ประธานคนต่อไป...

อีเกร์ กาซียาส ยืนยันอย่างเป็นทางการผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน หรือ อาร์เอฟอีเอฟ ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งกันในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ 

กาซียาส วัย 38 ปี ยังมีสัญญากับ เอฟซี ปอร์โต้ หลังย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ช่วงซัมเมอร์ปี 2015 แต่เขาไม่ได้ลงสนามนับตั้งแต่มีอาการหัวใจวายระหว่างการฝึกซ้อมในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

'ใช่ ผมจะลงชิงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เราจะทำให้สหพันธ์ของเราก้าวไปสู่จุดสูงสุดร่วมกับฟุตบอลดีที่สุดในโลก ฟุตบอลสเปน

'ผมแจ้งกับประธานสโมสร เอฟซี ปอร์โต้ ต้นสังกัดของผมแล้วถึงการตัดสินใจครั้งนี้ และผมต้องการแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง เรากำลังจะเข้าสู่กระบวนการด้วยความเคารพสูงสุด'

'ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 23,000 คนกำลังรอเราอยู่ ในการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส ขณะที่สมาชิก 139 คนก็จะทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนและทุกความปรารถนาดี'

อย่างไรก็ตาม กาซียาส ยังไม่ประกาศการอำลาอาชีพค้าแข้งอย่างเป็นทางการ เพียงแต่นายทวารวัย 38 ปีบอกกล่าวการตัดสินใจของเขากับ จอร์จ นูโน่ ปินโต้ ดา คอสต้า ประธานสโมสรปอร์โต้เหมือนเป็นการกล่าวคำลากลายๆแล้วนั่นเอง

กาซียาส เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด ก่อนลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มกับ โอลิมเปียกอส เมื่อวันที่ 15 กันยายน 1999 กลายเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยสุดที่ลงเล่นรายการนี้ในขณะนั้นด้วยวัย 18 ปี กับ 177 วัน ก่อนสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายโดย ไมล์ สวีล่าร์ นายทวารดาวรุ่งชาวเบลเจี้ยนของ เบนฟิก้า ในช่วงเดือนตุลาคม 2017

ช่วงเริ่มต้นอาชีพของ กาซียาส ยังต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ โบโด อิ๊ล์คเนอร์ นายทวารชาวเยอรมัน และ เซซ่าร์ ซานเชซ ก่อนสถานการณ์จะพลิกผันเข้าทางผู้รักษาประตูหนุ่มจนกระทั่งก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือหนึ่งของทีมชุดขาวถาวรนานหลายปี 

เหตุเกิดบนสังเวียน'แฮมป์เด้น พาร์ค'ของกลาสโกว์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2002 นัดชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งกลายเป็นแมตช์แจ้งเกิดเต็มตัวของ กาซียาส

เซซ่าร์ ซานเชซ ลงเฝ้าเสาตัวจริงเกมดังกล่าว แต่โชคร้ายบาดเจ็บจนถูกถอดออกจากสนามช่วงนาที 68 เปิดโอกาสให้ กาซียาส ลงทำหน้าที่แทนและช่วยเซฟชอตสำคัญหลายครั้งก่อนทัพ'โลส บลังโกส'จะเบียดคว้าแชมป์หลังสอยทีมห้างยา 2-1 

ตลอดอาชีพ 16 ปีกับ เรอัล มาดริด กาซียาส รับบทผู้รักษาประตูมือหนึ่งยาวนานหลายปีจนกระทั่ง โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ของทีมชุดขาวขณะนั้นถอดเป็นสำรองเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2012 โดยส่ง อันโตนิโอ อาดาน ลงเฝ้าเสาแทน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างเทรนเนอร์กับนักเตะ 

กาซียาส บาดเจ็บในช่วงเดือนมกราคมปี 2013 สบช่องให้ มูรินโญ่ เซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูคนใหม่ ดีเอโก้ โลเปซ มาจาก เซบีย่า พร้อมดันขึ้นเป็นมือหนึ่งทันที แม้ว่า กาซียาส จะฟิตกลับมาหลังจากนั้น แต่ยังถูกดร็อปเป็นตัวสำรองจนมีโอกาสลงเฝ้าเสาบนเวทีลีกาซีซั่นนั้นเพียง 19 นัด ก่อนเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสจะอำลาทีมหลังจบซีซั่น 2012-13 

เรอัล มาดริด แต่งตั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ต่อจาก มูรินโญ่ ทว่า กาซียาส ยังคงเป็นตัวสำรองของ ดีเอโก้ โลเปซ โดยลงเฝ้าเสาบนเวทีลีกาเพียง 2 เกมและลงเล่นเฉพาะรายการ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ โกปา เดล เรย์ เท่านั้น 

