ภาพจินตนาการของลาปอร์ต้า
ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นคู่แข่งกันทั้งในและนอกสนามเกือบช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำให้แฟนบอลได้ถกเถียงกันมาตลอดว่าใครเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่กว่ากัน เนื่องจากทั้งคู่ยังคงทำสถิติทำประตูแบบคาดไม่ถึงอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี
เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ไม่เคยเข้าแถวอยู่ในทีมเดียวกันมาก่อน ถึงจะมีข่าวที่สร้างความฮือฮาว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อ โจน ลาปอร์ต้า ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสรบาร์เซโลน่าก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเงินของทีมอาซูลกราน่า มันจึงเป็นเรื่องยากจะเกิดขึ้นหากพิจารณาจากตัวเลขค่าจ้างของนักเตะทั้งสองคน
ลาปอร์ต้า มีแผนทำให้โลกตะลึงด้วยความพยายามทำข้อตกลงกับ โรนัลโด้ ซึ่งเคยเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของ บาร์เซโลน่า ระหว่างค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงปี 2009-2018 เพื่อดึงซุปตาร์ชาวโปรตุกีสมาเล่นร่วมกับ เมสซี่ แม้ว่าแข้งชาวอาร์เจนไตน์กำลังจะสิ้นสุดสัญญากับทีมอาซูลกราน่าก็ตาม แต่คาดว่าจะมีการทำข้อตกลงใหม่กันในไม่ช้า
สองสุดยอดนักเตะอยู่ในทีมเดียวกันจะทำให้มองเห็นชัดเจนในการทดสอบความสัมพันธ์ของพวกเขา
เมสซี่ และ โรนัลโด้ ต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่พวกเขาต่อสู้กันในระดับสูง
นับจากนี้คือทุกอย่างที่ เมสซี่ พูดเกี่ยวกับคู่แข่งเบอร์หนึ่งของเขา ก่อนการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ที่มีโอกาสเป็นไปได้สำหรับกองหน้าวัย 36 ปีจาก ยูเวนตุส
ระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สเปน 'ลา เซ็กซ์ต้า' ความเคารพของ เมสซี่ ที่มีต่อ โรนัลโด้ นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนในขณะที่เขากล่าวถึงผลกระทบของซุปตาร์ชาวโปรตุกีสที่มีต่อเกมฟุตบอล
'มีบรรดานักกีฬาที่น่าชื่นชมมากมาย ราฟา นาดาล, (โรเจอร์) เฟดเดอเรอร์, เลอบรอน (เจมส์) ในทุกกีฬาจะมีคนที่โดดเด่นเสมอและน่าชื่นชมสำหรับการทำงานของเขา' เมสซี่ เกริ่นนำ
'คริสเตียโน่ โดดเด่นในวงการฟุตบอล มีหลายคนที่โดดเด่นและทำได้ดีที่สุดของพวกเขาเสมอ'
แฟนบอลต่างสนุกกับการดูทั้งคู่ต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวบนเวทีลีกาจนกระทั่งได้รับผลกระทบในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เมื่อ โรนัลโด้ ตัดสินใจอำลามาดริดย้ายไปค้าแข้งกับทีมเบียงโคเนรี่
การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้ประวัติศาสตร์การต่อสู้อันดุเดือดในระดับสโมสรของสองผู้ยิ่งใหญ่ของเกมลูกหนังสิ้นสุดลง ซึ่ง เมสซี่ รู้สึกเสียใจเช่นกันที่เห็นการต่อสู้ของพวกเขาจบลง
'มันเป็นเรื่องดีที่ได้เล่นกับ คริสเตียโน่ แม้ว่ามันจะยากก็ตาม' กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ กล่าว
'ผมสนุกกับการคว้าแชมป์เมื่อเขาอยู่ที่ มาดริด มันคงจะดีถ้าเขายังอยู่ที่นั่น'
'ผมเคารพ ยูเวนตุส มาก ผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก มีนักเตะที่ดีมาก และการมาของ คริสเตียโน่ ยิ่งมากขึ้นไปอีก'
'มันเป็นการต่อสู้ที่จะคงอยู่ตลอดไปเพราะมันผ่านมานานหลายปี และมันไม่ง่ายเลยที่จะรักษาระดับสูงสุดของคุณให้นานที่สุด'
'โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสองสโมสรที่เราอยู่ ซึ่งมีความต้องการสูงใน มาดริด และ บาร์ซ่า ในการเป็นทีมดีที่สุดในโลก'
'การแข่งขันแบบตัวต่อตัวเป็นเวลานานหลายปีจะถูกจดจำตลอดไป การแข่งขันกีฬาระหว่างพวกเรานั้นดีมากในระดับส่วนตัว'
'ผมคิดว่าแฟนบอลสนุกกับมันเช่นกัน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นแฟน มาดริด หรือ บาร์ซ่า ก็ตาม และคนที่ชอบฟุตบอลจะสนุกกับมันเช่นเดียวกัน'
หลังการจากไปของ โรนัลโด้ ทำให้ เรอัล มาดริด ไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งแบบเดียวกับที่พวกเขาเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ แม้ว่ากองหน้าวัย 36 ปีจะสามารถปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อมใหม่ของเขาบนเวที เซเรีย อา แต่ทัพ 'โลส บลังโกส' ไม่สามารถก้าวต่อไปในลักษณะเดียวกันได้
เมสซี่ ยังกล่าวถึงอิทธิพลของ โรนัลโด้ ที่มีต่อ เรอัล มาดริด ว่า 'มันเป็นเรื่องปกติที่เขาทำประตูต่อไป เขาเป็นกองหน้านักล่า เขาชอบทำประตู วันไหนที่เขาเล่นเขาจะทำประตู'
'เขามีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่างในฐานะกองหน้า และอย่างน้อยที่สุดเขาเปลี่ยนแปลงมัน'
'เรอัล มาดริด ที่ไม่มี โรนัลโด้ สูญเสียประตูไปจำนวนมาก แต่ชัดเจนว่ามันจะเกิดขึ้น'
'ไม่เพียงแค่ประตูเท่านั้น แต่ คริสเตียโน่ ยังนำสิ่งอื่นๆมาอีกมากมาย หากทีมเสียผู้เล่นที่ทำ 50 ประตูต่อฤดูกาล มันจะเห็นได้อย่างชัดเจน'
'เรอัล มาดริด มีนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ คริสเตียโน่ ทำ 50 ประตูต่อฤดูกาล'
'เมื่อ คริสเตียโน่ อยู่ที่ มาดริด เกมที่เผชิญหน้ากับพวกเขานั้นพิเศษเสมอ'
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การต่อสู้กันระหว่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับแมตช์ 'เอล กลาซิโก้' ค่อยๆกลายเป็นมิตรภาพระหว่างสองแข้งดาวดังมากขึ้น
ความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างทั้งคู่นั้นมีความชัดเจนมากขึ้นจากที่เห็นในระหว่างพิธีมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ ยูฟ่า ในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2019 ซึ่ง โรนัลโด้ เป็นแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่ของเขา ก่อนพวกเขาจะนัดไปทานดินเนอร์ด้วยกันหากมีโอกาส
เมสซี่ กล่าว โรนัลโด้ ในช่วงเวลานั้นว่า 'ใช่ ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น เราอาจจะไม่ใช่เพื่อนกันเพราะเราไม่เคยแชร์ห้องแต่งตัวกัน แต่ผมมักจะเห็นเขาในงานประกาศรางวัลและนั่นไม่มีปัญหา'
'ผมไม่รู้ว่าจะมีดินเนอร์หรือไม่ เพราะผมไม่รู้ว่าเส้นทางของเราจะข้ามไปด้วยเหตุผลที่ขัดเจนหรือไม่ เราแต่ละคนต่างมีชีวิตของตัวเองและมีภาระผูกพันของตัวเอง แต่แน่นอนว่าผมจะตอบรับคำเชิญ'
โรนัลโด้ เพิ่งทำสถิติยิง 109 ประตูกับทีมชาติโปรตุเกสเทียบเท่าผลงานของ อาลี ดาอี ตำนานกองหน้าทีมชาติอิหร่าน หลังซุปตาร์วัย 36 ปีกดสองประตูจากจุดโทษในเกมเสมอ ฝรั่งเศส 2-2 บนเวทียูโร 2020
ตลอดอาชีพค้าแข้ง โรนัลโด้ ทำรวมกัน 677 ประตู กับ 209 แอสซิสต์ คว้าแชมป์รวมกัน 29 รายการ ซิวรางวัล 'บัลลง ดอร์' 5 สมัย และ ดาวซัลโวสโมสรยุโรปอีก 4 ครั้ง
ขณะที่ เมสซี่ ทำรวมกัน 745 ประตู กับ 311 แอสซิสต์ สอยแชมป์รวมกัน 36 รายการ คว้ารางวัล 'บัลลง ดอร์' และ ดาวซัลโวสโมสรยุโรป อย่างละ 6 สมัย
แน่นอนว่าแฟนฟุตบอลทั่วโลกที่แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า อยากเห็น เมสซี่ ลงเล่นทีมเดียวกับ โรนัลโด้ ก่อนที่ทั้งคู่จะอำลาวงการลูกหนัง ซึ่งมันคงจะเป็นภาพที่งดงาม
มันเป็นความฝันของ โจน ลาปอร์ต้า เช่นเดียวกัน แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเมื่อพิจารณาจากสถานะทางการเงินของสโมสรก็ตาม แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้บนเวทีลูกหนัง โดยเฉพาะการรวมร่างอยู่ในสโมสรเดียวกันของสองยอดแข้งแห่งยุคอย่าง เมสซี่ กับ โรนัลโด้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT