อนาคตอีเนียสต้า...อนาคตบาร์โตเมว...

อันเดรส อีเนียสต้า เป็นอีกหนึ่งแข้งบาร์เซโลน่าที่กำลังจะก้าวขึ้น

มาเป็นตำนานของสโมสร 

แต่สาวกบาร์เซโลนิสต้ายังสงสัยว่ามิดฟิลด์วัย 33 ปีจะเล่นอยู่กับ

ทีมอาซูลกราน่าจนแขวนเกือกหรือย้ายไปปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับสโมสรอื่นเหมือน 

ชาบี เอร์นานเดซ ที่โยกไปเล่นกับ อัล ซาดด์ ของกาตาร์เมื่อปี 2015 

อีเนียสต้า ยังไม่ตอบรับเซ็นสัญญาฉบับใหม่ที่สโมสรยื่นให้

พิจารณาก่อนหน้านี้พร้อมเปรยว่าเขาอาจตัดสินใจเลือกสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้

เช่นกัน

หลายคนตีความคำพูดของมิดฟิลด์วัย 33 ปีว่าหมายถึงการเลือก

อำลาถิ่น'คัมป์ นู'หลังสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายน 2018 

อย่างไรก็ตาม โฆเซ่ อันโตนิโอ อีเนียสต้า พ่อของมิดฟิลด์วัย 33 

ปีให้สัมภาษณ์สื่อสเปนล่าสุดว่าลูกชายของเขาจะต่อสัญญากับบาร์เซโลน่าในอนาคต 

'หลายวันที่ผ่านมามีแต่คนพูดถึงเรื่องลูกชายผม ส่วนเรื่องที่บอกว่า

ไม่มีความคืบหน้าใดๆนั่น ผมสามารถบอกได้เลยว่ามันไม่เป็นความจริง'พ่ออี

เนียสต้ายืนยัน

'ในฐานะนักเตะอาชีพ อันเดรสไม่มีความคิดจะสวมเสื้อสโมสรอื่น

นอกจากบาร์เซโลน่า เพราะเขายังรู้สึกว่ายังมีภารกิจหลายอย่างที่ยังทำไม่สำเร็จ'

'จากการประเมินตัวเขาเอง อันเดรสเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถเป็น

เสาหลักของบาร์ซ่าไปอีก 2-3 ปี' 

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าเพิ่งเดินทาง

ไปพบกับ อันเดรส อีเนียสต้า ถึงสนามฝึกซ้อมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพื่อสอบถามถึง

ความคืบหน้าในการต่อสัญญากับต้นสังกัด แต่คำตอบที่ได้รับจากมิดฟิลด์วัย 33 ปี

คือ'ยังไม่ใช่ตอนนี้' 

นั่นทำให้สื่อเมืองกระทิงนำมาขยายความเพิ่มเติมว่ามันอาจจะทำ

ให้เกิดความบาดหมางระหว่างประธานสโมสรกับนักเตะในอนาคต 

ทั้งสองฝ่ายมีจุดหมายไม่ต่างกันเพราะสโมสรต้องการขยายสัญญา

นักเตะและอีเนียสต้ามีความคิดเช่นเดียวกัน แต่มันยังมีปัญหาเกี่ยวกับรายละเอียด

ในสัญญาที่ทั้งสองฝั่งยังจูนกันไม่ลงตัว อย่างเช่นจำนวนเงินหรือข้อแม้ต่างๆที่ระบุ

ไว้ในสัญญาที่ยังต้องได้รับการแก้ไข

อีเนียสต้ายังมีบทบาทสำคัญในทีมอาซูลกราน่าของ เอร์เนสโต้ บัล

เบร์เด้ เรื่องนั้นไม่มีใครโต้แย้ง แต่มิดฟิลด์วัย 33 ปียังมีความรู้สึกว่าสโมสรไม่ให้

ความสำคัญกับเขาเท่าที่ควรจะเป็น 

มันมาจากการตีความจากบทสัมภาษณ์ของอีเนียสต้าช่วงหลาย

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ 

'มันเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น

ตลอดช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ ผมกำลังจะคิดถึงเรื่องอนาคตในแบบที่ผมไม่เคยคิดมา

ก่อน เราทุกคนต่างชอบให้คนอื่นมองเห็นคุณค่าและเป็นที่เคารพนับถือ ผมรู้สึก

เสมอถึงความรักและความเคารพจากทุกคน'