กาซียาส กลับมาเป็นมือหนึ่งของ เรอัล มาดริด อีกครั้งในซีซั่น 2014-15 โดยมี เกย์ลอร์ นาวาส ที่ถูกดึงจาก เลบันเต้ มาร่วมทีมช่วงซัมเมอร์ปี 2014  เป็นสำรอง แต่นั่นคือฤดูกาลสุดท้ายของ กาซียาส ฐานะนักเตะมาดริดหลังลงเล่นรวมกัน 725 เกม ก่อนย้ายมาเซ็นสัญญากับ เอฟซี ปอร์โต้ หลังจบฤดูกาลดังกล่าว

มันเป็นการอำลาถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'แบบไม่ดีนักของ กาซียาส เสียงวิพากษ์วิจารณ์พุ่งเป้าไปที่ ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ว่าไม่ให้เกียรติหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของสโมสรด้วยการบีบให้ต้องตัดสินใจย้ายทีมจนเกิดกระแสจากสาวกมาดริดิสต้าเรียกร้องให้ประธานทีมชุดขาวลาออกจากตำแหน่ง 

อย่างไรก็ตาม กาซียาส ยังสานต่ออาชีพของเขากับ ปอร์โต้ ด้วยดีและตั้งเป้าลงเฝ้าเสาระดับอาชีพแตะหลัก 1,000 เกม ทว่าชีวิตค้าแข้งของอดีตนายทวารมาดริดพลิกผันหลังมีอาการหัวใจวายระหว่างการฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2019 ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและนอนพักรักษาตัวนาน 6 วันทำให้อนาคตไม่มีความแน่นอนหลังจากนั้น

แม้ กาซียาส จะกลับมาฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นหลังเกือบเอาชีวิตไม่รอดในอีก 2 เดือนถัดมา แต่ ปอร์โต้ ปรับบทบาทเขามาเป็นส่วนหนึ่งของสตาฟฟ์โค้ชและต้องเข้ารับการทดสอบทางการแพทย์ต่อเนื่อง แม้นายทวารชาวสเปนจะคาดหวังว่าจะกลับมาลงสนามอีกครั้งก็ตามแต่การออกกำลังกายหนักๆอาจสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากคำแนะนำทางการแพทย์

นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ กาซียาส คิดถึงการปรับเปลี่ยนบทบาทจากนักเตะก้าวเข้าสู่ระดับบริหารโดยตั้งเป้าหมายไปที่ตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนที่มีการหยั่งเชิงสอบถามเสียงสนับสนุนมาหลายเดือน ซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของเมืองกระทิง

แน่นอนว่า อีเกร์ กาซียาส จะกลายเป็นผู้ท้าชิงที่ทรงพลังพร้อมเขย่าเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนของ หลุยส์ รูเบียเลส วัย 42 ปี 

รูเบียเลส เป็นอดีตนักเตะเช่นเดียวกับ กาซียาส แต่ส่วนใหญ่เล่นกับสโมสรเล็กๆอย่าง เยอีด้า, เคเรซ, เลบันเต้, อลีกันเต้ กับ แฮมิลตัน ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งเหมือนอดีตนายทวารมาดริดที่มีดีกรีเป็นถึงนายทวารชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และแชมป์ยูโรอีก 2 สมัย (2008 กับ 2012) 

หลังเลิกเล่นฟุตบอลในช่วงเดือนมีนาคมปี 2010 รูเบียเลส ชนะการเลือกตั้งดำรงค์ตำแหน่งประธานสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของสเปน เขาลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ด้วยความตั้งใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนและก้าวขึ้นตำแหน่งที่คาดหวังในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2018 หลังการเอาชนะ ฆวน หลุยส์ ลาร์เรีย ในการเลือกตั้งโดยได้คะแนนโหวต 139 เสียง

ภารกิจแรกฐานะประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนคือการปลด จูเลน โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมกระทิงก่อนลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียเพียง 2 วันหลัง โลเปเตกี แอบเจรจาเพื่อรับตำแหน่งเทรนเนอร์คนใหม่ของ เรอัล มาดริด ก่อนตั้ง เฟร์นานโด เอียร์โร่ เป็นเทรนเนอร์ขัดตาทัพและทีมกระทิงตกรอบน็อกเอาท์หลังดวลเป้าพ่ายเจ้าภาพ 

รูเบียเลส ยังสร้างเรื่องดราม่าอีกครั้งหลังจากนั้นด้วยการสั่งปลด โรเบิร์ต โมเรโน่ ออกจากตำแหน่งพร้อมดึง หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ กลับมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

แม้จะขาดประสบการณ์ระดับงานบริหารก็ตาม แต่ กาซียาส จะเป็นคู่แข่งแย่งตำแหน่งที่น่าหวาดหวั่นสำหรับ หลุยส์ รูเบียเลส เพราะถ้าหากไม่มั่นใจในเสียงสนับสนุนหลังการหยั่งเชิงมาระยะหนึ่ง อดีตนายทวารมาดริดคงไม่ประกาศท้าชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ถึงตอนนี้ก็รอเพียงสหพันธ์ฟุตบอลสเปนประกาศวันและเวลาการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้นและมีแนวโน้มว่าประธานคนต่อไปจะมีชื่อว่า อีเกร์ กาซียาส