค่าตัวแพง เพียงแต่ ซีดาน เลือกที่จะปล่อยนักเตะย้ายไปเล่นกับทีมเซบียาโน่ด้วยสัญญายืมตัว

ส่วน เอแดร์ มิลิเตา เคยชิมลางในการเล่นเกมทางการกับ เรอัล มาดริด หลังลงสนามแทน เซร์คิโอ รามอส ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมเฉือนชนะ เลบันเต้ 3-2 นั่นคือครั้งแรกที่แนวรับชาวบราซิเลียนเล่นร่วมกับ ราฟาแอล วาราน ก่อนจะได้โอกาสลงเล่นตัวจริงร่วมกันในเกมเยือนปารีสเนื่องจากการติดโทษแบนของ รามอส กับ นาโช่ เฟร์นานเดซ

กองหลังค่าตัว 50 ล้านยูโรที่ย้ายมาจาก ปอร์โต้ เคยลงเล่นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นก่อนหน้านี้ 2 นัด ในระบบ 3 เซนเตอร์ โดยลงเล่นเป็นเซนเตอร์ฝั่งซ้ายร่วมกับ วาราน และ รามอส ในเกมชนะ ซัลซ์บวร์ก 1-0 ก่อนถูกถอดออกจากสนามหลังจบครึ่งแรกหลังทำผลงานแย่ 

ซีดาน ปรับ มิลิเตา มาเล่นเซนเตอร์ฝั่งขวาร่วมกับ วาราน และ นาโช่ เฟร์นานเดซ ในเกมเสมอ โรม่า 2-2 ซึ่งกองหลังชาวบราซิเลียนกลับมาเล่นฝั่งถนัดจึงทำผลงานดีขึ้นเล็กน้อย 

การมีโอกาสลงเล่นร่วมกับ ราวาน เพียง 30 นาทีก่อนหน้านี้ทำให้คู่เซนเตอร์ของ เรอัล มาดริด กลายเป็นบ่อน้ำมันของแนวรับทีมชุดขาว ยิ่งแดนกลางปล่อยให้แนวรุกคู่แข่งบุกขึ้นมาคุมคามอย่างต่อเนื่อง มันจึงช่วยขยายแผลให้เห็นถึงจุดอ่อนมากยิ่งขึ้นเมื่อปราศจากหัวใจสำคัญอย่าง เซร์คิโอ รามอส 

เรอัล มาดริด ลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก 5 ครั้งหลังสุดโดยไม่มี รามอส ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บ, ติดโทษแบน หรือ พักแข้ง ผลปรากฎว่าทีมชุดขาวพ่ายคู่แข่งทั้ง 5 เกม มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญถ้าเกิดขึ้นสัก 2-3 นัด แต่หากเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 เกม มันบ่งบอกชัดเจนว่ากัปตันทีมชุดขาวกลายเป็นนักเตะที่มาดริดจะขาดไม่ได้ ทั้งฝีเท้า, ประสบการณ์, บทบาทผู้นำและการกระตุ้นทีมที่หายไปพร้อมรามอส 

5 เกมหลังสุดที่ เรอัล มาดริด ลงเล่นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกโดยไม่มี เซร์คิโอ รามอส ลงเอยด้วยการปราชัยเรียบวุธ 

เริ่มด้วยเกมเปิดสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'รับมือ ยูเวนตุส รอบ 8 ทีม นัดสอง ช่วงซีซั่น 2017-18 ซีดาน ต้องส่ง เฆซุส บาเยโฆ ลงเล่นเซนเตอร์คู่ วาราน หลังการติดโทษแบนของ รามอส ก่อนจะเสียท่าให้ทีมม้าลาย 1-3 แต่ทีมชุดขาวสะสมบุญจากเกมแรกที่บุกชนะ 3-0 จึงคว้าตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะคว้าแชมป์ในบั้นปลาย

ซีเอสเอเค มอสโก จากรัสเซียสร้างชื่อว่าเป็นทีมที่โค่น เรอัล มาดริด ทั้งสองนัดในรอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาล 2018-19 หลังเปิดบ้านเชือดนิ่ม 1-0 ก่อนบุกยำทีมชุดขาวถึงรังเบร์นาเบว 3-0 หลัง ซีดาน เลือกพักแข้ง รามอส โดยส่ง นาโช่ เฟร์นานเดซ ลงเล่นคู่ วาราน ในเกมแรกที่มอสโก ส่วนนัดเหย้าที่มาดริด เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสเลือกใช้สองแนวรับวัยรุ่น เฆซุส บาเยโฆ ลงเล่นร่วมกับ ฆาเบียร์ ซานเชซ 

อีกหนึ่งเกมที่เห็นผลชัดเจนจากการขาด รามอส นั่นคือการลงเล่นรอบ 16 ทีมนัดสองของซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่ง เรอัล มาดริด พ่ายคารังต่อ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม 1-4 หลัง รามอส เจตนารับใบเหลืองจากเกมแรกที่อัมส์เตอร์ดัมซึ่งมาดริดบุกชนะ 2-1 เพื่อหวังล้างใบเหลืองสำหรับการลงเล่นรอบต่อไป ทว่าแชมป์ 3 สมัยล่าสุดกระเด็นตกรอบแบบเหนือความคาดหมายและรามอสยังต้องชดใช้โทษแบนเพิ่มเติมต่อเนื่องมาจนถึงซีซั่นนี้ด้วย 

นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ เรอัล มาดริด ประเดิมรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ด้วยการปราชัยแบบหมดสภาพ 

การกลับมารับงานรอบ 2 ของ ซีดาน กลายเป็นภารกิจที่ยากยิ่งกว่าตอนที่เข้ามารับงานครั้งแรก เนื่องจากเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสทำงานภายใต้แรงกดดันมหาศาลจากความคาดหวังของสาวกมาดริดิสต้าหลังเคยสร้างปรากฎการณ์ก่อนหน้านี้ 

ซีดาน พยายามสร้างทีมใหม่ด้วยการปล่อยผู้เล่นหลายคนที่อยู่นอกเหนือแผนการทำทีม แต่ก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างเนื่องจากนักเตะยังอยู่ในสัญญา ถ้าพวกเขาไม่ยอมย้ายด้วยความเต็มใจก็คงบีบลำบาก ตัวอย่างเช่นกรณีของ แกเร็ธ เบล

เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสยังต้องพยายามสร้างแรงจูงใจให้นักเตะหลายคนที่รู้สึกอิ่มเอมกับความสำเร็จก่อนหน้านี้ รวมถึงการเค้นศักยภาพจากบรรดาแข้งหน้าใหม่ให้เกิดประโยชน์กับทีมมากที่สุด 

หลายสิ่งหลายอย่างต้องมาพร้อมกันถ้าหาก ซีดาน ต้องการเข็นทีมชุดนี้พุ่งชนความสำเร็จอีกครั้ง แต่น่าสนใจว่าเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนในการปรับจูนให้ทีมกลับมาเล่นด้วยฟอร์มที่ลงตัวอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง 

ก่อนที่ความรักจะกลายเป็นความชัง ก่อนที่เสียงเชียร์จะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงโห่ ก่อนที่พลังศรัทธาจะกลายเป็นแรงขับไล่ ทั้ง ซีดาน กับลูกทีมต้องรีบหาทางออกให้เร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้