สถานการณ์ของ อีเนียสต้า ต่างจาก ลิโอเนล เมสซี่ เนื่องจากตัว

แทนของกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์นั่นคือ ฮอร์เค่ เมสซี่ บิดาของนักเตะเจรจาจน

บรรลุข้อตกลงกับสโมสรแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการเท่านั้น 

ต่างจากอีเนียสต้าที่การเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปด้วยเหตุผลข้างต้นว่า

มิดฟิลด์วัย 33 ปียังไม่พอใจเรื่องจำนวนเงินและข้อแม้ต่างๆในสัญญาฉบับใหม่ 

ด้วยเหตุที่การเจรจาของทั้งสองฝ่ายยังไม่ลงตัวทำให้มีมือที่สามอย่าง 

ยูเวนตุส ยื่นมือเข้ามามีเอี่ยวทันที 

ตามรายงานข่าวจาก'ตุ๊ตโต้สปอร์ต'สื่ออิตาเลียนระบุว่าทีมม้าลาย

กำลังจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

ยูเวนตุส ตกเป็นข่าวว่าสนใจดึง อีเนียสต้า ไปร่วมทีมหากนักเตะ

ตัดสินใจอำลาถิ่น'คัมป์ นู'โดยทีมม้าลายพร้อมเดินหน้าทาบทามตั้งแต่วันที่ 1 

มกราคมนี้และหวังรวบตัวเข้าสังกัดทันทีที่มิดฟิลด์วัย 33 ปีหมดสัญญากับทีมอา

ซูลกราน่า

'ผมยังไม่ได้ต่อสัญญา ผมมีประสบการณ์มากมายที่ผมยังไม่รู้จัก 

แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกตินะ'อีเนียสต้า เปิดอกก่อนหน้านี้ 

ยูเวนตุส ต้องการดึงอีเนียสต้าไปรับบทบาทเหมือน อันเดรีย ปีร์โล่ 

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีของพวกเขาก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ นิวยอร์ค ซิตี้ ใน

ปัจจุบัน 

อย่างไรก็ตามการออกมาชี้แจงผ่านสื่อของ โฆเซ่ อันโตนิโอ อี

เนียสต้า คงทำให้สาวกบาร์เซโลนิสต้าคลายความกังวลใจเกี่ยวกับมิดฟิลด์วัย 33 ปี

ได้ดีในระดับหนึ่ง 

ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับแนวทางการบริหารทีมของ โจเซป มาเรีย 

บาร์โตเมว ด้วยเช่นกันว่าจะตัดสินใจอย่างไร หลังบอร์ดบริหารชุดนี้เคยทำผิด

พลาดครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจนกระทั่งทีมอาซูลกราน่าต้อง

เสียนักเตะแห่งอนาคตอย่างเนย์มาร์ให้เปแอสเช 

จากปัญหาด้านการบริหารโดยเฉพาะการซื้อขายนักเตะของบาร์โต

เมวทำให้มีข่าวลือว่าประธานสโมสรเริ่มหมดความน่าเชื่อถือตามสายตาของนักเตะ

บาร์เซโลน่า

ขณะเดียวกันจากความผิดพลาดเรื่องเนย์มาร์ในช่วงซัมเมอร์ที่

ผ่านมาทำให้ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว เตรียมลงมือผ่าตัดบอร์ดบริหารครั้งใหญ่

ภายในอนาคตอันใกล้นี้ 

จอร์ดี้ เมสเตร้ รองประธานสโมสรฝ่ายกีฬา, เป๊ป เซกูร่า ผู้อำนวย

การทั่วไป กับ โรเบิร์ต เฟร์นานเดซ เลขาธิการฝ่ายเทคนิคหรือพวกเก่งแต่ปาก

เหล่านี้อยู่ในข่ายที่อาจถูกเขี่ยพ้นจากบอร์ดบริหาร 

ทว่าการปรับเปลี่ยนบอร์ดบริหารของบาร์โตเมวคงไม่มีความ

สำคัญเท่าการรั้งนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ อันเดรส อีเนียสต้า ให้อยู่กับทีม

ต่อไป 

นั่นเป็นภารกิจหลักที่้บาร์โตเมวจ้องรีบเร่งจัดการให้เสร็จสิ้นก่อน

สโมสรจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติมากกว่านี้...