วิกฤตซ้อนวิกฤตของบาร์ซ่า

การ์ลอส ตูสเก็ตส์ ประธานสโมสรรักษาการของ บาร์เซโลน่า มีเรื่องปวดหัวกับวิกฤตทางการเงินมากพอแล้ว แต่ยังมีปัญหาที่ต้องแก้เพิ่มเติมจากการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวรับหลายคนจนต้องเจียดเงินส่วนหนึ่งมาเพื่อซื้อกองหลังคนใหม่ในช่วงเดือนมกราคมนี้ 

ฝ่ายบริหารของ บาร์เซโลน่า พยายามหาทางแก้วิกฤตทางการเงินของสโมสร พร้อมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมของ โรนัลด์ คูมัน ในเวลาเดียวกัน 

ทีมอาซูลกราน่าเคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าสโมสรสูญเสียรายได้กว่า 300 ล้านยูโร นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ'โควิด-19' เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีรายรับจากค่าตั๋วเข้าชมเกมใน'คัมป์ นู' รวมถึงค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และการขายสินค้าที่ระลึกของสโมสร 

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมยักษ์กาตาลุนย่าตัดสินใจปล่อย หลุยส์ ซัวเรซ, อาร์ตูโร่ วีดาล, อีวาน ราคิติช กับ ราฟาเอล อัลกันตาร่า ราฟินญ่า ออกจาก'คัมป์ นู'ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อลดค่าเหนื่อยของสโมสร

แต่มันเป็นเพียงการบรรเทาอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจาก บาร์เซโลน่า ยังต้องแบกรับภาระจ่ายค่าจ้างนักเตะจำนวนมหาศาลจากการเป็นทีมที่จ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นมากสุดในโลกลูกหนัง

ฝ่ายบริหารบาร์ซ่าพยายามเจรจาต่อรองกับกลุ่มนักเตะเพื่อให้ยอมลดค่าจ้างลง 30 เปอร์เซ็นต์ ตามแนวทางเบื้องต้นคือการกระจายการจ่ายค่าเหนื่อยตามข้อตกลงกับผู้เล่นแต่ละคนโดยตั้งเป้าเซฟเงิน 190 ล้านยูโรเพื่อลดความเสี่ยงต่อการล้มละลายของสโมสร

ตามรายงานล่าสุดระบุว่าทั้งสโมสรกับนักเตะบรรลุข้อตกลงในหลักการตามนนโยบายลดค่าจ้างในฤดูกาลนี้แล้ว หลังตระหนักดีถึงความสนใจและความห่วงใยที่มีต่อ บาร์เซโลน่า ก่อนทำแถลงการณ์ร่วมกันอย่างเป็นทางการ

ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในหลักการที่อนุญาตให้มีการปรับลดเงินเดือนสำหรับซีซั่นปัจจุบันทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 122 ล้านยูโร ซึ่งจะถูกจ่ายคืนตามสัญญาตลอด 3 ปีข้างหน้า โดยตั้งงบประมาณไว้ราว 50 ล้านยูโร 

ตามหลักการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการให้สัตยาบันร่วมกันระหว่างสโมสรกับกลุ่มนักเตะและสตาฟฟ์เทรนเนอร์ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปรับลดค่าจ้างในฤดูกาลปัจจุบัน เนื่องจากทีมอาซูลกราน่ามีรายรับจากค่าลิขสิทธิ์โทรทัศน์กับสปอนเซอร์เท่านั้น แต่ยังไม่พอจุนเจือค่าใช้จ่ายของสโมสร

จากปัญหาดังกล่าวทำให้ทีมอาซูลกราน่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของ คูมัน ในการดึงนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาทำได้เพียงการเซ็นสัญญากับ แซร์จินโญ่ เดสต์ แบ็กดาวรุ่งชาวมะกันจาก อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม แต่ก็ต้องแลกด้วยการปล่อย เนลซอน เซเมโด้ แบ็กชาวโปรตุกีสย้ายไปค้าแข้งกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน

ทว่า บาร์เซโลน่า ไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการเซ็นสัญญากับ เมมฟิส เดอปาย กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส ของ ลียง หรือ เอริก การ์เซีย กองหลังชาวสเปนของ แมนฯซิตี้ 

อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมของเทรนเนอร์ชาวดัตช์ในปัจจุบันทำให้สโมสรอาจต้องมองหาทุนสำหรับการเซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ในช่วงเดือนมกราคมนี้โดยเฉพาะกับแนวป้องกันที่กำลังเป็นอีกหนึ่งวิกฤติของบาร์ซ่า

คูมัน มีตัวเลือกในการจัดทัพลงสนามจำกัดโดยเฉพาะตำแหน่งเซนเตอร์ หลัง ซามูแอล อุมตีตี้ มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายตลอดช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา หลังเซนเตอร์วัย 27 ปีมีปัญหาที่เข่าซ้ายมาอย่างต่อเนื่องและนักเตะเลี่ยงการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บดังกล่าว เขาเลือกใช้แนวทางบำบัดตามธรรมชาติ ทว่ากลับต้องใช้เวลารักษายาวนานเกินคาด

จากนั้นทีมอาซูลกราน่าเผชิญวิกฤตแนวรับทันทีที่ เคราร์ด ปีเก้ บาดเจ็บเข่าขวาจากเกมพ่าย แอตเลติโก มาดริด 0-1 จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ากองหลังวัย 33 ปีอาจต้องพักแข้งราว 4-5 เดือน ขณะเดียวกันนักเตะยังเลี่ยงที่จะใช้การผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บเหมือน อุมตีตี้ ด้วยเช่นกัน มันจึงมีความเสี่ยงที่ ปีเก้ อาจจะพลาดลงเล่นตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ 

ขณะที่ โรนัลด์ อาเราโฮ เซนเตอร์ดาวรุ่งทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอะไหล่แนวรับของ บาร์เซโลน่า โชคร้ายบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจากเกมบุกชนะ ยูเวนตุส 2-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา การบาดเจ็บดังกล่าวทำให้กองหลังวัย 21 ปีต้องพักแข้งราวหนึ่งเดือน 

ล่าสุด เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ เซนเตอร์ทีมชาติฝรั่งเศสบาดเจ็บข้อเท้า ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมชนะ โอซาซูน่า 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ คูมัน จะยืนยันว่าอาการบาดเจ็บของกองหลังวัย 25 ปีไม่รุนแรง แต่เทรนเนอร์ชาวดัตช์เลือกพักใช้งาน ล็องเล่ต์ สำหรับเกมเยือน เฟเรนซ์วารอส บนเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันพุธนี้ 

นั่นทำให้ คูมัน จำต้องปรับแนวรับด้วยการถอย เฟรงกี้ เดอ ย็อง มิดฟิลด์ชาวดัตช์มาเล่นเซนเตอร์จำเป็นคู่กับ ออสการ์ มินเกซ่า กองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปีในเกมเยือน เฟเรนซ์วารอส 

อย่างไรก็ตามถ้าหากพวกเขาต้องการลุ้นความสำเร็จระยะยาว บาร์เซโลน่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเสริมแนวป้องกันในช่วงเดือนมกราคมนี้เพื่อเพิ่มตัวเลือกใช้งานให้เทรนเนอร์ชาวดัตช์ 

'มุนโด้เดปอร์ติโบ' สื่อแคว้นกาตาลุนย่ารายงานว่า บาร์เซโลน่า กำลังดิ้นรนเพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นกับแนวรับของพวกเขา โดยเฉพาะการกระโจนลงตลาดนักเตะในช่วงเดือนมกราคมนี้ ส่วนเป้าหมายยังเป็นคนเดิมคือ เอริก การ์เซีย กองหลังชาวสเปนของ แมนฯซิตี้ 

เอริก การ์เซีย เป็นชาวเมืองบาร์เซโลน่าโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2001 เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนบาร์ซ่าตั้งแต่ปี 2008 ก่อนตีจากศูนย์ฝึก 'ลา มาเซีย' มาอยู่กับ แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2017 

กองหลังวัย 19 ปี สามารถเล่นได้ทั้ง เซนเตอร์ กับ แบ็กขวา และยังเคยเรียนรู้ระบบของ บาร์เซโลน่า มาตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชน ดังนั้น เอริก การ์เซีย จึงเป็นการเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหาในปัจจุบันและยังเป็นการเสริมทีมเพื่ออนาคตในเวลาเดียวกัน 

เอริก การ์เซีย เหลือสัญญากับ แมนฯซิตี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021 เท่านั้น แม้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเคยยืนยันว่านักเตะจะอยู่กับทีมเรือใบจนกระทั่งสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ก็ตาม 

แต่มันขึ้นอยู่กับข้อเสนอและวาทะศิลป์ในการเจรจาของทีมอาซูลกราน่าด้วยเช่นกันว่าจะโน้มน้าวให้ซิตี้ยอมปล่อยนักเตะย้ายมา'คัมป์ นู'ช่วงเดือนมกราคมนี้ได้หรือไม่ 

อีกหนึ่งทางออกฉุกเฉินของ บาร์เซโลน่า นั่นคือการดึง ฌอง แกลร์ก โตดีโบ กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสกลับมาจาก เบนฟิก้า หากมีความจำเป็น

บาร์เซโลน่า ปล่อย โตดีโบ ย้ายมาเล่นกับ เบนฟิก้า ในฤดูกาลนี้ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปีพ่วงอ็อปชั่นเซ็นถาวรมูลค่า 20 ล้านยูโร แต่ทีมอาซูลกราน่าสามารถเจรจาเพื่อดึงกองหลังวัย 20 ปีหวนคืน'คัมป์ นู'ในช่วงเดือนมกราคมนี้ 

โตดีโบ ยังต้องดิ้นรนกับการบาดเจ็บเช่นเดียวกัน นั่นทำให้เขายังไม่สามารถลงเล่นกับทีมเหยี่ยวลิสบอนแม้แต่เกมเดียวในซีซั่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลทำให้ เบนฟิก้า อาจเลือกยกเลิกสัญญาเพื่อส่งนักเตะกลับแคว้นกาตาลุนย่า 

ตามรายงานจาก 'โอ โชโก้' สื่อโปรตุกีสระบวุ่า จอร์จ เชซุส เทรนเนอร์ของ เบนฟิก้า วางแผนเสริมแนวรับด้วยการดึง ลูกัส เวรีสซีโม่ เซนเตอร์ชาวบราซิเลียนของ ซานโตส มาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมนี้ ดังนั้นทัพเหยี่ยวลิสบอนจึงอาจเขี่ย โตดีโบ พ้นทีมเพื่อเปิดทางให้กองหลังวัย 25 ปีเช่นกัน

ส่วนทีมอาซูลกราน่าจะสมหวังได้เซ็นสัญญากับ เอริก การ์เซีย หรือไม่ เราคงจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวของทีมยักษ์กาตาลุนย่าในตลาดนักเตะหน้าหนาวช่วงเดือนมกราคมนี้