:::     :::

เกิดมาเพื่อทำลาย...

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,040
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาและบาร์เซโลน่ากำลังเดินหน้าสร้างสถิติไร้เทียมทานบนเวทีลูกหนังทั้งระดับชาติและสโมสร

เขาเกิดมาเพื่อทำลาย...แต่เป็นการทำลายหลากหลายสถิติของวงการลูกหนัง นับจนถึงตอนนี้ ลิโอเนล เมสซี่ กำลังคืบเข้าใกล้การเขย่าสถิติของ เปเล่ ตำนานลูกหนังชาวบราซิเลียนที่คาดว่าซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์จะสร้างสถิติใหม่สำเร็จในปี 2020

เมสซี่ หวนกลับมาเล่นกับทีมชาติอาร์เจนตินาอีกครั้ง เมื่อพ้นโทษแบนจากอาการหัวร้อนด่ากราด'กอนเมโบล'(สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้) หลังการตกรอบรองชนะเลิศของศึก โกปา อเมริกา จากการปราชัยต่อเจ้าภาพ บราซิล 

กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ทำประตูทั้งสองเกมอุ่นเครื่องกับ บราซิล และ อุรุกวัย สะสมยอดเป็น 70 ประตูจากการลงเล่นกับ'ลา อัลบีเซเลสเต้'138 เกม ไล่หลังกองหน้าระดับตำนานทีมแซมบ้าเพียง 7 ประตูเท่านั้น 


เปเล่ ยิง 77 ประตูจากการลงเล่นกับทีมชาติบราซิล 92 เกมในช่วงปี 1957-1971 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของชาติสมาชิก'กอนเมโบล'หรือทวีปอเมริกาใต้ 

ทว่าสถิติดังกล่าวอาจจะถูก เมสซี่ ทำลายในไม่ช้าถ้าหากซุปตาร์อาร์เจนไตน์ยังทำผลงานยอดเยี่ยมตามมาตรฐานและอาจเกิดขึ้นในปี 2020 หลัง อาร์เจนตินา กับ โคลอมเบีย จับมือกันเป็นเจ้าภาพร่วมของศึก โกปา อเมริกา ช่วงกลางปีหน้า  

เมสซี่ ยังเพิ่งจัดแฮตทริคจากเกมเปิด'คัมป์ นู'ขย่ม เซลต้า บีโก้ 4-1 ก่อนเข้าสู่ช่วง'ฟีฟ่าเดย์'ช่วงส่งท้ายปี นับจากตอนนี้ก็เป็นภารกิจกับสโมสรต้นสังกัดยาวไปจนถึงช่วงเดือนมีนาคมศกหน้า 

ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับ เมสซี่ ที่จะเขย่าอีกหนึ่งสถิติของ เปเล่ นั่นคือการทำประตูในการเล่นกับสโมสรเดียวมากสุดตลอดกาล 


เปเล่ ค้าแข้งกับ ซานโตส ในช่วงปี 1956-1974 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ นิวยอร์ค คอสมอส ตำนานลูกหนังชาวบราซิเลียนเป็นนักเตะที่ยิงให้สโมสรเดียวมากสุด 643 ประตู ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่เคยมีนักเตะคนใดทำได้มาก่อนและเป็นสถิติที่ยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน 

ทว่าสถิติดังกล่าวของ เปเล่ กำลังสั่นคลอนจากการทำผลงานยอดเยี่ยมของแข้งรุ่นหลังที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ 

แฮตทริคล่าสุดของ เมสซี่ ทำให้กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์สะสมยอดการทำประตูกับบาร์เซโลน่าขึ้นมาเป็น 612 ประตู ไล่หลัง เปเล่ เพียง 31 ประตูเท่านั้น แน่นอนว่ากัปตันทีมอาซูลกราน่ามีโอกาสสร้างสถิติใหม่ภายในปี 2020 

อีกหนึ่งสถิติที่ เมสซี่ กำลังเดินหน้าทำลายคือการยิงประตูในเกมทางการมากสุดทั้งกับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งผลงานดังกล่าวเป็นของ เปเล่ เช่นเดียวกัน 


