จุดเปลี่ยนชีวิตของ 'แจ็คซอน มาร์ตีเนซ'

แอตเลติโก มาดริด เคยขึ้นชื่อว่าเก่งในการจั่วกองหน้าคนใหม่ที่เข้ามาสร้างผลกระทบทันทีไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน, ราดาเมล ฟัลเกา, ดีเอโก้ คอสต้า, อองตวน กรีซมันน์ หรือ หลุยส์ ซัวเรซ ยกเว้นเพียง แจ็คซอน มาร์ตีเนซ เท่านั้น นั่นเป็นเพราะหัวหอกชาวโคลอมเบียนมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย การย้ายมาค้าแข้งกับทีมตราหมีจึงไม่ปังอย่างที่คาดหวัง

แจ็คซอน สร้างชื่อกับ เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยการกระทุ้ง 92 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการกับทีมดังโปรตุเกส 136 เกม ก่อน แอตเลติโก มาดริด จะจ่ายเงิน 35 ล้านยูโรดึงดาวยิงทีมชาติโคลอมเบียมาร่วมทีมในช่วงหน้าร้อนปี 2015 

ทั้ง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์และสาวกโกลโชเนโรสต่างคาดหวังว่า แจ็คซอน จะทำผลงานฉูดตามรอย ราดาเมล ฟัลเกา อีกหนึ่งศิษย์เก่าจาก เอฟซี ปอร์โต้ ที่เคยสร้างความประทับใจระหว่างค้าแข้งกับทีมตราหมีในช่วงปี 2011-2013 ด้วยการยิง 70 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 91 เกม ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ โมนาโก ของฝรั่งเศส

ทว่าอาชีพค้าแข้งของ แจ็คซอน กับ แอตเลติโก มาดริด ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงก่อนถูกปล่อยตัวไปเล่น ไชนีส ซูเปอร์ลีก กับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ในอีก 6 เดือนต่อมาด้วยค่าตัว 42 ล้านยูโร ทำกำไรให้ทีมตราหมีเล็กน้อย

นับจากนั้นชื่อของ แจ็คซอน มาร์ตีเนซ หลุดออกไปจากหน้าสื่อหลังจากนั้น เขาไม่สามารถตอบแทนการลงทุนด้วยเงินก้อนโตอย่างที่สโมสรคาดหวังเนื่องจากถูกอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างต่อเนื่องจนมีโอกาสลงเล่นกับ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ แค่ 16 เกมและยิงเพียง 4 ประตูตลอดช่วง 2 ปีใน ไชนีส ซูเปอร์ลีก 

แจ็คซอน ย้ายกลับยุโรปแบบเงียบๆหลัง กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ปล่อยกองหน้าชาวโคลอมเบียนย้ายมาค้าแข้งกับ ปอร์ตีโมเนนเซ่ สโมสรโปรตุเกสด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่น 2018-2019 ก่อนนักเตะจะเซ็นสัญญาถาวรจนถึงซัมเมอร์ปี 2022 ในช่วงเดือนมกราคมปี 2020 

อย่างไรก็ตาม แจ็คซอน ตัดสินใจแยกทางกับ ปอร์ตีโมเนนเซ่ ในช่วงหน้าร้อนปีนั้น หลังลงเล่นรวมกัน 54 เกมและทำ 12 ประตู เขาวางแผนย้ายกลับบ้านเกิดไปค้าแข้งกับ อินเดเปนเดียนเต้ เมเดยิน แต่มันไม่เกิดขึ้นจนกระทั่ง แจ็คซอน ตัดสินใจยุติอาชีพค้าแข้งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2020 จากความเบื่อหน่ายที่ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้ง 

หลังการอำลาสังเวียนลูกหนังมาเกือบ 1 ปี แจ็คซอน มาร์ตีเนซ เปิดใจกับ 'เรกอร์ด' สื่อโปรตุกีสโดยกล่าวถึง 'จุดเปลี่ยน' ในอาชีพค้าแข้งของเขาเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนปี 2015 จากการวินิจฉัยอาการบาดเจ็บที่ผิดพลาดในขณะนั้น

'การจะเสียใจในสิ่งที่คุณต้องทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่คุณรู้ว่ามันผิด ในกรณีของผม มันไม่ใช่แบบนั้น ในเคสของผม มันเป็นการตัดสินใจ' แจ็คซอน เปิดเผย 

'เมื่อทุกอย่างคลี่คลายและเมื่อผมรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับแนวทางการเล่นของทีม นั่นคือตอนที่ผมได้รับบาดเจ็บ'

'มันเป็นเกมที่พบกับ ชิลี แต่ผมรู้ถึงความรุนแรงของอาการบาดเจ็บนั้นในอีกเกือบหนึ่งปีถัดมา ผมกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดในปี 2015 แต่มันไม่เกิดขึ้น ก่อนผมจะเข้ารับการผ่าตัดในอีก 8 เดือนต่อมา'

'ผมลงเล่นพร้อมกับอาการบาดเจ็บนี้มาตลอด มันเหมือนเล่นกับบาดแผล มันไม่หายขาด ผมคิดว่าสิ่งนี้สร้างปัญหา แต่ผมไม่เสียใจ อาชีพค้าแข้งของผมมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2015'

อดีตกองหน้าทีมชาติโคลอมเบียวัย 34 ปี ยังเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดที่ แอตเลติโก มาดริด จนส่งผลให้เขาอยู่กับทีมตราหมีเพียงไม่กี่เดือน

'คุณไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่าง ถ้าไม่จำเป็น คุณก็ไม่ต้องพูดทั้งหมด ผมขอเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้กับตัวเอง'

'แต่ผมบอกได้เลยว่าผมไม่มีปัญหากับเพื่อนร่วมทีม ผมไม่มีปัญหากับเทรนเนอร์ ซิเมโอเน่ เป็นคนที่มีความต้องการสูง, เขาเป็นผู้ชนะ และเป็นเทรนเนอร์ที่บอกผมทันทีว่าผมต้องพูดทุกอย่างกับเขาและในทางกลับกันเขาจะบอกผมทุกอย่างที่เขาต้องการเช่นกัน'

'มันมีความเคารพซึ่งกันและกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากนั้นไม่น่าพูดถึง แต่ผมไม่มีข้อสงสัยใดๆ หากอาการบาดเจ็บนั้นไม่เกิดขึ้น สิ่งต่างๆคงจะเปลี่ยนไปจากเดิม'

แจ็คซอน มาร์ตีเนซ ยังชี้แจงเพิ่มเติมและพูดเป็นนัยว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพค้าแข้งของเขานั้นเกิดขึ้นจากการวินิจฉัยที่ผิดพลาด 

'ตอนที่ผมได้รับบาดเจ็บ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาบอกว่าผมมีอาการบาดเจ็บ ผมแค่รู้สึกว่ามีอาการเคล็ดขัดยอกประมาณ 4 ครั้ง และผมรู้อยู่แล้วว่าอาการอักเสบของเท้าจะเป็นอย่างไร เท้ามันไม่ได้บวมมาก แต่ความเจ็บปวดทำให้ผมไม่สามารถย่ำเท้าลงบนพื้น'

'การวินิจฉัยโรคไม่ถูกต้องระหว่างร่วมทีมชาติ ตอนที่ผมไปถึง พวกเขาเริ่มรักษาอาการแพลงของผมเพราะพวกเขาไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น'

'ต่อมาเมื่อพวกเขาจะทำการผ่าตัดกับผม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบนั้น แล้วยังมีเรื่องอื่นๆที่ไม่น่าพูดถึง สิ่งนี้นนำไปสู่การเดินทางไปจีนของผม'

'ผมไม่มีปัญหาใดๆ เท่าที่ผมรู้และถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่มีใครบอกผม แต่ถึงอย่างไรผมยังคงติดตามทีมต่อไป ผมรู้สึกขอบคุณแฟนๆอย่างมาก ผมรู้สึกได้ถึงแรงสนับสนุนจากแฟนบอลส่วนใหญ่ ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น' 

แจ็คซอน ยังชี้แจงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจยุติอาชีพค้าแข้งของตนเองก่อนเวลาอันควรเนื่องจากเขาคำนึงถึงเรื่องสุขภาพเป็นอันดับแรก 

'เมื่อคุณมีความหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณต้องการทำมันต่อไปให้นานสุดเท่าที่สามารถทำได้ ในกรณีของผม ผมต้องลาจากมาเพื่อสุขภาพของผม แม้ว่าตอนนี้จะดีขึ้นมากแล้วก็ตาม ความจริงคือคุณไม่มีวันพึงพอใจ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมพอใจที่ผมทำได้ดีที่สุดในทุกที่ที่ผมเคยไป ในบางสถานที่ดีกว่าที่อื่นๆ'

เมื่อถูกถามว่าเขามีความคิดที่จะกลับไปที่ ปอร์โต้ หรือไม่? อดีตกองหน้าวัย 34 ปีตอบว่า 'ไม่ เพราะผู้คนมักจะพูดราวกับว่ามันขึ้นอยู่กับนักเตะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเตะเลย คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้ น้อยคนนักที่จะตระหนักถึงมัน เบื้องหลังการตัดสินใจของผู้เล่นแต่ละคนยังมีการตัดสินใจอื่นๆอีกมายมากเช่นกัน มันไม่ใช่การตัดสินใจของผมจริงๆที่จะไม่กลับไปสวมเสื้อปอร์โต้อีก'

ตลอดอาชีพเกือบ 16 ปีของ แจ็คซอน มาร์ตีเนซ ตั้งแต่ปี 2004 ผ่านการค้าแข้งกับ อินเดเปนเดียนเต้ เมเดยิน, เชียปาส, เอฟซี ปอร์โต้, แอตเลติโก มาดริด, กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ จนกระทั่งมาปิดฉากอาชีพกับ ปอร์ตีโมเนนเซ่ ลงเล่นรวมกัน 447 เกม ทำ 202 ประตู ก่อนเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ต้องโบกมือลาเกมลูกหนังเพื่อสุขภาพของตนเอง