ปิดฉากปีฝันร้ายที่'คัมป์นู'

หนึ่งในการทำข้อตกลงที่แปลกประหลาดกับ มิราเล็ม เปียนิช ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 พิสูจน์แล้วว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวของ บาร์เซโลน่า ก่อนนักเตะจะเก็บเสื้อผ้าย้ายไป เบซิคตัส หลังอยู่ในถิ่น 'คัมป์ นู' เพียงปีเดียว 

บาร์เซโลน่า ดึง เปียนิช มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโรบวกโบนัส 5 ล้านยูโร สวนทางกับ อาร์ตูร์ เมโล่ ที่ย้ายไป ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 72 ล้านยูโรบวกโบนัส 10 ล้านยูโร ซึ่งทีมเบียงโคเนรี่จ่ายเงินส่วนต่างไม่มากนัก 

แต่มีเสียงครหาว่าเป็นการประเมินค่าตัวนักเตะแพงเกินจริง ซึ่งมันเกี่ยวพันกับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าที่อาจมีคนในสโมสรมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องทีมงานแมวมองของทัพอาซูลกราน่าเคยออกมาการันตีว่า เปียนิช เป็นนักเตะที่มีรูปแบบการเล่นเหมาะกับสไตล์ของทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่า 

สื่อกาตาลันยังวิจารณ์ว่าเป็นการทำธุรกิจที่ไม่ฉลาดของสโมสร หลังการส่ง อาร์ตูร์ วัย 23 ปีที่ยังมีอนาคตยาวไกลแลกกับผู้เล่นที่อยู่ในช่วงขาลงวัย 30 ปีอย่าง เปียนิช 

ขณะเดียวกันสถานการณ์ในถิ่น 'คัมป์ นู' ยังไม่เป็นใจต่อมิดฟิลด์ชาวบอสเนียนอีกด้วย หลัง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรขณะนั้นสั่งปลด เอ็นรีเก้ เซเตียน ออกจากตำแหน่งก่อนดึง โรนัลด์ คูมัน มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่

เปียนิช เคยพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมระดับท็อปคลาสช่วงที่ค้าแข้งกับ โรม่า และ ยูเวนตุส ซึ่งตามแผนงานเดิมของ บาร์ซ่า คือดึงมาเป็นทายาทหรือเล่นร่วมกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ แต่เขาเริ่มต้นอาชีพที่ 'คัมป์ นู' ด้วยความยากลำบาก หลังติดเชื้อ 'โควิด-19' ตั้งแต่แรกจนไม่มีโอกาสเตรียมความพร้อมช่วงปรีซีซั่นเหมือนนักเตะคนอื่น 

ทว่า เปียนิช เผชิญชะตากรรมในแบบที่เจ้าตัวคาดไม่ถึงในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา หลังได้โอกาสลงเล่นรวมกันเพียง 30 เกม ส่วนใหญ่เป็นแค่สำรอง ไม่มีทั้งประตูและแอสซิสต์ เนื่องจากไม่ใช่นักเตะที่เล่นในสไตล์ที่เทรนเนอร์ต้องการ 

คูมัน มองว่านักเตะถนัดเล่นเกมรับที่ไม่เหมาะกับแนวทางการทำทีมของเขา เทรนเนอร์ชาวดัตช์จึงมอบโอกาสให้ เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ ซึ่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 18 ปีทำผลงานดีเกินคาดและยังมีสภาพร่างกายดีจึงได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ส่วนมิดฟิลด์ชาวบอสเนียนได้แค่นั่งมองตาปริบๆที่ข้างสนาม 

ขณะเดียวกัน บาร์เซโลน่า ต้องแก้ปัญหาทางการเงินด้วยการลดภาระค่าใช้จ่ายทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ ดังนั้น เปียนิช ซึ่งเป็นนักเตะที่อยู่นอกเหนือแผนงานของเทรนเนอร์จึงต้องระเห็จออกจากถิ่น 'คัมป์ นู'

เปียนิช ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับสองทีมเก่าอย่าง ยูเวนตุส และ โรม่า ตลอดช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่ไม่มีการทำข้อตกลงเกิดขึ้นจนกระทั่งตลาดซัมเมอร์ปิดทำการ ทว่าความพยายามของทีมอาซูลกราน่าประสบความสำเร็จเมื่อสามารถโละมิดฟิลด์ชาวบอสเนียนไปอยู่กับ เบซิคตัส สมความปรารถนาเนื่องจากตลาดนักเตะลีกตุรกีปิดล่าช้ากว่าตลาดยุโรป 

มิดฟิลด์วัย 31 ปียังช่วยอำนวยความสะดวกให้การย้ายสังกัดครั้งนี้ราบรื่นด้วยการตกลงลดค่าจ้างลงเหลือ 60 เปอร์เซ็นต์ ก่อน บาร์เซโลน่า จะปล่อยย้ายซบ เบซิคตัส ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี โดยสโมสรตุรกีรับผิดชอบค่าเหนื่อยของนักเตะมูลค่า 2.7 ล้านยูโร 

นั่นคือการปิดฉากฝันร้ายตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของ เปียนิช และคาดว่ามิดฟิลด์ชาวบอสเนียนจะไม่หวนคืน 'คัมป์ นู' ในอนาคตไม่ว่าเทรนเนอร์ของทีมอาซูลกราน่าจะมีชื่อว่า คูมัน หรือไม่ก็ตาม หากพิจารณาจากความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะกับเทรนเนอร์หลังการเปิดเผยผ่านสื่อของมิดฟิลด์วัย 31 ปี 

'สถานการณ์ของผมมันซับซ้อนตั้งแต่แรก' เปียนิช อธิบายอย่างตรงไปตรงมา 'ผมไปถึงที่นั่นหลังหายไป 2 สัปดาห์ (ติดเชื้อโควิด) เริ่มฝึกซ้อมทีละน้อยโดยลำพังเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มต้นใหม่กับเพื่อนร่วมทีมของผม'

'3, 4, 7, 10 วันผ่านไป และโค้ชไม่เคยมาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับฤดูกาล, เกี่ยวกับผม, พูดเกี่ยวกับอะไรเลย มันแปลกดี แต่ก็ดี'

'เวลาผ่านไป, ผมรู้สึกดีและได้ลงเล่น แต่แน่นอนว่าผมต้องการมากกว่านี้ จากนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ผมได้ลงเล่นน้อยลงและสิ่งต่างๆยุ่งยากมากขึ้น'

'มันยากทั้งร่างกายและจิตใจ และมันทำลายความมั่นใจของผมเพราะผมไม่ได้สื่อสารกับเขา มันแปลกมาก'

'โค้ชเป็นคนที่บอกว่าใครเล่นและใครไม่ได้เล่น แต่มีหลายวิธีการในการทำสิ่งต่างๆ ผมเป็นนักเตะที่สามารถรับได้ทุกอย่าง แต่ผมต้องการให้บอกต่อหน้าผมและไม่ทำราวกับว่าผมอายุ 15 ปี'

'ผมต่อสู้จนจบ ผมเป็นมืออาชีพกับเด็กๆเสมอ, ทำงานหนักเสมอ, เพื่อพวกเขาด้วยเช่นกัน ผมรู้ว่าถ้าโค้ชอยู่ต่อ ผมต้องหาทางออก'

'เขาไม่เคยบอกผมหรือถามว่าผมอยากเล่นมิดฟิลด์คู่กลางหรือหน้าแนวรับ' เปียนิช ร่ายยาวถึง คูมัน 'ผมไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการเล่นมิดฟิลด์คู่กลางกับ (ซามี) เคดิร่า'

'ผมเคยเล่นทุกที่ แต่เขาไม่เคยเห็นผมในพื้นที่เหล่านั้น ผมไม่มีตำแหน่ง ผมมี 5 หรือ 10 นาที หรือบางทีอบอุ่นร่างกาย 45 นาทีโดยไม่ได้เล่น'

'ผมไม่เคยมีสถานการณ์แบบนี้มาก่อน และมันไม่ง่ายเลย คุณต้องแข็งแกร่ง เพราะบางครั้งผมอาจมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่ดีต่อเขา แต่ผมให้เกียรติเขาและเพื่อนร่วมทีมเสมอ' 

'เขาต่อต้านผมตั้งแต่แรก มันยากที่จะยอมรับ ผมรอจนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดเพื่อให้สิ่งต่างๆเปลี่ยนไป ผมลงเล่นทั้งหมดในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกและเราชนะ 2-0 ในตูริน'

'จากนั้นใน ลา ลีกา ซานตานเดร์ เข้าและผมหลุดจากทีม ผมจะถามเขาว่าผมกำลังทำอะไรผิดหรือเปล่า บางทีเขาอาจต้องการสิ่งที่แตกต่างจาก (มัสซิมิเลียโน่) อัลเลกรี, (เมาริซิโอ) ซาร์รี่, หลุยส์ เอ็นรีเก้ หรือ (ลูชาโน่) สปัลเล็ตติ พวกเขาทั้งหมดล้วนมีสิ่งที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาสื่อสารกัน'

'มันดีสำหรับทีม 'ไม่, มันแค่การโรเตชั่น ผมไม่มีปัญหา ทัศนคติของคุณดีมาก' โอเค, ดี, แต่จากนั้นผมก็หลุดจากทีมยาวนานกว่านั้น ผมไม่เข้าใจ เขาเป็นโค้ชที่แปลกมาก มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบคนแบบนี้'

'ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนพฤษภาคม ผมแทบจะไม่ได้ลงเล่นเลย' เปียนิช กล่าวเสริม 'ผมผิดหวังมาก ผมสามารถพูดได้ว่า 'ผมมีสัญญา 3 ปี ดังนั้นผมจึงไม่สนใจ' แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น'

'มันเป็นสถานการณ์ที่ยากมากที่จะยอมรับ แต่ผมจะไม่ต่อสู้ มีคนหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน เขาเป็นโค้ช'

'มีการขาดความเคารพต่อสโมสร, สำหรับคนที่ไม่ได้ลงเล่นหลังการฝึกซ้อมอย่างดี โค้ชไม่เคยอยู่ที่นั่นเพื่อดูทัศนคติของนักเตะที่ไม่ได้เล่น มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสิ่งนั้น' 

'นักเตะสามารถมีแรงจูงใจที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ที่นั่นได้อย่างไรเมื่อโค้ชไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อดูทัศนคติหรือวิธีการฝึกซ้อมของเขา มันเป็นหนึ่งในสิ่งแย่ที่สุดที่ผมเคยเห็น การขาดความเคารพอย่างมาก และมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเราที่ไม่ได้เล่น' เปียนิช กล่าว

เหตุที่เกิดขึ้นกับ เปียนิช ไม่ใช่ครั้งแรกที่ โรนัลด์ คูมัน ปฏิบัติต่อลูกทีมของเขา เทรนเนอร์ชาวดัตช์เคยมีปัญหากับนักเตะระหว่างที่ทำงานกับ บาเลนเซีย ช่วงเดือนตุลาคมปี 2007 ก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนเมษายนปีถัดมา หลังมีความขัดแย้งกับขาใหญ่ประจำทีมอย่าง ซานติอาโก้ กานญีซาเรส, ดาบิด อัลเบลด้า, รูเบน บาราฆา และ มิเกล อังเคล อังกูโล่

คูมัน ยังปฏิบัติต่อ อูมาร์ นีอาส ทำนองเดียวกันในช่วงที่เขาทำงานในถิ่น 'กูดิสัน พาร์ค' จนกองหน้าชาวเซเนกัลวิจารณ์โค้ชชาวดัตช์ผ่านสื่อหลังถูก เอฟเวอร์ตัน ปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนตุลาคมปี 2017 

ส่วน เปียนิช จะเริ่มต้นใหม่กับ เบซิคตัส ด้วยการร่วมงานกับ เซอร์เก้น ยาลชิน เทรนเนอร์วัย 48 ปีที่ไม่มีบุคลิกแข็งกร้าวเหมือน คูมัน โดยจะเล่นกับ โดมากอย วีด้า, ราชิด เกซซาล, จอร์จส์ เควิน-เอ็นคูดู, มีชี่ บาตชูอายี่, อติบา ฮัทชินสัน และ ไคล์ ลาริน เผชิญความท้าทายบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซีซั่นนี้ ที่มีคิวลงบู๊กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน