เจตนารมณ์'อุมตีตี้'

ซามูแอล อุมตีตี้ กองหลังชาวฝรั่งเศสเคยเป็นแกนหลักในแนวป้องกันของ บาร์เซโลน่า ตลอด 2 ฤดูกาลแรก นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง ในช่วงหน้าร้อนปี 2016 ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร แต่แนวรับวัย 27 ปี มีส่วนร่วมกับทีมอาซูลกราน่าน้อยมากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย

อุมตีตี้ มีประวัติการบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะปัญหาที่เข่าซ้ายหลังจากศึกฟุตบอลโลกปี 2018 รอบสุดท้าย ซึ่งทำให้เขาลงเล่นรวมกันเพียง 49 เกมตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาและยังไม่ได้ลงสัมผัสเกมแม้แต่นาทีเดียวในซีซั่นนี้ 

ปัญหาที่ยืดเยื้อกินเวลายาวนานมาจากการตัดสินใจผิดพลาดที่เขาไม่เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บเข่าซ้ายตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน โดยใช้การบำบัดโดยวิถีธรรมชาติจนร่างกายยังไม่กลับมาเหมือนเดิมนับตั้งแต่นั้น

จากปัญหาเรื่องสภาพร่างกายของ อุมตีตี้ ซึ่งทำให้ทีมอาซูลกราน่าไม่สามารถใช้งานนักเตะได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทำให้แนวรับชาวฝรั่งเศสอยู่ในข่ายที่ต้องการโละทิ้งระหว่างการเผชิญวิกฤตทางการเงินครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร 

แต่ อุมตีตี้ ยืนกรานว่าเขาต้องการค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ต่อไป แม้จะมีข่าวลือว่าสโมสรพยายามเจรจากับนักเตะเพื่อยกเลิกสัญญาที่ยังมีจนถึงปี 2023 ก็ตาม

อุมตีตี้ มีโอกาสพูดแบบเปิดใจกับ 'มุนโด้เดปอร์ติโบ' สื่อกีฬาแคว้นกาตาลุนย่า ไม่เพียงแต่การพูดถึงเรื่องสภาพความฟิตของเขาเท่านั้น แต่ยังกล่าวถึงข่าวการย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' ของเขาด้วย 

'ผมรู้สึกดีมากทางร่างกาย ผมอดทนกับการฝึกซ้อมและผมต้องการเล่นจริงๆ ผมกำลังรอเวลาที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง แต่ในระดับร่างกาย ผมสบายดี'

เมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่ทำให้เขายังไม่ได้รับโอกาสลงสนาม ซึ่ง อุมตีตี้ ยืนยันว่าเขาต้องพิสูจน์ตัวเองในการฝึกซ้อมและเชื่อว่าโอกาสจะมาถึงในไม่ช้า 

'ทำไมผมไม่ได้เล่น? โค้ชเป็นคนตัดสินใจและผมต้องยอมรับมัน ถ้าผมไม่ได้เล่น ผมต้องฝึกซ้อมมากกว่าคนอื่นและแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ในระดับที่สามารถทำได้แบบนั้น'

กองหลังชาวฝรั่งเศสกล่าวเพิ่มเติมว่าแม้เขาจะฝึกซ้อมทุกวัน แต่ยังขาดจังหวะที่จำเป็นสำหรับการเล่น เนื่องจากห่างเหินจากสังเวียนมาเป็นเวลานาน 

'พวกเราสามารถซ้อมได้ทุกวัน แต่ผมขาดจังหวะของการแข่งขัน จังหวะ, จังหวะ ผมหวังว่าผมจะได้รับมัน'

เมื่อถูกนักข่าวถามว่าเขาร้องขอให้ โรนัลด์ คูมัน ส่งเขาลงสนามแบบตรงไปตรงมาหรือไม่ อุมตีตี้ ยืนยันว่าเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้และต้องพิสูจน์คุณค่าของตนเองเป็นลำดับแรก 

'ผมร้องขออะไรไม่ได้ เพราะโค้ชเป็นคนตัดสินใจและผมต้องยอมรับมัน ผมต้องฝึกซ้อมและแสดงให้เห็นว่าผม โอเค ผมจะไม่ร้องขอมัน ผมคิดว่ามันไม่ควรทำ ผมต้องพิสูจน์ในสนาม' กองหลังชาวฝรั่งเศสกล่าว 

ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 เกือบจะย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเล่นให้สโมสรอื่น อุมตีตี้ ยืนกรานว่ามันเป็นไปไม่ได้

'ผมมองไม่เห็นตัวเองกำลังเล่นกับอีกสโมสร ไม่, เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ผมมีความชัดเจนมาก ผมต้องการแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ในระดับที่จะเล่นที่นี่ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องกลับไปและแสดงให้เห็นว่า 'ซามู' ยังโอเค'

อุมตีตี้ ยังกล่าวถึงการถูกสาวกบาร์เซโลนิสต้าส่งเสียงโห่ระหว่างการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ 'คัมป์ นู' ในช่วงปรีซีซั่น เนื่องจากแฟนบอลบางส่วนมองว่ากองหลังชาวฝรั่งเศสมีส่วนทำให้พวกเขาสูญเสียยอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เพราะกองหลังวัย 27 ปีไม่ยอมย้ายทีมเพื่อลดภาระค่าจ้างของสโมสร โดยรับว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากเพราะเขารักสโมสร 

'เสียงโห่ในช่วงปรีซีซั่น? มันทำให้ผมเจ็บปวดมาก ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับผมที่สโมสรนี้ เพราะผมรักมัน ผมรักสโมสรนี้ ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ผมโอเค ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะการบาดเจ็บ แต่ในที่สุดผมก็ทำงานของผม'

เมื่อถูกถามเขาว่าได้รับข้อเสนอจากสโมสรอื่นหรือไม่ ซึ่งกองหลังชาวฝรั่งเศสยอมรับว่ามีข้อเสนอมาถึงจริง แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับทีมอาซูลกราน่าต่อไป

'ข้อเสนอจากสโมสรอื่น? ผมได้รับหลายข้อเสนอ แต่ไม่ ผมต้องการอยู่ต่อไป ผมไม่ได้เห็นตัวเองกับที่อื่น'

การปฏิเสธเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บเข่าซ้ายกลายเป็นปัจจัยใหญ่ที่สุดที่กล่าวกันว่าทำให้ อุมตีตี้ เสื่อมสมรรถภาพอย่างรวดเร็ว แต่กองหลังวัย 27 ปีปกป้องการตัดสินใจของเขาที่ไม่ยอมขึ้นเขียงผ่าตัด

'การปฏิเสธการผ่าตัด? ผมไปหาหมอ 3 หรือ 4 คน บอกว่าไม่ต้องผ่าตัด มันเสี่ยงมาก มันเป็นการตัดสินใจของผมและมันต้องทำ อาชีพค้าแข้งของผมจะเป็นเดิมพัน ผมตัดสินใจไม่เข้ารับการผ่าตัดเพราะมีความเสี่ยงต่อกระดูกอ่อน'

มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับ อุมตีตี้ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อถูกถามว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากจิตแพทย์เพื่อช่วยบำบัดและฟื้นฟูสภาพจิตใจหรือไม่

'ไม่, แต่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากทางจิตใจ' อุมตีตี้ ยอมรับ

การพูดคุยครั้งสุดท้ายระหว่าง อุมตีตี้ กับ โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ก่อนจะมีการยืนยันว่ากองหลังชาวฝรั่งเศสจะค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าต่อไป

'ลาปอร์ต้า บอกผมว่า 'ซามู ถ้าคุณโอเค คุณต้องแสดงมันให้เห็นแล้วจากนั้นคุณอาจได้รับโอกาส'

อุมตีตี้ ยังยอมรับว่าเขาถึงกับร้องไห้ในที่ประชุมเพราะสิ่งที่เขาต้องการมาจากใจของเขา

'ผมร้องไห้ในที่ประชุมกับประธานสโมสรหรือไม่? ใช่, เพราะผมไม่ค่อยพูด แต่ถ้าผมพูดบางอย่าง ผมจะพูดด้วยหัวใจและในที่สุดนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น'

กองหลังชาวฝรั่งเศสยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ลาปอร์ต้า กอบโอดเขาเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เขาหลั่งน้ำตาระหว่างการพูดคุยกันด้วย

'ปฏิกิริยาของท่านประธานต่อเรื่องนั้น? เขาสวมกอดผม' 

อีกหนึ่งหัวข้อที่ อุมตีตี้ พูดคุยกับ 'มุนโด้เดปอร์ติโบ' คือการจากไปของ ลิโอเนล เมสซี่ หลังสโมสรประสบปัญหาทางการเงินจนไม่สามารถเก็บกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ไว้กับทีมต่อไป ซึ่งกองหลังวัย 27 ปียอมรับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับการสูญเสียนักเตะดีที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ทีมอาซูลกราน่ากำลังวางแผนที่แตกต่างไปจากเดิม

'บาร์ซ่า ที่ไม่มี เมสซี่? มันยากเพราะคุณสูญเสียนักเตะดีที่สุดในโลก แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป คุณต้องเล่นแตกต่างออกไป เลโอ ช่วยเราได้มากและตอนนี้พวกเราต้องเล่นด้วยกันเป็นทีมมากขึ้น เราสามารถคว้าแชมป์รายการต่างๆได้'

อุมตีตี้ ยังกล่าวถึงเพื่อนรุ่นน้องร่วมชาติ อุสมาน เดมเบเล่ ที่เหลือสัญญากับสโมสรจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2022 โดยยืนยันว่าแนวรุกวัย 24 ปีต้องการค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าต่อไปและใกล้ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามอีกครั้ง

'เดมเบเล่ ต้องการค้าแข้งกับ บาร์ซ่า ต่อไปหรือไม่? ผมคิดอย่างนั้น เขาทำงานหนักทุกวัน ผมเห็นเขา เขามีความสุข เขาเกือบจะพร้อมแล้ว แต่เขายังต้องการเวลาเพราะเขาไม่ได้เล่นมานานหลายเดือนแล้ว' 

อุมตีตี้ ยังคงต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะใจ คูมัน ต่อไป หลังเขากลายเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆต่อจาก เคราร์ด ปีเก้, เอริก การ์เซีย, โรนัลด์ อาเราโฮ กับ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ แต่มีแนวโน้มว่า ล็องเล่ต์ กำลังจะย้ายออกจาก 'คัมป์ นู' ในช่วงเดือนมกราคมนี้ ดังนั้นแนวรับวัย 27 ปีอาจจะมีส่วนร่วมกับทีมของเทรนเนอร์ชาวดัตช์มากขึ้นหลังจากนั้น