แชมป์'อุกอาจ'ของบิลเบา
แอธเลติก บิลเบา เถลิงบัลลังก์แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ครั้งสองของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1984 หลังใช้เวลาเพียง 3 วันกำราบทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า
นั่นคือผลงานชิ้นโบแดงของ มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล เทรนเนอร์วัย 55 ปีที่เข้ามารับตำแหน่งไม่ถึง 2 สัปดาห์
ขณะที่ ราฟาเอล อัลกอร์ต้า ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของ แอธเลติก บิลเบา อธิบายถึงความสำเร็จของสโมสรในการโค่นสองยักษ์สเปนภายในเวลา 72 ชั่วโมงเห็นภาพชัดเจนว่าเป็นการประสบความสำเร็จแบบ'อุกอาจ'ของทีมดังแคว้นบาสก์
แอธเลติก บิลเบา คว้าแชมป์รายการนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1984 ก่อนจะประสบความสำเร็จอีกครั้งในยุคของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ หลังนำทีมดังแคว้นบาสก์ขย่ม บาร์เซโลน่า ยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-1
ทว่าความสำเร็จครั้งล่าสุดได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อยหลังการตบ เรอัล มาดริด 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนล้ม บาร์เซโลน่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 หลังเสมอในช่วงเวลาปกติ 2-2
แอธเลติก บิลเบา เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าตลอดทั้งเกมและคว้าชัยชนะอย่างงดงามจากการทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของ อินญากี้ วิลเลียมส์ หลัง อาเซียร์ บียาลีเบร้ ทำประตูตีเสมอในช่วงนาทีสุดท้ายของช่วงเวลาปกติ
'สิ่งสำคัญคือเราเป็นอย่างไร สิ่งที่เราเป็นและเราเล่นกับใคร การเอาชนะทั้ง มาดริด และ บาร์ซ่า ในเวลาเพียง 3 วันนั้นถือเป็นเรื่องอุกอาจ'
แอธเลติก บิลเบา แต่งตั้ง มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล เป็นเทรนเนอร์คนใหม่เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา หลังการปลด กาอีซก้า การีตาโน่ ออกจากตำแหน่ง โดยทำข้อตกลงเป็นเวลา 18 เดือนกับพ่วงอ็อปชั่นขยายสัญญาอีก 1 ปีไปจนสิ้นสุดฤดูกาล 2022-2023
เทรนเนอร์ชาวอัสตูเรียโน่ประเดิมการคุมทีมด้วยการปราชัยบนเวทีลีกาต่อ บาร์เซโลน่า 2-3 ก่อนเทรนเนอร์วัย 55 ปีจะเอาคืนแบบเจ็บแสบด้วยการล้มทีมอาซูลกราน่าด้วยสกอร์เดียวกันพร้อมคว้าโทรฟี่แชมป์ ซูเปร์ โกปา เด เอสปันญ่า เป็นรางวัลตอบแทน
มาร์เซลีโน่ มีประสบการณ์คุมทีมโชกโชกโดยเริ่มงานตั้งแต่ปี 1997 กับ เลอัลตาด ต่อด้วย สปอร์ติ้ง คีฆอน เบ, สปอร์ติ้ง คีฆอน, เรเกรอาติโบ อูเอลบา, ราซิ่ง ซานตานเดร์, เรอัล ซาราโกซ่า, ราซิ่ง ซานตานเดร์, เซบีย่า, บียาร์เรอัล, บาเลนเซีย จนกระทั่งมาลงเอยกับ แอธเลติก บิลเบา สโมสรที่ 10 ในอาชีพ
ตลอดการทำงานฐานะเทรนเนอร์ของ มาร์เซลีโน่ คุมทีมลงเล่น 750 เกม ชนะ 349 เสมอ 195 แพ้ 206 ยิง 1,095 ประตู เสีย 797 ประตู ภาพรวมการทำงานของเทรนเนอร์วัย 55 ปีจัดอยู่ในขั้นดีหากพิจารณาจากสโมสรที่เคยทำงานด้วย
อย่างไรก็ตาม มาร์เซลีโน่ ประสบความสำเร็จด้วยการนำต้นสังกัดคว้าแชมป์เพียง 3 รายการเท่านั้น เริ่มจากแชมป์ เซกุนด้า กับ เรเกรอาติโบ อูเอลบา ซีซั่น 2005-2006, แชมป์ โกปา เดล เรย์ กับ บาเลนเซีย ในฤดูกาล 2018-2019 และ แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ปีล่าสุดกับ แอธเลติก บิลเบา
ความสำเร็จสองครั้งหลังสุดมาจากการนำต้นสังกัดสยบ บาร์เซโลน่า ทั้งสองครั้ง หลังเคยนำทีมค้างคาวอัดทีมอาซูลกราน่ายุค เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก่อนตอกย้ำความชอกช้ำให้สาวกบาร์เซโลนีสต้าอีกคำรบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
มันเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบคาดไม่ถึง แต่ มาร์เซลีโน่ ฉลาดพอที่จะยกเครดิตให้นักเตะจากความสำเร็จครั้งล่าสุด
'ผมอยู่ในบิลเบาเพียงช่วงสั้นๆ แต่ความจริงคือการทำงานนี้มีประสิทธิภาพ'
'เครดิตเป็นของนักเตะจากการทำงานของพวกเขาเมื่อปีก่อนที่นำมาที่นี่ และพวกเขาชนะสองเกมเพื่อเป็นแชมป์ในการเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ผมอยากจะจดจำนักเตะอย่าง อาริตซ์ อาดูรีซ, มิเกล ซาน โฆเซ่ และ เบนญาต เอเชบาร์เรีย, ผู้เล่นที่นี่เมื่อปีก่อน รวมถึงสตาฟฟ์เทรนเนอร์ด้วย'
'เรามาพร้อมความถ่อมตัวในโลกเพื่อทำงาน โดยใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เคยทำมาก่อน ก่อนพยายามเติมแนวคิดที่เราต้องการเพิ่ม'
'(นักเตะ) เป็นเหมือนฟองน้ำและมันน่าเหลือเชื่อมากที่พวกเขาต่อสู้และทำงาน (พวกเราในฐานะเทรนเนอร์) ภูมิใจมากและสนุกกับการทำงานร่วมกับพวกเขาเพราะพวกเขาทำให้มันง่ายสำหรับเรา' เทรนเนอร์วัย 55 ปีกล่าว
แอธเลติก บิลเบา มีศักยภาพทีมเป็นรองทั้ง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า แต่ทีมดังแคว้นบาสก์มีจุดแข็งเรื่องหัวจิตหัวใจ มีเทคนิคความสามารถดีพอตัว ผสมผสานกับการวางหมากเพิ่มเติมของ มาร์เซลีโน่ จึงมีส่วนช่วยทีมประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
อินญากี้ มาร์ตีเนซ เซนเตอร์ของ แอธเลติก บิลเบา กล่าวถึงความสำเร็จของต้นสังกัดว่า 'สิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดคือสามารถส่งมอบความสุขให้กับผู้คนของเราในการระบาดครั้งนี้'
'วันก่อนที่จะเล่นรอบรองชนะเลิศ เรามีความรู้สึกว่าเราจะต้องเอาชนะ มาดริด เป็นลำดับแรกและจากนั้นเป็น บาร์ซ่า'
'เราต้องวิ่งกันอย่างมาก การเอาชนะทั้ง มาดริด และ บาร์ซ่า ในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราสามารถบรรลุสิ่งที่ต้องการได้ ถ้าหากทีมเร่งเร้าสิ่งต่างๆก็สามารถทำได้'
'การคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เป็นเรื่องดี กับนักเตะดีที่สุดในสนาม การได้เห็นว่าเราสามารถยืนหยัดต่อสู้กับพวกเขาและเอาชนะพวกเขาได้เป็นสิ่งที่จะถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ ผลที่ออกมาเหมือน 2 เกมล่าสุดมันยากมากที่คู่แข่งจะไม่สร้างปัญหา'
เซนเตอร์วัย 29 ปี ยังกล่าวถึงนายใหม่ มาร์เซลีโน่ ว่า 'เขารู้จักเราเป็นอย่างดีและรู้จักลีกนี้ เขาปรับตัวได้ดีมาก เขาประหลาดใจกับทีมที่มีเพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นครอบครัว หวังว่าทุกอย่างจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เราจะไปให้ไกลกว่านี้เพราะใน ลา ลีกา เราต้องดีขึ้น'
มาร์เซลีโน่ มีคิวนำทีมลงเล่นรายการ โกปา เดล เรย์ รอบ 32 ทีมกับ อีบีซ่า วันพฤหัสฯนี้ ก่อนจะเปิดสังเวียน 'ซาน มาเมส' รับมือ เคตาเฟ่ ในวันจันทร์ที่ 25 มกราคม ตบท้ายโปรแกรมเดือนนี้ด้วยเกมเยือน 'คัมป์ นู' ให้ทีมอาซูลกราน่าแก้มืออีกครั้ง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT