เกิดมาเพื่อยิงมาดริด...
ลิโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์บาร์เซโลน่าสะสมโทรฟี่เข้าคอลเล็กชั่นส่วนตัวอีก 2 รางวัลทั้ง 'เอล ปีชีชี่'หรือ รางวัลดาวซัลโวลีกา กับ 'อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่'หรือ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกาฤดูกาลที่ผ่านมา
เมสซี่ กระทุ้ง 37 ประตูจากการลงเล่นลีกาซีซั่น 34 นัด มากกว่าเพื่อนร่วมค่าย หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งเป็นดาวซัลโวลีกเมืองกระทิงฤดูกาลก่อนหน้านั้น 2 ประตู
กองหน้าวัย 30 กะรัตยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกาหรือ โทรฟี่'อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่'อีกหนึ่งรางวัลด้วย
นั่นคือการสอยรางวัล'เอล ปีชีชี่'ครั้งที่ 4 ของ เมสซี่ หลังประเดิมรางวัลนี้ในฤดูกาล 2009-10 จากผลงาน 34 ประตูจาก 35 นัด ก่อนโชว์ฟอร์มกระฉูดกด 50 ประตูจากการลงเล่น 37 เกมในซีซั่น 2011-12 ตามด้วยการกระทุ้ง 45 ประตูจาก 32 เกมฤดูกาลถัดมา
เมสซี่ เว้นวรรครางวัลดังกล่าว 3 ปีติดต่อกันหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับช่วงต่อ 2 ปี คั่นด้วย หลุยส์ ซัวเรซ ช่วงฤดูกาล 2015-16 ก่อนกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์จะทวงรางวัลนี้คืนจากผลงานซีซั่นที่ผ่านมา
'มันเป็นรางวัลพิเศษมาก มันยอดเยี่ยมมากที่ได้พบ อัลเฟรโด้ (ดิ สเตฟาโน่)'กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กล่าวในงานรับรางวัลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เมสซี่ กำลังจะนำทัพอาซูลกราน่าบุก'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เพื่อทำศึก'เอล กลาซิโก้'ในวันเสาร์นี้ ซึ่งกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์คาดหวังว่าจะนำต้นสังกัดบุกมาสยบทีมชุดขาวถึงถิ่นเก็บชัยชนะมอบเป็นของขวัญเทศกาลนาบีดาดหรือคริสต์มาสแก่สาวกบาร์เซโลนิสต้า
'มันคงจะเป็นที่จะปิดฉากปีด้วยชัยชนะและฉลองเทศกาลนาบีดาดในเวลาเดียวกัน' ก่อนเมสซี่จะขยายความเพิ่มเติมว่า'การคว้าชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา เรอัล มาดริด, สนามของพวกเขา นี่เป็นเกมพิเศษ เส้นทางยังเหลืออีกยาวไกล แต่ถ้าเราสามารถเก็บ 3 แต้มได้มันจะสุดยอดมากและจะทำให้เราได้เปรียบมากยิ่งขึ้น'
ลิโอเนล เมสซี่ ทำสถิติกระทุ้ง 24 ประตูจากการลงเล่นแมตช์'เอล กลาซิโก้'34 เกมมากกว่า อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อดีตกองหน้าดาวดัง เรอัล มาดริด ซึ่้งเป็นเจ้าของสถิติเดิมจากการยิง 18 ประตู ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงในแมตช์'เอล กลาซิโก้'เพียง 17 ประตู
24 ประตูของ เมสซี่ มาจากการยิงบนเวทีลีกา 16 ประตู, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 6 ประตู และ 2 ประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก
ขณะที่ 18 ประตูของ ดิ สเตฟาโน่ มาจากการกระทุ้งบนเวทีลีกา 14 ประตู, 2 ประตูบนเวทีโกปา เดล เรย์ และ 2 ประตูในศึกยูโรเปี้ยน คัพ
ส่วน โรนัลโด้ กระทุ้งบาร์ซ่าบนเวทีลีกา 8 ประตู, 5 ประตูบนเวทีโกปา เดล เรย์ และ 4 ประตูในศึกสแปนิช ซูเปอร์ คัพ
ทำเนียบดาวซัลโว'เอล กลาซิโก้'
1.ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) : 24 ประตู
2.อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (เรอัล มาดริด) : 18 ประตู
3.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) : 17 ประตู
4.ราอูล กอนซาเลซ (เรอัล มาดริด) : 15 ประตู
5.เฟเรนซ์ ปุสกาส (เรอัล มาดริด) : 14 ประตู
6.เซซ่าร์ โรดริเกซ (บาร์เซโลน่า) : 14 ประตู
7.ฟรานซิสโก้ (ปาโก้) เคนโต้ (เรอัล มาดริด : 14 ประตู
8.การ์ลอส ซานตียาน่า (เรอัล มาดริด) : 12 ประตู
9.โฆเซ่ ซามีเตียร์ บีลาลต้า (บาร์เซโลน่า) : 10 ประตู
10.อูโก้ ซานเชซ (เรอัล มาดริด) : 10 ประตู
11.ฆวน โกเมซ กอนซาเลซ ฆวานีโต้ (เรอัล มาดริด) : 10 ประตู
12.เอสตานิสเลา บาโซร่า (บาร์เซโลน่า) : 9 ประตู
13.คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด) : 9 ประตู
