ประเมินผลงาน...

จากผลการแข่งขันรอบ 16 ทีม นัดแรก บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ของ 4 สโมสรตัวแทนจาก สเปน มีเฉพาะ แอตเลติโก มาดริด ทีมเดียวเท่านั้นที่คว้าชัยชนะ ขณะที่ บาร์เซโลน่า ทำได้แค่เสมอ ส่วน เรอัล มาดริด กับ บาเลนเซีย พ่ายแพ้ทั้งสองค่าย

มันยังมีโอกาสที่จะตกรอบทั้ง 4 ทีม โดยเฉพาะ บาเลนเซีย ที่อาการโคม่าหลังพ่ายยับต่อ อตาลันต้า 1-4 กับ เรอัล มาดริด ดีกรีแชมป์ 13 สมัยที่ปราชัยคารังต่อ แมนฯซิตี้ 1-2 หรือแม้แต่ บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติโก มาดริด อาจหลุดวงโคจรได้เช่นกันหากก่อความผิดพลาดในเกมที่สอง ส่วนโอกาสที่ทั้ง 4 สโมสรจะจูงมือกันเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลคงจะเกิดขึ้นยาก 

บาเลนเซีย พลาดท่าพ่าย อตาลันต้า ที่'ซาน ซีโร่' 1-4 แต่เทรนเนอร์ อัลเบิร์ต เซลาเดส ยังมีความเชื่อว่าทีมค้างคาวยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ในการกลับมาเล่นบนสังเวียนเมสตาย่า

'แน่นอน เราก่อความผิดพลาด' เซลาเดส กล่าวหลังเกมพ่ายยับ 'เมื่อคุณลงเล่นระดับนี้เผชิญหน้ากับทีมอย่าง อตาลันต้า คุณไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามีพื้นที่ว่างแบบนั้น เราสร้างโอกาสของพวกเราและนั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลงเล่นเกมที่สอง'

'ผมคิดว่าเรายังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ ผลการแข่งขันเกมนี้ชัดเจน แต่เราจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่ เมสตาย่า เราเล่นกันได้ดีในสนามของเรา เราเสียประตูมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นนอกบ้าน นั่นไม่อาจปฏิเสธได้'

'มันไม่ง่ายที่จะพลิกสถานการณ์นี้ แต่เราจะพยายาม' เซลาเดส กล่าวถึงเกมสองในวันอังคารที่ 10 มีนาคมนี้ 

เรอัล มาดริด พลาดท่าคารังต่อ แมนฯซิตี้ 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลัง อีสโก้ อาลาร์กอน ทำประตูขึ้นนำช่วงนาที 60 แต่ทีมเรือใบพลิกแซงชนะจากการโหม่งของ กาเบรียล เชซุส และการสังหารจุดโทษของ เควิน เดอ บรอยน์ แถมทีมชุดขาวยังเสีย เซร์คิโอ รามอส กองหลังคนสำคัญที่ถูกไล่ออกครั้งที่ 26 ในอาชีพค้าแข้งและครั้งที่ 4 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกพลาดการเล่นเกมเยือน'เอติฮัด สเตเดี้ยม'วันอังคารที่ 17 มีนาคมนี้ 

'เราเล่นได้ดีตลอด 75 นาทีและรู้สึกหงุดหงิดที่พ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามการแข่งขันนี้มีเวลา 180 นาทีและมันยังไม่จบ ตอนนี้เราต้องมองโลกในแง่ดี อาจจะไม่มีเรื่องดีๆ มากนักเกี่ยวกับผลการแข่งขัน แต่เรามีเกมที่ดีนอกเหนือจากช่วงท้ายเกม"

'เราต้องการเวลามากกว่า 10 นาทีในการมีสมาธิในเกมที่ยากมากแบบนี้ แต่ท้ายที่สุด เราต้องจ่ายด้วยราคาแพง'

การ์ลอส กาเซมีโร่ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมีความเชื่อไม่ต่างจากเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส โดยยืนยันว่าทีมชุดขาวยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์ในการมาเล่นนัดสองที่'เอติฮัด สเตเดี้ยม'วันอังคารที่ 17 มีนาคมนี้ 

'ผลที่ออกมานี้ยังไม่ได้ทำให้การแข่งขันจบลง เราเล่นได้ดีถึง 75 นาทีในการดวลกับทีมที่ยอดเยี่ยม จากนั้นในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเราไม่ได้ทำในสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้ และนั่นคือสาเหตุที่พวกเขาสู้และตามตีเสมอ ตอนนี้เรามีงานหนักมากรอเราอยู่'

'ถ้าจะมีทีมไหนที่จะพลิกสถานการณ์จากความเสียเปรียบนี้ในเกมนัดที่สอง มันคือ เรอัล มาดริด'

บาร์เซโลน่า บุกมาทำประตูที่'ซาน เปาโล'ช่วงชิงความได้เปรียบจากกฎ'อเวย์โกล' แต่ทีมของ เอ็นรีเก้ เซเตียน ยังประมาททีมดังเมืองเนเปิ้ลส์ของ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ไม่ได้เช่นกัน สำหรับเกมสองที่'คัมป์ นู'วันพุธที่ 18 มีนาคมนี้ 

ทว่าทัพอาซูลกราน่ามีปัญหากับการลงเล่นนัดสองไม่น้อยเช่นกัน โดยมีทั้งนักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบนจนเทรนเนอร์มีตัวเลือกลงสนามจำกัด 

ทั้ง อุสมาน เดมเบเล่, หลุยส์ ซัวเรซ กับ เซร์จี้ โรเบร์โต้ จะพลาดการลงเล่นเกมดังกล่าวเนื่องจากบาดเจ็บ ขณะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กับ อาร์ตูโร่ วีดาล ติดโทษพักแข้ง ส่วน จอร์ดี้ อัลบา ยังต้องรอการประเมินสภาพความฟิตอีกครั้ง อาจนับรวมถึง เคราร์ด ปีเก้ ที่ข้อเท้าซ้ายพลิกจากเกมแรกด้วย นอกจากนี้บาร์ซ่ายังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน เบรธเวต แนวรุกคนใหม่ที่ไม่ได้ลงทะเบียนลงสนามเกมยุโรป

'มันเป็นผลการแข่งขันที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูว่าเราจะได้กลับไปเล่นในบ้านเกมที่สอง'

'บูซี่ (เซร์คิโอ บุสเกตส์) รับใบเหลืองสะสมครบสามใบ และเรายังไม่มี วีดาล อีก เราจะต้องมองหาทางเลือก ส่วน ปีเก้ ก็มีปัญหาที่ข้อเท้า'

ส่วน แอตเลติโก มาดริด เป็นทีมเดียวของสเปนที่คว้าชัยชนะในรอบ 16 ทีม นัดแรก แถมยังเป็นการโค่นแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล 1-0 จากการทำประตูโทนตั้งแต่ช่วงต้นเกมของ ซาอูล ญีเกซ ทว่าทีมตราหมียังมีโจทย์หินในการเยือน'แอนฟิลด์'วันพุธที่ 11 มีนาคมนี้ 

ข่าวดีของ แอตเลติโก มาดริด คือการฟื้นตัวกลับมาของบรรดาแข้งดาวดังที่บาดเจ็บไปก่อนหน้านี้ทั้ง ชูเอา เฟลิกซ์, ดีเอโก้ คอสต้า กับ คีแรน ทริปเปอร์ ซึ่งทำให้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ทีมตราหมีมีตัวเลือกลงสนามมากขึ้น 

การมาเยือน'แอนฟิลด์'ของ แอตเลติโก มาดริด สามารถคาดเดาแนวทางไม่ยากว่า ซิเมโอเน่ จะใช้แท็คติกแบบใดรับมือทัพหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งทำผลงานในบ้านดีมากทีมหนึ่งของยุโรป

ลิเวอร์พูล ไม่แพ้จากการลงเล่นในแอนฟิลด์บนเวทียุโรปตลอด 17 เกมหลังสุด สถิติชนะ 12 เสมอ 5 ทีมหงส์แดงพ่ายคารังครั้งล่าสุดตั้งแต่ยุค เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังถูก เรอัล มาดริด บุกมายิง 3-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2014 จากการเหมาสองของ คาริม เบนเซม่า บวกอีกหนึ่งจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้

นับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือ ลิเวอร์พูล ช่วงเดือนตุลาคมปี 2015 ก่อนนำทัพหงส์แดงลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกตั้งแต่ซีซั่น 2017-18 ทีมของนายใหญ่ชาวเยอรมันลงเล่นฟุตบอลยุโรปในถิ่นแอนฟิลด์ 16 เกม สถิติชนะ 12 เสมอ 4 ก่อนจะเปิดบ้านแก้มือ แอตเลติโก มาดริด ในวันพุธที่ 11 มีนาคมนี้ 

จากผลงานนัดแรกของรอบ 16 ทีม ส่งผลให้ บาเลนเซีย ตกมาเป็นเต็งบ๊วยของรายการร่วมกับ เชลซี เนื่องจากบ่อนรับพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกสำนักมองว่าทั้งสองทีมคงจะพลิกสถานการณ์กลับมาแย่งตั๋วเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลลำบาก 

ขณะที่ เรอัล มาดริด อดีตแชมป์รายการนี้ 13 สมัย หลุดมาเป็นเต็ง 11 หลังการปราชัยคารังต่อทีมเรือใบ เหนือกว่าเฉพาะ ลียง, นาโปลี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมถึงสองเต็งบ๊วยเท่านั้น

แอตเลติโก มาดริด เป็นเต็ง 8 ของรายการ ดีกว่า อตาลันต้า กับ ดอร์ทมุนด์ รวมถึง 6 ทีมข้างต้น แต่ยังเทียบไม่ได้กับ ลิเวอร์พูล ที่เป็นเต็ง 3 ตามหลัง แมนฯซิตี้ กับ บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าทีมหงส์แดงจะเปิดแอนฟิลด์ทุบทีมตราหมีคว้าตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสำเร็จ

ส่วน บาร์เซโลน่า เป็นเต็ง 4 ของรายงานเหนือกว่า ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ ไลป์ซิก 

เรอัล มาดริด กับ บาเลนเซีย ต่างมีความเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ในการลงเล่นเกมสองอีก 90 นาที ทั้งสองทีมต่างพบงานยากแตกต่างกัน แม้ทีมค้างคาวจะกลับมาเล่นในถิ่นเมสตาย่า แต่การปราชัยจากเกมแรก 1-4 กลายเป็นช่องว่างที่กว้างเกินไปสำหรับการพลิกกลับมา

สำหรับ เรอัล มาดริด อาจจะแพ้สกอร์ไม่ขาดเพียง 1-2 ทว่าเป็นการปราชัยคาบ้าน ดังนั้นทีมชุดขาวจำเป็นต้องบุกมายิงประตูที่'เอติฮัด สเตเดี้ยม'อย่างน้อย 2 ประตูเพื่อลุ้นแย่งตั๋วเข้ารอบต่อไป 

ส่วนสาวกโกลโชเนโรสคงได้แต่คาดหวังว่ารถบัสที่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์จะขับมาจอดหน้าปากประตูที่แอนฟิลด์จะเหนียวและแน่นพอที่จะรับมือพายุเกมบุกของทีมหงส์แดง 

ดังนั้น บาร์เซโลน่า จึงอาจเป็นทีมเดียวจากสเปนที่ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ เว้นเสียแต่ว่าทีมอาซูลกราน่าจะประมาทคู่แข่งจนพังคาถิ่น'คัมป์ นู'เท่านั้น