ตลอดอาชีพค้าแข้ง เปเล่ กระทุ้งรวมกัน 757 ประตูกับ ซานโตส 643 ประตู, นิวยอร์ค คอสมอส 37 ประตู และ ทีมชาติบราซิล 77 ประตู 

ขณะที่ เมสซี่ สะสมยอดรวม 682 ประตูกับ บาร์เซโลน่า 612 ประตูและ ทีมชาติอาร์เจนตินา 70 ประตู ไล่หลังตำนานลูกหนังของทีมแซมบ้า 75 ประตู 

อีกหนึ่งแข้งดาวดังที่มองข้ามไม่ได้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งมีโอกาสสร้างสถิติใหม่เช่นเดียวกันหลังซุปตาร์ชาวโปรตุกีสกดรวมกัน 706 ประตู ตามหลังสถิติของ เปเล่ เพียง 51 ประตู 


โรนัลโด้ กระทุ้ง 607 ประตูกับสโมสรต้นสังกัดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้ง สปอร์ติ้ง ลิสบอน, แมนฯยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส นอกจากนี้ยังยิงกับทีมชาติโปรตุเกสอีก 99 ประตู เพียงแต่ผลงานการผลิตสกอร์ในช่วงหลังตกลงไปตามวัย รวมถึงการย้ายมาค้าแข้งในลีกที่เล่นยากของอิตาลีด้วยเท่านั้น 

เมสซี่ อาจมีโอกาสยิงแซงหน้าสถิติของ เปเล่ มากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หากคิดตามค่าเฉลี่ยการทำประตูของกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ หลังกัปตันทีมบาร์เซโลน่ายิง 40 ประตูหรือมากกว่านั้นตลอด 11 ฤดูกาลที่ผ่านมา 


ในอดีตเคยมียอดกองหน้าหลายคนที่ยิงประตูถล่มทลายกับสโมสรต้นสังกัดและทีมชาติ อาทิ อูเว่ ซีเลอร์ อดีตหัวหอก ฮัมบูร์ก ที่กระทุ้งรวม 507 ประตู, จิมมี่ โจนส์ อดีตกองหน้า เกล็นนาวอน สโมสรของลีกไอร์แลนด์เหนือยิง 517 ประตู, จิมมี่ แม็คโกรี่ อดีตกองหน้า เซลติก ยิง 522 ประตู, โยเซฟ บีชาน หัวหอกชาวเช็กของ สลาเวีย ปราก กระทุ้ง 534 ประตู, แฟร์นานโด เปย์โรเตโอ อดีตกองหน้า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยิง 544 ประตู หรือ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติเยอรมันตะวันตกของ บาเยิร์น มิวนิค ซัด 565 ประตู 

ก่อนมาถึง 3 อันดับแรกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เปเล่ 


เมสซี่ เพิ่งทำแฮตทริคครั้งที่ 34 บนเวทีลีกาในเกมถลุง เซลต้า บีโก้ 4-1 ซึ่งมาจากการซัดฟรีคิก 2 ประตูที่ลักษณะคล้ายกันจากระยะประมาณ 25 หลาเทียบเท่าผลงานของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตลอดช่วงอาชีพค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด แต่ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์มีโอกาสสร้างสถิติใหม่ประดับวงการลูกหนังเมืองกระทิงในไม่ช้าหลังกองหน้าชาวโปรตุกีสย้ายไปเข้าสังกัดทีมม้าลายอิตาเลียนตั้งช่วงช่วงซัมเมอร์ปี 2018

กัปตันทีมบาร์เซโลน่ายังถือครองสถิติคว้ารางวัล'โตรเฟโอ ปีชีชี่'หรือ ดาวซัลโวลีกเมืองกระทิง 6 ครั้งเทียบเท่า เตลโม่ ซาร์ร่า อดีตตำนานกองหน้าทีมชาติสเปนของ แอธเลติก บิลเบา แต่ เมสซี่ มีโอกาสก้าวขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งในไม่ช้า

ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์อาจเริ่มต้นช้าในซีซั่นนี้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น แต่ เมสซี่ ยิงติดต่อกันตลอด 5 เกมหลังรวม 8 ประตูพุ่งพรวดขึ้นมาเป็นดาวซัลโวอันดับ 2 ตามหลัง คาริม เบนเซม่า กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น แต่'เบนซ์'คงไม่สามารถยืนระยะเป็นคู่ต่อกรแย่งรางวัล'เอล ปีชีชี่'กับ เมสซี่ ไปตลอดทั้งฤดูกาล รวมถึง เคราร์ด โมเรโน่ (บียาร์เรอัล), โลเรน โมรอน (เรอัล เบติส) หรือ ลูกัส เปเรซ (อลาเบส) ซึ่งทำผลงานดีในช่วงต้นซีซั่นด้วยเช่นกัน


เมสซี่ ยังเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูบนเวทีลีกามากสุดตลอดกาลจากผลงาน 427 ประตู ตามมาด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 311 ประตู, เตลโม่ ซาร์ร่า 251 ประตู, อูโก้ ซานเชซ 234 ประตู กับ ราอูล กอนซาเลซ 228 ประตู ซึ่งคงไม่มีแข้งหน้าไหนสามารถยิงแซงผลงานดังกล่าวขึ้นอยู่กับว่ากัปตันทีมบาร์ซ่าจะตั้งสถิติไว้ด้วยตัวเลขใดเท่านั้นกว่าเขาจะประกาศอำลาทีมยักษ์กาตาลุนย่าอย่างเป็นทางการ

การสร้างผลงานบนเวทีลีกาต่อสามารถต่อยอดไปถึงการคว้ารางวัล'โกลเด้น ชู'หรือ รางวัลดาวซัลโวสโมสรยุโรป ซึ่ง เมสซี่ สอยมาประดับตู้โชว์ที่บ้านแล้ว 6 ครั้ง ไล่มาด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 4 ครั้ง ส่วน ยูเซบีโอ, แกร์ด มุลเลอร์, ดูดู้ จอร์เจสคู, แฟร์นานโด โกเมส, อัลลี่ แม็คคอยส์ท, มารีโอ ชาร์เดล, เธียร์รี่ อองรี, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน และ หลุยส์ ซัวเรซ คว้ามารายละ 2 ครั้ง 

อย่างไรก็ตามคู่แข่งบนเวทียุโรปของ เมสซี่ ยากกว่าบนเวทีลีกาชัดเจนหลังมีกองหน้าหลายคนที่ทำผลงานโดดเด่นในซีซั่นนี้โดยเฉพาะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลังหัวหอกทีมชาติโปแลนด์กด 16 ประตูจากการลงเล่น 11 เกมเหนือกว่า เมสซี่ สองเท่า 


ขณะที่ ชิโร่ อิมโมบิเล่ กองหน้าทีมชาติอิตาลีของ ลาซิโอ กดไปแล้ว 14 ประตู, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หัวหอกดาวรุ่งทีมชาตินอร์เวย์ของ ซัลซ์บวร์ก ซัด 15 ประตู แต่เสียเปรียบที่ค่าสัมประสิทธิ์ของลีกออสเตรียมีตัวคูณเพียง 1.5 เท่านั้นต่างจากลีกใหญ่ที่ค่าสัมประสิทธิ์คูณ 2 

ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าทีมชาติเยอรมันของ ไลป์ซิก ยิง 11 ประตู เท่า เจมี่ วาร์ดี้ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษของ เลสเตอร์, แทมมี่ อบราฮัม หัวหอกดาวรุ่งของ เชลซี ยิง 10 ประตู ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน (แมนฯซิตี้), คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด), วิสซาม เบน เยแดร์ (โมนาโก), มูสซ่า เดมเบเล่ (ลียง), โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน) กับ รูเวน เฮนนิ่งส์ (ดุสเซลดอร์ฟ) กดคนละ 9 ประตู 

อย่างไรก็ตามถ้าหากเทียบศักยภาพและประสิทธิภาพของนักเตะและทีมแล้วคงต้องยกให้ เลวานดอฟสกี้ เป็นคู่ปรับที่น่าหวาดหวั่นที่สุดสำหรับการช่วงชิงรางวัลรองเท้าทองคำซีซั่นนี้ของ เมสซี่ 

ส่วน เมสซี่ จะเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ของวงการลูกหนังทั้งระดับลีกและระดับชาติอะไรบ้าง เราคงต้องติดตามผลงานในปีหน้าของซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ต่อไป


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})