14.ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (เรอัล มาดริด) : 8 ประตู
15.ไฆเม่ ลาซกาโน่ (เรอัล มาดริด) : 8 ประตู
16.อีวาน ซาโมราโน่ (เรอัล มาดริด) : 8 ประตู
สาวกมาดริดิสต้าคงจำภาพปีก่อนได้ดีจากการถอดเสื้อหมายเลข 10 ประกาศศักดาบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'หลัง เมสซี่ กระทุ้งประตูชัยในช่วงท้ายเกมให้ทีมเยือนจากแคว้นกาตาลุนย่าบุกมาสยบทีมชุดขาวถึงถิ่นฤดูกาลที่ผ่านมา
เมสซี่ สอยมาดริด 16 ประตูบนเวทีลีกาและเกิดขึ้นจากการเล่นบนสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ถึง 14 ประตูจากการลงเล่น 18 นัด มันเป็นผลงานอันน่าทึ่งและสร้างความหวั่นใจให้สาวกมาดริดิสต้าไม่น้อย
14 ประตูจาก 18 เกมยังไม่พอ ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังทำสถิติแอสซิสต์อีก 8 ครั้งด้วยจึงอาจกล่าวได้ว่า เมสซี่ เกิดมาเพื่อทำลายล้างมาดริดโดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตามทัพอาซูลกราน่าไม่ได้มีแต่เฉพาะ เมสซี่ ที่พร้อมเล่นงานคู่แข่งทุกโอกาสเท่านั้น ทีมเยือนจากแคว้นกาตาลุนย่ายังมีอาวุธหนักอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งพร้อมเป็นตัวแสบสำหรับสาวกมาดริดิสต้าเช่นเดียวกัน
หลุยส์ ซัวเรซ มีดีกรีเป็นถึงเจ้าของรางวัล'เอล ปีชีชี่'หรือ ดาวซัลโวลีกาฤดูกาล 2015-16 หลังกระทุ้ง 40 ประตูจากการลงเล่น 35 นัด หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยยังกดไปแล้ว 94 ประตูจากการลงเล่นลีกา 110 เกมนับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องแบบเลือดหมู-น้ำเงินในช่วงซัมเมอร์ปี 2014
ซัวเรซ ออกอาการปืนฝืดในช่วงต้นฤดูกาลเนื่องจากมีอาการเจ็บเข่าขวามาตั้งแต่เกม สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ก่อนที่อดีตหัวหอกลิเวอร์พูลจะกลับมาจูนเครื่องติดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและปล่อยของใส่คู่แข่งตลอด 3 เกมที่ผ่านมาจนขยับขึ้นมาเป็น 9 ประตูตามหลัง เมสซี่ เพียงคนเดียวเท่านั้น
กองหน้าวัย 30 ปีกล่าวถึงแมตช์'เอล กลาซิโก้'วันเสาร์นี้ว่า 'เราอยู่ในฟอร์มที่ดี ดังนั้นผมจึงหวังว่าเราจะสามารถคว้าชัยชนะได้ เรากำลังมั่นใจและเล่นได้ดีทั้งรุกและรับ'
'เราทุกคนต้องการชัยชนะและถ้าเราทำได้ มันจะเป็นย่างก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราและจะทำให้เราทิ้งห่าง เรอัล มาดริด ไปไกลมากขึ้นด้วย'
'อย่างไรก็ตาม เรายังมีคู่แข่งอีกหลายทีม แต่มันจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาไม่น้อยเช่นกัน'
บาร์เซโลน่า ยังมีอีกหนึ่งตัวละครลับอย่าง เปาลินโญ่ ซึ่งทำผลงานดีเกินความคาดหมายจากการทำ 6 ประตูบนเวทีลีกาซีซั่นนี้นับตั้งแต่ย้ายมาจาก กว่างโจ เอเวอร์กรานด์ ในช่วงซัมเมอร์
เปาลินโญ่ ทำ 6 ประตูบนเวทีลีกาน้อยกว่าแนวรุก'BBC' คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล กับ คาริม เบนเซม่า ยิงรวมกันเพียง 2 ประตูเท่านั้น
มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 3 ของทีมอาซูลกราน่าเป็นรองเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ
อดีตมิดฟิลด์สเปอร์สไม่ได้มีดีเฉพาะการเล่นเกมรับ แต่ยังสามารถเติมขึ้นมาทำประตูจากแถวสองได้อีกอีกด้วย
สื่อแคว้นกาตาลุนย่าหลายสำนักมองทิศทางเดียวกันว่า เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ทีมอาซูลกราน่าจะเลือก เปาลินโญ่ ออกสตาร์ตก่อน อเล็กซ์ บีดาล หรือ เนลซอน เซเมโด้ พร้อมโยก เซร์จี้ โรเบร์โต้ มาเล่นแบ็กขวา ส่วน โธมัส แฟร์มาเล่น จะได้ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟก่อน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ที่เรื้อสังเวียนไปนาน
ส่วน เรอัล มาดริด ของซีดานอาจออกสตาร์ตโดยไม่มี แกเร็ธ เบล อยู่ในทีมตัวจริง แม้ว่า คาริม เบนเซม่า จะสนิมจับแข้งก็ตาม แต่ลูกรักของซีดานยังได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องขึ้นอยู่กับ'เบนซ์'ว่าจะตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านายช้าหรือเร็วเท่านั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT