โปรเจ็ก2020

บาร์เซโลน่า เคยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับคำว่า'สมบูรณ์แบบ'จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนนักเตะหลายคนจะอำลาทีมตามสังขารและวิถีทางในอาชีพค้าแข้ง

ทีมยักษ์ใหญ่ของแคว้นกาตาลุนย่าพยายามเสริมทัพด้วยเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปีโดยมีเป้าหมายสร้างทีมเพื่อกลับไปอยู่ใกล้จุดที่เคยเป็นมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ต้องยอมรับว่าการลงทุนของพวกเขา'ล้มเหลว'มากกว่า'สำเร็จ'

มันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการชิ่งหนีออกจากถิ่น'คัมป์ นู'ของ เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 นับจากนั้นเป็นต้นมา บาร์เซโลน่า ทุ่มทุนลงสู่ตลาดนักเตะจำนวนมหาศาล แต่ประสบความสำเร็จน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

บาร์เซโลน่า เล่นแร่แปรธาตุจากเงินค่าตัว 222 ล้านยูโรของ เนย์มาร์ เป็น อุสมาน เดมเบเล่ แนวรุกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสที่ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 105 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติมอีก 40 ล้านยูโร ในช่วงซัมเมอร์ปีเดียวกัน แต่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันอดีตเด็กปั้นของแรนส์ยังไม่สามารถพิสูจน์ว่าตัวเองคุ้มค่ากับการลงทุนด้วยเงินจำนวนดังกล่าวแม้แต่น้อย

ช่วงเดือนมกราคมปีถัดมา ทัพอาซูลกราน่าทุ่มเงินอีก 120 ล้านยูโรบวกอ็อปชั่นเพิ่มเติม 40 ล้านยูโรดึง ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ มาจาก ลิเวอร์พูล แต่เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิเลียนทำผลงานน่าผิดหวังก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่นนี้ 

ทัพอาซูลกราน่ายังจ่ายเงินซื้อ เปาลินโญ่ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน กับ เยร์รี มีน่า เซนเตอร์ทีมชาติโคลอมเบียเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วย ก่อนสโมสรจะปล่อยออกจากถิ่น'คัมป์ นู'เพื่อทำกำไรจากค่าตัว โดยมีเฉพาะ เนลซอน เซเมโด้ แบ็กขวาทีมชาติโปรตุเกสเท่านั้นที่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในช่วงเวลาดังกล่าว

ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 บาร์เซโลน่า ยังทุ่มเงินอีกมากกว่า 100 ล้านยูโรลงสู่ตลาดนักเตะแลกกับ อาร์ตูร์ เมโล่, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, อาร์ตูโร่ วีดาล, มัลคอม ซิลวา กับ ฌอง แกลร์ก โตดีโบ โดยภาพรวมนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระดับหนึ่งหากดูจากผลงานของ 3 รายแรก

ทว่าล้มเหลวกับ มัลคอม ที่ปาดหน้า โรม่า ชิงนักเตะมาร่วมทีม ก่อนจะกลับตัวกลับใจถอนทุนดึงด้วยการปล่อยแข้งชาวบราซิเลียนให้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ส่วน โตดีโบ้ ยังมีโอกาสพิสูจน์ผลงานไม่มากนักและอาจถูกปล่อยออกจากทีมเพื่อทำกำไรหลังซื้อมาจาก ตูลูส ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านยูโร

สำหรับช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ทีมยักษ์กาตาลันทุ่มเงินลงตลาดนักเตะมากกว่า 250 ล้านยูโร เฉพาะค่าตัวของ อองตวน กรีซมันน์ กับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง มีมูลค่ารวมกันเกือบ 200 ล้านยูโร แต่ทั้งสองแข้งดังยังต้องพิสูจน์ด้วยผลงานว่าตนเองคุ้มค่ากับการลงทุนของสโมสรมากน้อยเพียงใดโดยเฉพาะ กรีซมันน์ ที่หลายฝ่ายคาดหวังกับกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสไว้ค่อนข้างสูง

นั่นคือผลงานของทีมอาซูลกราน่าในตลาดนักเตะช่วง 3 ซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งคงต้องกล่าวว่าพวกเขาออกอาการจั่วลมวืดวาดมากกว่าประสบความสำเร็จ 

อย่างไรก็ตามสโมสรยังวางแผนงานสำหรับการลงทุนในตลาดนักเตะช่วงหน้าร้อนปี 2020 เพื่อจำกัดจุดอ่อนภายในทีมให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ รวมถึงการดึงนักเตะสายเลือดใหม่เข้ามาเตรียมทดแทนผู้เล่นหน้าเก่าบางคนที่กำลังอยู่ในช่วงโรยลา โดยมี 3 ตำแหน่งหลักที่ต้องการปรับปรุงคือ กองหน้า, เซนเตอร์ และ แบ็กขวา 

1.กองหน้า 

ผู้เล่นหมายเลข 9 ของ บาร์เซโลน่า ถูกกล่าวถึงมานานพอสมควรจากความพยายามหาตัวแทนระยะยาวของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่กำลังจะอายุครบ 33 ปีในวันที่ 24 มกราคมนี้และเหลือสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021 เท่านั้น 

'ฝัน'ของทีมอาซูลกราน่าคือ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าดาวโรจน์ทีมชาติฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่มีความเป็นไปได้น้อยเนื่องจากอดีตเด็กปั้นโมนาโกเป็นสมบัติสุดหวงของ เปแอสเช ซึ่งมีข่าวว่าพร้อมปล่อย เนย์มาร์ เพื่อรักษาแนวรุกชาวฝรั่งเศสอยู่กับทีมต่อไป แต่ถ้าหากมีการย้ายสังกัดเกิดขึ้นในอนาคตมีแนวโน้มว่า เอ็มบั๊ปเป้ น่าจะเลือก เรอัล มาดริด มากกว่า บาร์เซโลน่า

ทีมยักษ์กาตาลุนย่ายังมีข่าวพัวพันกับทั้ง แฮร์รี่ เคน และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สองกองหน้าทีมชาติอังกฤษ แต่คงเป็นเรื่องยากในการดึงนักเตะมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ แมนฯยูไนเต็ด 

ชื่อที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับ บาร์เซโลน่า คือ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์วัย 22 ปีของ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งเป็นนักเตะหมายเลข 9 ตามแบบฉบับที่ทีมอาซูลกราน่าต้องการ มีทั้งความแข็งแกร่ง, ทักษะความสามารถ, อายุน้อย, เล่นได้ทั้งด้านข้างและตำแหน่งหน้าเป้า ทว่าสโมสรคงจะต้องทุ่มเงินอีกไม่น้อยกว่า 100 ล้านยูโรหากต้องการดึงอดีตกองหน้า ราซิ่ง คลับ มาร่วมทีม

อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ยังพอมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจอยู่บ้าง อาทิ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยัง กองหน้าชาวกาบองของ อาร์เซน่อล เนื่องจากนักเตะยังไม่ตัดสินใจขยายสัญญากับทีมปืนโตที่มีอายุใช้งานจนถึงปี 2021 ทว่าอดีตกองหน้าดอร์ทมุนด์อายุแตะหลัก 30 ปี การลงทุนดังกล่าวจึงอาจเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น 

ขณะที่ เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ ยังถูกกล่าวถึงเช่นเดียวกันเนื่องจากซุปตาร์ชาวบราซิเลียนปรารถนาที่จะย้ายกลับ'คัมป์ นู'อีกครั้ง แต่ปัญหาใหญ่คือ บาร์เซโลน่า ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการเซ็นสัญญากับกองหน้าทีมชาติบราซิล ทั้งเรื่องจำนวนเงินค่าตัวและค่าจ้างนักเตะ 

2.เซนเตอร์

บาร์เซโลน่า เคยพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึง มัทไธส์ เดอ ลิกต์ เซนเตอร์ทีมชาติฮอลแลนด์มาร่วมทีมตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนอดีตแข้ง อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม จะตัดสินใจย้ายซบ ยูเวนตุส แต่ทีมอาซูลกราน่ายังคงต้องมองหาเซนเตอร์คนใหม่ต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการอำลาทีมของ เคราร์ด ปีเก้ 

ปีเก้ อดีตเซนเตอร์ทีมชาติสเปนวัย 32 ปี ยังมีสัญญาจนถึงปี 2022 แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าจะอยู่ค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าจนครบสัญญาก็ตาม แต่ไม่ปิดกั้นว่าพร้อมอำลาสโมสรเช่นกันหากถูกลดบทบาทหรือถูกดร็อปจากทีมตัวจริงนั่นเอง ดังนั้น บาร์เซโลน่า จึงต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้า

บาร์เซโลน่า มีเซนเตอร์ชั้นดีทั้ง ซามูแอล อุมตีตี้ กับ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ แต่ทั้งคู่เป็นนักเตะถนัดเท้าซ้าย มีเฉพาะ ปีเก้ เท่านั้นที่ถนัดเท้าขวา ซึ่ง เดอ ลิกต์ ถนัดเท้าเดียวกับอดีตเซนเตอร์ทีมชาติสเปน แต่บาร์ซ่าก็พลาดเป้าดังกล่าวไปแล้วจึงต้องมองหาเป้าหมายใหม่ 

แม้ว่าทีมยักษ์กาตาลุนย่ายังมีเซนเตอร์วัยรุ่นอีกสองคนอย่าง ฌอง แกลร์ก โตดีโบ้ กับ โรนัลด์ อาเราโฮ ก็ตาม แต่รายแรกอาจจะถูกปล่อยตัวออกจาก'คัมป์ นู' ส่วนรายหลังยังต้องใช้เวลาสะสมประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าอีกพักใหญ่ ดังนั้นการลงทุนในตลาดนักเตะจึงรวดเร็วทันใจสุด 

เป้าหมายเบอร์หนึ่งของ บาร์เซโลน่า ณ เวลานี้คือ นิโกล่า มิเลนโกวิช เซนเตอร์ดาวรุ่งชาวเซิร์บของ ฟิออเรนติน่า ซึ่งเคยมีข่าวพัวพันกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯยูไนเต็ด และ ยูเวนตุส ก่อนหน้านี้ 

มิเลนโกวิช อายุเพียง 22 ปี มีประสบการณ์ค้าแข้งกับทัพวิโอล่ามาตั้งแต่ซีซั่น 2017-18 สูง 1.95 เมตร มากกว่า ปีเก้ ที่สูง 1.94 เมตร เป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่ง โดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศทั้งเกมป้องกันและเกมบุก มีความเร็วและเทคนิคดี นอกจากนี้ยังสามารถขยับมาเล่นแบ็กขวาได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ บาร์เซโลน่า ยังมีข่าวสนใจ อันเดรียส คริสเตนเซ่น เซนเตอร์ทีมชาติเดนมาร์กของ เชลซี ซึ่งเคยมีข่าวว่าต้องการย้ายออกจากถิ่น'สแตมฟอร์ด บริดจ์'เนื่องจากตกเป็นตัวสำรองในช่วงหลัง แต่ปัญหาของกองหลังชาวเดนส์วัย 23 ปีคือมีสภาพร่างกายค่อนข้างเปราะบาดเจ็บง่ายเกินไป

3.แบ็กขวา 

นับตั้งแต่ ดาเนียล อัลเวส ย้ายออกจากถิ่น'คัมป์ นู'ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 บาร์เซโลน่า ประสบปัญหาในตำแหน่งดังกล่าวมาโดยตลอด แม้ว่า เนลซอน เซเมโด้ จะเล่นได้ดีในระดับหนึ่งก็ตาม แต่ยังไม่สามารถเทียบได้กับผลงานของฟูลแบ็กทีมชาติบราซิลตลอดช่วง 8 ปีที่ค้าแข้งกับทีมยักษ์กาตาลุนย่า

เซเมโด้ ก้าวขึ้นมาเป็นแบ็กขวาตัวหลักของทีมอาซูลกราน่าสลับกับ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ซึ่งถูกโยกจากมิดฟิลด์มาเล่นตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่ยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ แต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ดีพอ แม้ว่า บาร์ซ่า จะมี มุสซ่า วาเก้ เป็นแบ็กขวามือสามเป็นอีกทางเลือกก็ตาม แต่กองหลังดาวรุ่งชาวเซเนกัลยังต้องใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าและเรียนรู้ต่อไป โดยมี เอแมร์ซอน เดอ ซูซ่า จูเนียร์ แบ็กดาวรุ่งชาวบราซิเลียนวัย 20 ปีที่ทัพอาซูลกราน่ามีอ็อปชั่นซื้อกลับจาก เรอัล เบติส ด้วยค่าตัว 6 ล้านยูโร ภายในปี 2021

แบ็กขวาในฝันของ บาร์เซโลน่า คือ โจชัว คิมมิค กองหลังทีมชาติเยอรมัน แต่คงไม่ต่างจาก เอ็มบั๊ปเป้ ในการดึงนักเตะมาจาก บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจากแบ็กวัย 24 ปีเป็นของรักของหวงของทีมเสือใต้เช่นเดียวกันและนักเตะยังมีสัญญากับทีมดังแคว้นบาวาเรียจนถึงปี 2023 ด้วย 

อย่างไรก็ตามทีมงานแมวมองของทัพอาซูลกราน่ายังวนเวียนอยู่ในเวทีบุนเดสลีกาจนมีชื่อ ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายซึ่งน่าจะง่ายกว่า คิมมิค เนื่องจากแบ็กวัย 23 ปีมีสัญญากับ ไลป์ซิก จนถึงปี 2021 เท่านั้น เขาเป็นแบ็กขวาที่แข็งแกร่ง โดดเด่นทั้งรับและรุกจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบ็กขวาดีที่สุดของลีกเมืองเบียร์