:::     :::

ความสำเร็จของ'ลา เรอัล'

วันพฤหัสบดีที่ 05 มีนาคม 2563 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,373
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นักเตะและทีมสตาฟฟ์ของ เรอัล โซเซียดาด ฉลองความสำเร็จจากการทะยานเข้ารอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ครั้งแรกในรอบ 32 ปี

เรอัล โซเซียดาด ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ครั้งแรกรอบ 32 ปี หลังการบุกเชือด มีรานเดส 1-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คว้าตั๋วเข้าชิงดำด้วยสกอร์รวม 3-1

'ลา เรอัล'เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ 7 ครั้ง คว้าแชมป์ 2 สมัย ครั้งแรกตั้งแต่ปีมะโว้ 1909 ส่วนครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในซีซั่น 1986-1987 ภายใต้การคุมทีมของ จอห์น โตแช็ค เทรนเนอร์ชาวเวลส์

ทีมดังแคว้นบาสก์คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ฤดูกาลดังกล่าวจากการดวลเป้าชนะ แอตเลติโก มาดริด ของ หลุยส์ อาราโกเนส 4-2 หลังเสมอกันในช่วง 90 นาทีต่อเนื่องถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-2 

ทัพ'ลา เรอัล'ยังมีโอกาสป้องกันแชมป์ในซีซั่นถัดมา แต่พลาดท่าพ่าย บาร์เซโลน่า 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศจากการทำประตูโทนของ โฆเซ่ ราม่อน อาเลชานโก้ 


ก่อนที่ อีมานอล อัลกวาซิล เทรนเนอร์วัย 48 ปีจะทำให้ความฝันของสาวก'ลา เรอัล'กลายเป็นจริงหลังรอคอยมานาน 32 ปี 

อัลกวาซิล เป็นคนของสโมสรมาตั้งแต่การเป็นนักเตะมาจนถึงเทรนเนอร์ เขาก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ'ลา เรอัล'ในช่วงปี 1990-1998 ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ บียาร์เรอัล, ฆาเอน, การ์ตาเคน่า และ บูร์โกส 

เขาเริ่มต้นทำงานฐานะเทรนเนอร์ของทีมเยาวชน เรอัล โซเซียดาด ตั้งแต่ปี 2011 ก่อนเลื่อนชั้นขึ้้นมาคุมทีม เบ ปี 2014 และเป็นหนึ่งในทีมงานสตาฟฟ์ของ เดวิด มอยส์ ช่วงที่ทำงานฐานะเทรนเนอร์ของทีมดังแคว้นบาสก์ด้วย

อัลกวาซิล เคยขึ้นมากุมบังเหียนทีมชุดใหญ่ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2018 จนกระทั่งจบซีซั่นหลังสโมสรปลด อูเซบีโอ ซากริสตาน ออกจากตำแหน่ง ทำสถิติชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 3 จากการคุมทีมลงสนาม 9 เกม ก่อนถอยไปคุมทีม เบ อีกครั้งเมื่อสโมสรแต่งตั้ง อาเซียร์ การีตาโน่ เป็นเทรนเนอร์คนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018


ทว่า เรอัล โซเซียดาด สั่งปลด การีตาโน่ ออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนธันวาคมปีเดียวกันพร้อมดัน อัลกวาซิล ทำหน้าที่คุมทีมขัดตาทัพอีกครั้ง เขาทำผลงานดีจนกระทั่งสโมสรตั้งเป็นเทรนเนอร์ถาวร ซึ่งเทรนเนอร์วัย 48 ปีทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทซีซั่น 2019-2020

ปัจจุบัน อัลกวาซิล นำทีมดังแคว้นบาสก์อยู่อันดับ 6 ของลีกา เก็บ 43 คะแนนจากการลงเล่น 25 เกม ห่างจากพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีกเพียง 2 แต้ม แต่ทัพ'ลา เรอัล'ตามหลัง เคตาเฟ่ เพียง 2 แต้มและอยู่ห่างจากอันดับ 3 เซบีย่า 3 คะแนน 

อีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของ อัลกวาซิล คือการนำทัพ'ลา เรอัล'ทะยานเข้ารอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1988 หรือ 32 ปีก่อนหน้านี้ 


