อาวุธใหม่ของบาร์ซ่า 'ฟรานซิสโก้ ตรินเกา'

ฟรานซิสโก้ ตรินเกา แนวรุกชาวโปรตุกีสวัย 20 ปี เป็น 1 ใน 3 แข้งดาวรุ่งที่ บาร์เซโลน่า ตกลงคว้าตัวมาร่วมทีมล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส'โควิด-19' ร่วมกับ เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ มิดฟิลด์วัย 17 ปีจาก ลาส ปัลมาส และ มาเธอุส แฟร์นานเดส ซีเกยร่า มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนวัย 22 ปีจาก พัลไมรัส 

บาร์เซโลน่า จ่ายเงิน 31 ล้านยูโรดึง ตรินเกา มาจาก บราก้า ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมและนักเตะเซ็นสัญญาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 มีคอร์สฉีกสัญญาสูงถึง 500 ล้านยูโร โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ทว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะทำให้การย้ายสังกัดอย่างเป็นทางการล่าช้ากว่ากำหนด 

ตรินเกา เกิดที่ วีอาน่า ดู กาสเตโล่ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น วีอาเนนเซ่ เมื่อปี 2008 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ปอร์โต้ ในปีต่อมา จากนั้นเขาย้ายกลับทีมเก่าจนกระทั่งมาเข้าสังกัดทีมเยาวชนของ บราก้า ตั้งแต่ปี 2011

หนุ่มตรินเกาพัฒนาฝีเท้าต่อเนื่องจนไต่เต้าขึ้นมาเล่นทีมสำรองบราก้าลงประเดิมสังเวียนในช่วงเดือนเมษายนปี 2016 ฐานะสำรอง ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังสำคัญในฤดูกาลต่อมาและได้รับรางวัลตอบแทนด้วยการเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกที่มีอายุ 5 ปี 

บราก้า ส่ง ตรินเกา ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกวันที่ 28 ธันวาคมปี 2018 ในเกมชนะ วิตอเรีย 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่มของศึก โปรตุกีส ลีก คัพ โดยลงเล่นแทน ฟรานแซร์โจ้ โรดรีเกส บาร์โบซ่า ช่วงนาที 62 อีก 5 วันต่อมาเทรนเนอร์ อาเบล แฟร์เรยร่า เจิมหนุ่มตรินเกาบนเวที ปรีเมร่า ลีกา หลังส่งลงเล่นแทน ดีเอโก้ ซูซ่า ช่วง 4 นาทีสุดท้ายในเกมพ่ายคาบ้านต่อ มาริติโม่ 

แนวรุกวัย 20 ปีมีบทบาทมากขึ้นกับ บราก้า ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำ 8 ประตูและ 6 แอสซิสต์ ก่อนนำต้นสังกัดแซงหน้า สปอร์ติ้ง ลิสบอน เข้าป้ายอันดับ 3 ของ ปรีเมร่า ลีกา ซึ่งเป็นผลงานดีสุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2011-2012 

ตรินเกา ถูกทีมแมวมองของ บาร์เซโลน่า ติดตามเก็บข้อมูลมาตลอดทั้งการเล่นกับทีมเยาวชนของ บราก้า รวมถึงกับทีมชาติโปรตุเกสชุดยู-19 ปีที่นักเตะทำผลงานโดดเด่นยิง 10 ประตูจากการลงเล่น 18 เกม จนกระทั่งทีมอาซูลกราน่ายอมจ่ายเงิน 31 ล้านยูโรเพื่อดึงนักเตะเข้าสังกัดตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา  

'ผมจะผลักดันตัวเองเสมอ, ชมเกมเพื่อดูว่าผมทำอะไรดี หรืออะไรที่ผมทำผิด ผมคิดว่าเป็นข้อมูลอ้างอิงของผมเอง'

'ผมคิดว่าผมสามารถนำคุณภาพมาสู่ทีมได้ ผมเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมาก ผมมักจะมองว่าการทำประตูและแอสซิสต์และช่วยเหลือทีม ผมชอบเล่นทางด้านขวา แต่ผมจะทำสิ่งที่โค้ชบอกให้ผมทำ ผมจะช่วยทีมในอนาคตไม่ว่ามันจะเป็นการเล่นทางขวาหรือทางซ้ายก็ตาม'

'เป้าหมายของผมคือการลงเล่นเกมมากที่สุด ช่วยเหลือทีม, พิชิตทุกอย่างและคว้าแชมป์ทุกรายการ' แนวรุกวัย 20 ปีกล่าวหลังการทำข้อตกลงย้ายมาค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่า 

ขณะเดียวกัน เอลีโอ ซูซ่า โค้ชทีมชาติโปรตุเกสชุดยู-19 ปี มองว่า บาร์เซโลน่า เป็นสโมสรเหมาะสมที่สุดสำหรับ ตรินเกา ที่นักเตะจะรู้สึกสนุกในการเล่นฟุตบอลร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ของทัพอาซูลกราน่า

'ตรินเกา คือ ตรินเกา เขามีเงื่อนไขในการปรับตัวเข้ากับบาร์ซ่าฟุตบอล บาร์ซ๋า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเขาในการพัฒนาความสามารถของเขา และกับบรรดาแข้งดาวดังที่จะอยู่เคียงข้างเขา พวกเขาจะช่วยให้เขาเติบโต'

'บาร์ซ่า มีความคิดที่พิเศษมากและมีผู้เล่นคุณภาพสูงอย่าง เมสซี่ ผู้เล่นแบบนี้เหมาะสำหรับนักเตะหนุ่ม พวกเขาจะสนุกกันมากในการเล่นกับคนอื่นๆ'

ตรินเกา ลงเล่นเกมส่งท้ายกับ บราก้า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่่ผ่านมา แข้งวัย 20 ปีทำหนึ่งแอสซิสต์ให้ ฟรานแซร์โจ้ ยิงประตูชัยให้ต้นสังกัดล้มแชมป์ ปอร์โต้ 2-1 แซงหน้า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ฐานะอันดับ 3 ของลีก ซึ่งเป็นผลงานดีสุดในรอบ 9 ปีของสโมสร 

บราก้า เคยทำผลงานดีสุดในประวัติศาสตร์จากการรองแชมป์ในซีซั่น 2009-2010 ก่อนคว้าอันดับ 3 ในซีซั่น 2011-2012 และทำผลงานดีสุดอีกครั้งในซีซั่นที่ผ่านมา 

ตรินเกา กล่าวคำอำลาวันสุดท้ายฐานะนักเตะ บราก้า ที่เขาอยู่ร่วมชายคามานานร่วม 9 ปีจนกลายเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งของเขา และทั้งสโมสรกับเมืองนี้จะยังคงอยู่ในความทรงจำของเขาตลอดไป 

'บางทีในช่วงวันหยุดหรือตอนที่ผมไป บาร์เซโลน่า ผมจะรู้ว่าสิ่งต่างๆกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป ผมจะเสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อยสำหรับผม แต่ฟุตบอลก็แบบนั้น'

'ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ผมคิดถึงบ้าน ผมคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมผ่านมาในสโมสรแห่งนี้ ทุกสนามที่ผมลงเล่นในช่วงเวลาที่ไม่มีแม้แต่ สปอร์ตส์ ซิตี้'

'ผมเกือบจะร้องไห้ นี่คือบ้านของผมในช่วงวัยรุ่นและผมจะคิดถึงมัน'

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของ ตรินเกา แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขที่ได้มีส่วนร่วมกับการนำ บราก้า จบฤดูกาลด้วยการคว้าอันดับ 3 เป็นรองเฉพาะ ปอร์โต้ กับ เบนฟิก้า เท่านั้น 

'ผมรู้ดีว่าการลาครั้งนี้เป็นเรื่องยาก หลังจากผ่านไปหลายเกมที่เราไม่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ มันจบลงด้วยดีสำหรับเรา'

'เราทำงานของเรา การสร้างประวัติศาสตร์ในฤดูกาลที่แล้วของผมที่นี่ หลังจาก 9 ปีเป็นเรื่องที่น่ายินดี และผมมีความสุขมาก'

ในซีซั่นสุดท้ายกับ บราก้า เขาฉลองด้วยการร่วมสร้างประวัติศาสตร์กับสโมสร 'บางทีผมไม่ได้คาดหวังว่าจะมีฤดูกาลที่ดีแบบนี้ เพราะผมมาจากซีซั่นที่ไม่มีเวลาลงเล่นอย่างที่ต้องการ ผมคิดว่าผมสามารถแสดงให้เห็นฟุตบอลของผมและสนุกกับมันมากมาย มันเป็นปีที่ดีมาก'

'ขอบคุณสำหรับความรักทั้งหมดในสนามแห่งนี้และในเมืองนี้ พวกเขาสนับสนุนผมเสมอ แม้ว่าผมจะลงเล่นน้อยก็ตาม ผมมักจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีตามท้องถนน บราก้า จะเป็นบ้านของผมเสมอ'

อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่ บาร์เซโลน่า ประสบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะทำให้มีสื่อบางสำนักอ้างว่าทีมอาซูลกราน่าเตรียมปล่อย ตรินเกา ออกจากถิ่น 'คัมป์ นู' เพื่อหาเงินชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ 

กูรูตลาดนักเตะอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ อ้างว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังของอังกฤษสนใจดึง ตรินเกา ไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้โดยยื่นข้อเสนอถึง บาร์เซโลน่า เพื่อยืมตัวแข้งวัย 20 ปีไปค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาลหน้าพ่วงอ็อปชั่นเซ็นสัญญาถาวรมูลค่า 50 ล้านยูโร นั่นทำให้ทีมยักษ์กาตาลุนย่าได้กำไรราว 20 ล้านยูโร 

แต่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าออกโรงสยบข่าวลือดังกล่าวด้วยการย้ำว่า ตรินเกา ไม่มีไว้ขาย แข้งดาวรุ่งวัย 20 ปีจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างทีมเพื่ออนาคตของทัพอาซูลกราน่า

แน่นอนว่าแฟนบาร์ซ่าคงจะสงสัยว่า ฟรานซิสโก้ ตรินเกา เหมาะสมกับการเล่นตำแหน่งใดระหว่างกองหน้ากับกองกลาง หลังมีข่าวว่าทีมอาซูลกราน่าวางบทบาทแข้งวัย 20 ปีในฐานะมิดฟิลด์

ตามที่ ตรินเกา กล่าวไว้ข้างต้นว่าเขามีโอกาสลงเล่นในซีซั่นที่ผ่านมาน้อยกว่าที่คาดหวัง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาของ บราก้า ที่เปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ถึง 3 คนจาก ริคาร์โด้ ซา ปินโต้, รูเบน อาโมริม มาจนถึง กุสโตดีโอ กาสโตร ซึ่งคุมทีมลงเล่นช่วง 6 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

ทั้ง ซา ปินโต้ กับ อาโมริม ต่างเลือกใช้ระบบ 3-4-3 โดยเลือกส่ง ตรินเกา ลงเล่นเป็นตัวรุกฝั่งขวา แตกต่างจากยุคของ กุสโตดีโอ กาสโตร ที่ปรับมาใช้ระบบ 4-4-2 โดยมี ตรินเกา ลงเล่นเป็นปีกขวาที่มีอิสระในการเลี้ยงบอลซึ่งเป็นจุดแข็งของนักเตะโจมตีแนวป้องกันคู่แข่ง อีกทั้ง ตรินเกา ยังเป็นผู้เล่นที่มีสปีดจัดจ้านสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเขาในการเล่นเกมสวนกลับเร็วด้วย 

ส่วน บาร์เซโลน่า จะเล่นระบบ 4-3-3 เป็นหลัก ดังนั้นตำแหน่งที่เหมาะสมของ ตรินเกา จึงน่าจะเป็นตัวรุกฝั่งขวา เพราะหากปรับมาเล่นมิดฟิลด์ในระบบของบาร์ซ่าจะส่งผลกระทบต่อเกมป้องกันที่ยังเป็นจุดอ่อนของนักเตะ 

ทว่าตำแหน่งแนวรุกฝั่งขวาเป็นพื้นที่ประจำการของ ลิโอเนล เมสซี่ ดังนั้นเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า จึงต้องปรับให้นักเตะมาเล่นฝั่งซ้าย ทว่ายังมีคู่แข่งแย่งตำแหน่งอย่าง อ็องตวน กรีซมันน์ และ อันซู ฟาตี อีกหนึ่งเด็กปั้นของสโมสร 

นั่นคือการบ้านของเทรนเนอร์บาร์ซ่าว่าจะเลือกใช้งานหนุ่มตรินเกาอย่างไรและขึ้นอยู่กับแข้งวัย 20 ปีว่าจะปรับตัวเข้ากับทีมอาซูลกราน่าได้ดีเพียงใดด้วยเช่นกัน