ทางเลือกอนาคตของ'ฮาคิมี่'

อาชราฟ ฮาคิมี่ อาจไม่ใช่ผู้เล่นระดับท็อปของวงการลูกหนัง แต่น่าจะเป็นเบอร์ต้นๆของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ หลังแบ็กวัย 21 ปีตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมชั้นนำของยุโรป 

หลายต่อหลายทีมเรียงคิวขายขนมจีบหวังโน้มน้าวให้ ฮาคิมี่ ย้ายเข้าสังกัดในช่วงหน้าร้อนนี้ทั้ง แมนฯซิตี้, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, บาเยิร์น มิวนิค, อินเตอร์ มิลาน รวมถึง ดอร์ทมุนด์ ที่นักเตะกำลังเล่นด้วยสัญญายืมตัว

ฮาคิมี่ มีพ่อ-แม่เป็นชาวโมร็อกกัน เขาเกิดที่มาดริด ซึ่งมีโอกาสลงเล่นกับทีมชาติสเปน แต่เขาเลือกรับใช้ทีมชาติโมร็อกโกจึงมีโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียเมื่อปี 2018 ต่างจากแข้งรุ่นพี่อย่าง มูนีร์ เอล อัดดาดี้ ที่ตัดสินใจเล่นกับทีมกระทิงจึงไม่ได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศของศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเหมือนรุ่นน้อง

อาชราฟ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ เซเด โกโลเนีย โอฟีเคบี ทีมท้องถิ่นของเมืองเคตาเฟ่ ก่อนย้ายเข้าอะคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ปี 2006 ตอนอายุ 8 ขวบ ก่อนจะมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ช่วงสั้นๆระหว่างการเตรียมทีมปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเตะจะรู้สึกว่ามาดริดเป็นเหมือนบ้านของเขา 

ฮาคิมี่ เคยให้สัมภาษณ์แบบเปิดอกกับ 'เตเลฟุต' สื่อฝรั่งเศสว่า 'เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่ผมเรียกว่าบ้าน'

'ผมมีความสุขกับช่วงเวลาของผมที่นั่นและลงเล่นหลายเกมที่นั่น ถ้า เรอัล มาดริด ต้องการให้ผมกลับไป ผมจะกลับ และถ้าไม่ ผมจะต้องเขียนบทต่อไปที่สโมสรยิ่งใหญ่อีกแห่ง'

เรอัล มาดริด ส่ง ฮาคิมี่ ประเดิมสนามในแมตช์อุ่นเครื่องรายการ'อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ'ปี 2016 ในเกมพ่าย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-3 ก่อนจะกลับมาเล่นกับ เรอัล มาดริด กาสตีย่า ในช่วงฤดูกาลนั้น จนกระทั่งได้รับการผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงเดือนสิงหาคมปีถัดมาเพื่อเป็นแบ็คอัพของ ดาเนียล การ์บาฆาล กับ นาโช่ เฟร์นานเดซ และลงประเดิมสังเวียนในเกมชนะ เอสปันญ่อล 2-0 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2017 

อย่างไรก็ตาม ฮาคิมี่ ยังมีประสบการณ์น้อยและมีโอกาสลงเล่นไม่มากนัก เรอัล มาดริด จึงปล่อยนักเตะย้ายไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 หวังให้นักเตะพัฒนาฝีเท้าเหมือนตอนปล่อย ดาเนียล การ์บาฆาล ย้ายมาค้าแข้งกับ เลเวอร์คูเซ่น ในซีซั่น 2012-2013 ก่อนทีมชุดขาวจะซื้อตัวกลับตามเงื่อนไขหลังจบฤดูกาลนั้น 

อาชราฟ ได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องกับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่ปีแรก เขาลงเล่นทุกรายการ 33 เกมและทำ 3 ประตูในซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนทำผลงานน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ ลงเล่นทุกรายการ 43 เกม ทำ 9 ประตูและ 10 แอสซิสต์ ซึ่งรวมถึงการกระทุ้งสองประตูในเกมชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-2 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ช่วงเดือนพฤศจิกายน

จากผลงานดังกล่าวทำให้แข้งวัย 21 ปี ซึ่งเล่นได้ทั้ง แบ็กสองฝั่ง และ ปีก รวมถึงการเป็นนักเตะที่มีสปีดต้นจัดจ้านตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสร 

อาเลฆานโดร กามาโน่ เอเยนต์ของ ฮาคิมี่ เคยกล่าวในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่าฟูลแบ็กทีมชาติโมร็อกโกจะย้ายกลับเมืองหลวงของสเปนในช่วงซัมเมอร์นี้พร้อมตอบคำถามถึงประเด็นเชื่อมโยงกับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนหน้านี้ว่า 'ไม่มีข้อเสนอดังกล่าว เราจะกลับไป มาดริด'

ฟูลแบ็กโมร็อกโกยังเคยบอกกับสถานีวิทยุสเปน 'กาเดน่า เซร์'ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่า 'การกลับมาที่ มาดริด เป็นสิ่งที่สัญญาผมระบุไว้ แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเดือนมิถุนายนและเราจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้'

'ในหัวของผม ผมต้องการลงเล่นและเติบโตต่อไปในที่ที่ผมได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริง เหมือนที่เกิดขึ้นที่นี่ในเยอรมัน'

'ผมต้องการแสดงให้เห็นถึงการเป็นนักเตะแบบที่ผมเป็นและทำในสิ่งที่ผมชอบทำมากที่สุด นั่นคือเล่นฟุตบอล'

ช่วงเดือนมีนาคมตามรายงานจาก'อาส' เปิดเผยว่า เรอัล มาดริด ต้องการ ฮาคิมี่ กลับมาที่สโมสรในฤดูกาลหน้า แต่พวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะได้ลงเล่นตัวจริงและยังอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเกี่ยวกับอนาคตของนักเตะ

เรอัล มาดริด หวังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการยกระดับฝีเท้าขึ้นมาของ ฮาคิมี่ โดยวางแผนให้แบ็กชาวโมร็อกโกเป็นตัวแทนระยะยาวของ การ์บาฆาล ที่ปัจจุบันอายุ 28 ปี ขณะที่ ซีเนดีน ซีดาน มองว่า อาชราฟ จะเป็นตัวเลือกแรกในอนาคตเช่นเดียวกัน แต่แบ็กวัย 21 ปียังไม่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทัพ'โลส บลังโกส'ในซีซั่นหน้า

ซีดาน มี การ์บาฆาล เป็นตัวเลือกแรกของตำแหน่งแบ็กขวา มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ ฮาคิมี่ จะเบียดขึ้นมาเล่นเป็นตัวจริงอย่างที่เจ้าตัวปรารถนา ขณะเดียวกันทีมชุดขาวยังมีแบ็คอัพตำแหน่งดังกล่าวอีกหลายคนทั้ง อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า, นาโช่ เฟร์นานเดซ รวมถึง เอแดร์ มิลิเตา แนวรับชาวบราซิเลียนค่าตัวแพงที่เล่นได้ทั้งแบ็กและเซนเตอร์ 

แน่นอนว่า เรอัล มาดริด วางแผนที่จะปล่อยทั้ง นาโช่ เฟร์นานเดซ กับ โอดรีโอโซล่า ออกจากถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' ในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับ ฮาคิมี่ ทว่าแบ็กชาวโมร็อกกันตั้งความหวังว่าจะมีโอกาสลงสนามต่อเนื่อง ไม่ใช่บทบาทแบ็คอัพของ การ์บาฆาล มันจึงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจไม่ง่ายสำหรับมาดริด 

ทัพ'โลส บลังโกส'วางแผนให้ อาชราฟ เป็นแบ็กขวาตัวหลักในอนาคต แต่นักเตะไม่ปรารถนาที่จะเป็นตัวสำรองซึ่งคงต้องรออีกราว 2-3 ปีหรือนานกว่านั้นกว่า การ์บาฆาล จะของหมด

ขณะเดียวกันสถานะทางการเงินของสโมสรมีปัญหาพอสมควรจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส'โควิด-19' ดังนั้นการปล่อยนักเตะบางคนออกจากสังกัดจึงสามารถช่วยเยียวยาเรื่องรายได้ที่ขาดหายไปได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะผู้เล่นที่สามารถปั่นราคาได้อย่าง ฮาคิมี่ เนื่องจากนักเตะยังมีสัญญาอีก 3 ปี 

ดอร์ทมุนด์ แสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการให้ ฮาคิมี่ ค้าแข้งในถิ่น'ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ค'ต่อไปในฤดูกาลหน้าโดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาถาวหรือรูปแบบการยืมตัวก็ตาม แต่ทีมเสือเหลืองคงต้องถอยฉากเมื่อมีสโมสรยักษ์ใหญ่รวมวงแย่งตัวนักเตะ 

'กาเดน่า เซร์' สถานีวิทยุของสเปนจั่วหัวว่า แมนฯซิตี้ กำลังรุกเข้าหา เรอัล มาดริด เพื่อหวังดึง ฮาคิมี่ ไปค้าแข้งในถิ่น'เอติฮัด สเตเดี้ยม'ในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยสนนราคาราว 60 ล้านยูโร เนื่องจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังไม่พอใจกับผลงานของแบ็กที่มีอยู่แม้ว่าจะทุ่มเงินปรับปรุงตำแหน่งดังกล่าวไปหลายร้อยล้านปอนด์แล้วก็ตาม 

อาชราฟ เป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติตรงตามสเป็คของกุนซือทีมเรือใบ ฟอร์มกำลังสดและยังเล่นได้ทั้งฝั่งขวาและซ้าย ถือเป็นผู้เล่นอเนกประสงค์สำหรับกุนซือหัวก้าวหน้าอย่าง กวาร์ดิโอล่า

ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค คู่ปรับร่วมลีกของ ดอร์ทมุนด์ ก็ขยับเข้าหา ฮาคิมี่ เช่นเดียวกัน ตามรายงานจาก'อาส'สื่อเมืองกระทิงระบุว่าทีมดังแคว้นบาวาเรียพร้อมจ่ายค่าจ้างให้นักเตะปีละ 6-7 ล้านยูโรหลังหักภาษี ส่วนเรื่องค่าตัวราว 60 ล้านยูโรยังอยู่ในเกณฑ์ที่ทีมเสือใต้พอจ่ายไหวแม้ว่าสโมสรจะประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกัน

จุดดึงดูดของ บาเยิร์น มิวนิค นอกจากการจ่ายค่าเหนื่อยงามแล้ว อาชราฟ ยังไม่จำเป็นต้องปรับตัวเนื่องจากมีความคุ้นเคยกับการค้าแข้งบนเวทีบุนเดสลีกาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาและยังมีโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งด้วย 

ส่วน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จับตามองสถานการณ์อยู่ไม่ห่างเช่นเดียวกันเนื่องจากทีมดังเมืองน้ำหอมกำลังจะเสียทั้ง โธมัส เมอนิเย่ร์ กับ เลย์แว็ง กูร์กซาว่า แบ็กขวากับแบ็กซ้ายที่กำลังจะสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ ดังนั้นการเซ็นสัญญากับ ฮาคิมี่ จึงน่าจะเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะลงเล่นฝั่งขวาหรือซ้ายก็ตาม

อีกสองค่ายอย่าง แมนฯยูไนเต็ด กับ อินเตอร์ มิลาน ต่างซุ่มดูอยู่ห่างๆและมีโอกาสเซ็นสัญญากับแบ็กโมร็อกกันน้อยกว่า 3 ทีมแรก 

สำหรับ ดอร์ทมุนด์ กำลังรอรับส้มเช่นเดียวกัน แม้ว่าทีมเสือเหลืองไม่สามารถเบ่งกล้ามสู้กับ บาเยิร์น มิวนิค, แมนฯซิตี้ หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในการเซ็นสัญญากับ ฮาคิมี่ ก็ตาม 

แต่ มิชาเอล ซอร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ ดอร์ทมุนด์ ยังมีความหวังเล็กๆว่าถ้าหาก เรอัล มาดริด กัดฟันไม่ขาย ฮาคิมี่ ทีมชุดขาวก็อาจจะปล่อยนักเตะย้ายมาเล่นกับทีมเสือเหลืองอีกครั้ง ซึ่งรับประกันว่าแบ็กวัย 21 ปีจะได้ลงเล่นตัวจริงแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม ฮาคิมี่ ไม่เห็นด้วยกับการย้ายทีมด้วยสัญญายืมตัวอีกครั้ง เขาไม่ต้องการพลาดโอกาสในการไขว่คว้าข้อเสนอที่มีตัวเลขค่าเหนื่อยยั่วยวนใจและเขายังต้องการวางรากฐานกับสโมสรของเขาในระยะยาว ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ เรอัล มาดริด หรือสโมสรใดก็ตาม