เทรนเนอร์วัย 48 ปี เปิดเผยหลังเกมบุกชนะ มีรานเดส 1-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเขาคาดหวังว่าจะได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศบนสังเวียน'เอสตาดิโอ เด ลา การ์ตูฆา'ของเมืองเซบีย่าในวันที่ 18 เมษายนนี้กับทีมคู่ปรับร่วมแคว้นอย่าง แอธเลติก บิลเบา ซึ่งมีคิวลงเล่นรอบตัดเชือกนัดสองกับ กรานาด้า วันพฤหัสฯ

'แน่นอน ผมต้องการ แอธเลติก เพราะมันจะยอดเยี่ยมมากสำหรับแคว้นบาสก์' อัลกวาซิล เปิดอก

'ผมชื่นชอบ กรานาด้า ของ ดีเอโก้ (มาร์ตีเนซ) สำหรับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่บนเวทีลีกา แต่มันจะดีมากถ้าหากเป็นศึกดาร์บี้แมตช์แคว้นบาสก์ในรอบชิงชนะเลิศ'

จากชัยชนะเหนือ มีรานเดส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการคว้าชัยจากการลงเล่นทุกรายการ 6 เกมติดต่อกันของ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมของ อัลกวาซิล ก่อนเกมเยือน'คัมป์ นู'ดวลกับ บาร์เซโลน่า วันเสาร์นี้ 


'มันเป็นเรื่องยากมากที่จะกล่าวออกมาเป็นคำพูดว่าเรารู้สึกอย่างไรที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกในรอบหลายปี เราทำแคมเปญฟุตบอลถ้วยที่ยอดเยี่ยม ชนะทุกเกม ผมต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่หนุนหลังเรา'

'สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้อยู่ที่นัดชิงชนะเลิศ ความรับผิดชอบของเขาคือการคว้าชัยชนะในรอบชิงชนะเลิศและผมจะไม่หยุดพัก แต่เราจะพยายามเพื่อคว้าแชมป์และทำสิ่งที่สำคัญบนเวทีลีกา'

'นี่เป็นปีที่เราสร้างโอกาสนี้ขึ้นมา สิ่งดีที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น' เทรนเนอร์วัย 48 ปี กล่าว

เรอัล โซเซียดาด เดินหน้าเก็บชัยชนะบนเวที โกปา เดล เรย์ ซีซั่นนี้ตลอดทั้ง 7 เกมจนกระทั่งทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ

ทัพ'ลา เรอัล'ตบเด็ก เบเซร์รีล กัมโปส ตั้งแต่รอบแรกด้วยสกอร์ 8-0 ตามด้วยการกระทุ้ง เซวต้า 4-0 ในรอบ 2 จากนั้นทีมดังแคว้นบาสก์สยบสองทีมลีกาอย่าง เอสปันญ่อล กับ โอซาซูน่า ด้วยสกอร์ 2-0 กับ 3-1 ตามลำดับ


ผลงานเด็ดของ เรอัล โซเซียดาด คือการบุกชนะหนึ่งในทีมเต็งอย่าง เรอัล มาดริด ถึงถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'4-3 ในรอบควอเตอร์ไฟนัล ก่อนสยบ มีรานเดส ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-1 จากชัยชนะในบ้าน 2-1 ปิดท้ายด้วยเกมเยือนทีมเซกุนด้า 1-0

หลังสิ้นเสียงนกหวีดครั้งสุดท้ายของผู้ตัดสิน โฆเซ่ มาเรีย ซานเชซ มาร์ตีเนซ บนสังเวียน'เอสตาดิโอ มูนีซีปาล เด อันดูบา'เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กล้องทีวีจับภาพไปที่ อีมานอล อัลกวาซิล ที่ออกมาเฉลิมฉลองกับลูกทีมบริเวณกลางสนามด้วย

'มันเป็นความภาคภูมิใจ' อัลกวาซิล เปิดอก 'ผมร้องไห้ ผมจำได้ว่ามีหลายคน ครอบครัวผม, สตาฟฟ์ที่อดทนทำงานกับผม ผมอยู่ที่นั่นเพื่อดูว่าผู้เล่นสนุกกับสิ่งที่เราประสบความสำเร็จ' 


ขณะที่ โจกิน อาเปร์รีบาย ประธานสโมสร เรอัล โซเซียดาด มีความรู้สึกไม่แตกต่างจากเทรนเนอร์ อีมานอล อัลกวาซิล รวมถึงสาวก'ลา เรอัล'หลังความสำเร็จบนเวที โกปา เดล เรย์ 

'มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายสิ่งที่อยู่ในหัวตอนนี้ มันมีหลายเรื่องเต็มไปหมด' ประธานทีมดังแคว้นบาสก์เปิดเผย 'มันเป็นรางวัลสำหรับความพยายามของหลายคน มันผ่านมา 32 ปีแล้ว ลา เรอัล ผ่านเรื่องราวมามากมาย ถึงเวลาที่จะสนุกและใช้ประโยชน์จากมันแล้ว พวกเราจะไปเซบีย่าด้วยความแข็งแกร่ง'

เรอัล โซเซียดาด ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ครั้งแรกนานกว่า 3 ทศวรรษ แต่ประธาน'ลา เรอัล'ไม่ต้องการให้แสงสปอตไลท์ส่องมาที่ตัวเองแต่เพียงผู้เดียว 'ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นช่วงเวลาของประธานสโมสร มันเป็นช่วงเวลาของแฟนบอลและผู้เล่นทุกคน ผมขอโทษด้วย ผมกำลังดีใจ, มีความสุขและความรู้สึกของผมไม่ต่างจากแฟนบอล สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในปีนี้กับโซซีโอหรือสมาชิกสโมสร 35,000 คน ทุกคนตอบสนองเช่นนี้ ผมขอขอบคุณแฟนบอลทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการที่พวกเขาอยู่เคียงข้างเราเสมอมาในช่วงเวลาเลวร้าย'


'ผมตื่นเต้นมากสำหรับแฟนบอลทุกคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในรอบชิงชนะเลิศมาก่อนและสำหรับผู้ที่จำได้ว่ามันเป็นอย่างไร มันเกิดขึ้นนานมากตั้งแต่ผมยังหนุ่ม มันผ่านมานาน 32 ปีแล้ว ในช่วงทศวรรษที 80 พวกเขาทำหลายสิ่งหลายอย่าง คว้าแชมป์ลีกา 2 สมัย, โกปา เดล เรย์ และ ซูเปร์โกปา รายการละครั้ง รวมถึงการเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยุโรป การทำซ้ำเป็นครั้งที่สองมันยากมาก แต่เรามาดูกันว่าเราจะเริ่มต้นอีกครั้งในเมืองเซบีย่า'

'ผมจะฉลองร่วมกับลูกชายของผม กับครอบครัวผมและกอดกับที่ปรึกษา, สตาฟฟ์เทรนเนอร์และนักเตะ ผมขอขอบคุณนักเตะทุกคน, อีมานอล, ลาบาก้า และเจ้าหน้าที่สตาฟฟ์ทุกคน พวกเขาคือผู้ที่นำเราไปถึง อันดูบา จนถึงเซบีย่า'


อย่างไรก็ตามประธาน'ลา เรอัล'ไม่เกี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับทีมใดในรอบชิงชนะเลิศไม่ว่าจะเป็น แอธเลติก บิลเบา หรือ กรานาด้า 'รอบชิงชนะเลิศของสองทีมจากแคว้นบาสก์เป็นสิ่งสวยงามเสมอ แต่เราเคารพ กรานาด้า อย่างสูง มันจะเป็นรอบรองชนะเลิศที่ยากมาก เราขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะและจะพบกับเราในรอบชิงชนะเลิศ'

ส่วน แอธเลติก บิลเบา จะหลุดเข้ามาตามนัดเพื่อทำศึกดาร์บี้แมตช์แคว้นบาสก์ฉบับ โกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศในวันที่ 18 เมษายนนี้หรือไม่ เราคงจะทราบคำตอบช่วงเช้ามืดวันศุกร์นี้


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด