พลัง'แดง-ขาว'
บาร์เซโลน่า ต้องออกแรงหนักตลอด 90 นาทีกว่าจะบุกกำราบ สลาเวีย ปราก แบบหืดขึ้นคอ 2-1 ซึ่งต้องยอมรับว่าทีมดังสาธารณรัฐเช็กสู้กับยอดทีมจากสเปนได้ดีเกินคาด
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ แสดงให้เห็นว่าไม่ประมาทคู่แข่งแม้แต่น้อย แม้ว่าชื่อชั้นของ สลาเวีย ปราก จะห่างชั้นพอสมควรก็ตาม เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ปรับทัพจากเกมบุกชนะ เออิบาร์ เกมล่าสุดด้วยการส่ง เคราร์ด ปีเก้ กับ เนลซอน เซเมโด้ ออกสตาร์ทแทน ซามูแอล อุมตีตี้ กับ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ที่บาดเจ็บจากเกมดังกล่าวเท่านั้น
ขณะที่แดนกลางกับแนวรุกยังเป็นชุดเดิมทั้ง อาร์ตูร์ เมโล่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เฟรงกี้ เดอ ย็อง, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ กับ อองตวน กรีซมันน์
ส่วน สลาเวีย ปราก จัดขุมกำลังดีที่สุดของพวกเขาลงสนามมีพลิกโผตำแหน่งเดียวคือ ยาโรสลาฟ เซเลนี่ ได้ออกสตาร์ทก่อน สตานิสลาฟ เทเชิ่ล โดย ยินดริช เทอร์ปีชอฟสกี้ ไม่ได้ใช้การเล่นแบบ'อุลตร้า ดีเฟนซีฟ'เหมือนที่บรรดาสโมสรเล็กๆหลายทีมเลือกใช้เวลาเผชิญหน้ากับ บาร์เซโลน่า
เทอร์ปีชอฟสกี้ ทำให้เห็นเหมือนที่เขาบอกกล่าวก่อนหน้าเกมว่าจะไม่ปล่อยให้ลูกทีมเล่นเพื่อรอแลกเสื้อกับ เมสซี่ แม้จะถูกกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์จารึกชื่อว่าเป็นทีมที่ 33 ที่ถูกยิงประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเทียบเท่าผลงานของ ราอูล กอนซาเลซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ตาม
แต่นักเตะสลาเวียไม่ตื่นตระหนกยังเล่นไปตามแผนการของ เทอร์ปีชอฟสกี้ เมื่อนักเตะบาร์ซ่าพาบอลข้ามแดน นักเตะสลาเวียจะบีบพื้นที่เข้าถึงตัวเร็วจนคู่แข่งมีเวลาเล่นกับบอลไม่นานนัก แม้แข้งอาซูลกราน่าจะแก้หมากด้วยการเล่นบอลเร็วก็ตาม ทว่ามันก่อความผิดพลาดหลายครั้งและเกือบทุกจังหวะที่นักเตะสลาเวียตัดบอลได้ พวกเขาจะเล่นเร็ววางบอลยาวไปพื้นที่ว่างในแดนหน้าจนสร้างปัญหาให้ มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น ตลอดทั้งเกม
แม้จะเป็นฝ่ายครองบอลน้อยกว่า 46 % ต่อ 54 % แต่ สลาเวีย ปราก จ่ายบอลแม่นยำแทบจะไม่ด้อยกว่าคู่แข่ง 82% ต่อ 86% ที่เหนือความคาดหมายมากกว่านั้นคือทีมดังเช็กสร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่าชัดเจน 23 ครั้ง ต่อ 13 ครั้ง ซึ่งเป็นการยิงตรงกรอบ 8 ต่อ 7 ครั้ง
บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์ซ่ายอมรับหลังเกมว่า 'นั่นคือประสิทธิภาพของ สลาเวีย ที่เราคาดไว้ เมื่อเราเสียบอล พวกเขาจะเปิดบอลยาวไปข้างหน้าและในช่วงท้ายพวกเขาเล่นแบบเสี่ยงหลายครั้ง มันก็เหมือนกับการป้องกันการโจมตีจากหิมะถล่ม'
'เกมแบบนี้ทำให้เราต้องเรียนรู้วิธีการจัดการให้ดีขึ้น เรามีโอกาสที่ดีกว่า ชัดเจนกว่า แต่เราขาดความสงบเยือกเย็นในแดนของพวกเขาซึ่งอาจจะปิดผนึกผลการแข่งขันได้เลย'
ด้วยศักยภาพทีมที่แตกต่างกันชัดเจน นักเตะสลาเวียต้องทดแทนด้วยส่วนอื่นทั้งการเล่นด้วยใจและพละกำลังในการต่อกรกับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า
ตามข้อมูลระบุว่านักเตะสลาเวียวิ่งด้วยระยะทางรวมกันมากกว่านักเตะบาร์ซ่าเกือบ 2 กิโลเมตร ระหว่าง 11.07 กิโลเมตร กับ 9.66 กิโลเมตร กระทั่งช่วงท้ายเกมก็ยังมีแรงฮึดแม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแล้วก็ตาม
จากข้อมูลของยูฟ่าระบุว่ามิดฟิลด์คู่ของของสลาเวียทั้ง ปีเตอร์ เชฟชิค กับ โทมาช ซูเช็ค วิ่งเป็นระยะทางรวมกันมากกว่า 25 กิโลเมตร หลัง เชฟชิค วิ่งรวมกัน 13.18 กิโลเมตร ส่วน ซูเช็ค วิ่งรวม 12.56 กิโลเมตร จากค่าเฉลี่ยปกติที่นักเตะจะวิ่งกันประมาณ 10 กิโลเมตรต่อเกม ขณะที่ เฟรงกี้ เดอ ย็อง เป็นนักเตะบาร์ซ่าที่วิ่งมากสุดรวมกัน 11.36 กิโลเมตร
นอกจากมิดฟิลด์คู่กลาง สองฟูลแบ็กของสลาเวียทั้ง วลาดิเมียร์ คูฟาล กับ ยาน โบริล ยังวิ่งขึ้น-ลงเติมเกมรุกและถอยมาตั้งรับตลอดทั้งเกมจนวิ่งรวมกันเป็นระยะทาง 11.41 กิโลเมตร กับ 10.72 กิโลเมตร
ส่วน ปีเตอร์ โอลายินก้า เป็นอีกหนึ่งนักเตะสลาเวียที่วิ่งพล่านตลอดเกมเช่นเดียวกันโดยวิ่งรวม 11.20 กิโลเมตร แต่ด้วยความขยันลงไปช่วยเกมรับกลับกลายเป็นความโชคร้ายของกองหน้าชาวไนจีเรียนที่มีส่วนทำให้ลูกยิงของ หลุยส์ ซัวเรซ แฉลบเปลี่ยนทิศทางเป็นประตูให้ทีมอาซูลกราน่าขึ้นนำอีกครั้งก่อนคว้าชัยชนะในบั้นปลาย
การเล่นด้วยวินัย ขยัน ทุ่มเทและวิ่งสู้ฟัดของ สลาเวีย ปราก นำมาซึ่งประตูตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลังจาก ยาน โบริล ผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายที่วิ่งเติมขึ้นไปจนกระทั่งทะลวงด่านสุดท้ายของทีมอาซูลกราน่าสำเร็จ
โบริล ซึ่งเกือบจะเป็นฮีโร่ของสลาเวียกล่าวหลังเกมว่า'ผมมีความรู้สึกผสมปนเปกัน ผมคิดว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่าในบางช่วงของเกม เกี่ยวกับการทำประตูของผม? ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเข้าไปในตำแหน่งนั้นได้อย่างไร แต่ผมพร้อมจะแลกเปลี่ยนเป็นหนึ่งคะแนนทันทีถ้าคุณเสนอให้ผม'
ขณะที่ ซูเช็ค มิดฟิลด์กัปตันทีมสลาเวียภูมิใจกับการเล่นของทีมที่สามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่ยุโรปอย่างทัพอาซูลกราน่าได้แบบไม่เป็นรองมากนัก แต่ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่คาดหวัง
'เราเล่นกันได้ดีและพิสูจน์ว่าพวกเราสามารถเล่นกับทีมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ แต่เราไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียวและเราผิดหวัง ในเกมกับ ดอร์ทมุนด์ เราสร้างโอกาสมากมาย แต่เราก็ยิงพวกเขาไม่ได้'
สลาเวีย ปราก เป็นผู้แพ้บนสังเวียน แต่เป็นผู้ชนะตามสายตาของแฟนบอลและ'สปอร์ต'สื่อกีฬาสาธารณรัฐเช็กโดยพาดหัวข่าวว่า'ความกล้าหาญของพลังสีแดงและขาว' พร้อมชื่นชมว่า สลาเวีย ปราก เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกับทีมที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ต้นจนจบและมีส่วนทำให้ แทร์ ชเตเก้น ต้องออกแรงเซฟหลายครั้งก่อนทำนบจะแตกในช่วงต้นครึ่งหลังจาก โบริล แม้จะผิดพลาดทำเข้าประตูตัวเองก็ตาม แต่พวกเขายังไม่หยุดกดดันจนบาร์ซ่าออกอาการหวาดหวั่นกลัวแพ้
'สปอร์ต'ยกย่อง ดาวิด โฮวอร์ก้า เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นสุดของเกมได้คะแนนความสามารถ 9 จาก 10 ทั้งที่แนวรับวัย 26 ปีพลาดการลงสนาม 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ โฮวอร์ก้า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการรับมือหนึ่งในแนวรุกดีที่สุดในโลกจนได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อท้องถิ่น
ขณะที่ ยาน โบริล คนทำประตูตีเสมอกับมิดฟิลด์กัปตันทีม โทมาช ซูเช็ค ได้คะแนนความสามารถคนะ 8 ส่วน วลาดิเมียร์ คูฟาล กับผู้รักษาประตู ออนเดรย์ โคล่าร์ ได้คะแนนความสามารถรายละ 7
ส่วน เมสซี่ เป็นนักเตะที่ทำผลงานดีสุดตามมุมมองสื่อเช็กได้คะแนนความสามารถ 8 ตามมาด้วย เนลซอน เซเมโด้ แบ็กขวาชาวโปรตุเกสที่ได้ 7 คะแนน สำหรับนักเตะบาร์ซ่าที่เหลือไม่มีใครได้เกิน 6 คะแนน
ด้าน แทร์ ชเตเก้น ที่ช่วยเซฟให้บาร์ซ่ารอดพ้นการเสียประตูถึง 6 ครั้งได้รับคะแนนความสามารถจากสื่อเช็กเพียง 6 แต่นายทวารชาวเยอรมันได้รับความชื่นชมจากผู้เป็นนายที่กล่าวหลังเกมว่า'ตอลด 3 เกมที่ผ่านมาในแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ แทร์ ขเตเก้น เป็นผู้เล่นคนสำคัญของเรา'
บาร์เซโลน่า ไม่มีคิวลงเล่นช่วงสุดสัปดาห์นี้หลังแมตช์'เอล กลาซิโก้'ถูกเลื่อนไปเตะกันในวันที่ 18 ธันวาคมตามความคาดหมาย ก่อนจะลงเล่นเกมลีกาอีก 2 นัดกับ เรอัล บายาโดลิด (เหย้า) และ เลบันเต้ (เยือน)
จากนั้นทัพอาซูลกราน่าจะเปิด'คัมป์ นู'รับมือ สลาเวีย ปราก ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่ง บัลเบร์เด้ และลูกทีมคงจะได้บทเรียนจากเกมเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะประมาทพลัง'แดง-ขาว'ทีมนี้ไม่ได้เลยแม้ว่าจะเล่นในถิ่นตนเองก็ตาม
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT