การแก้ปัญหาระยะยาวและสั้นของมาดริด
เรอัล มาดริด ปราชัยต่อ บาร์เซโลน่า คารัง 0-4 อาจเป็นหนึ่งในผลงานย่ำแย่สุดในประวัติศาสตร์ของเกม 'เอล กลาซิโก้' คล้ายทีมอาซูลกราน่ายุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บุกมาบอมบ์ทีมชุดขาวพังยับ 6-2 ในปี 2009
แม้ชัยชนะดังกล่าวอาจสั่นคลอนเส้นทางสู่การเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกเมืองกระทิงสมัยที่ 35 บ้างก็ตาม แต่จะมีผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจาก เรอัล มาดริด ยังทิ้งห่างอันดับ 2 เซบีย่า ถึง 9 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมลงสนามอีก 9 นัด
ขณะที่ บาร์เซโลน่า ยังคงตามหลังคู่ปรับตลอดกาลถึง 12 คะแนน แม้ว่าจะลงเล่นน้อยกว่าหนึ่งเกมก็ตาม แม้แต่ ชาบี เอร์นานเดซ ยังยอมรับว่าทีมอาซูลกราน่ามีโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมายาก เพราะนอกจากบาร์ซ่าจะต้องคว้าชัยชนะทุกนัดที่เหลือแล้วยังต้องแช่งให้ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องพ่ายอย่างน้อย 3 เกมจาก 9 นัดสุดท้ายด้วย
หากพิจารณาจากมาตรฐานของทีมชุดขาวในซีซั่นนี้ที่เพิ่งแพ้มาเพียง 3 ครั้ง กรณีดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดขึ้น
การปราชัยแบบหมดสภาพต่อคู่ปรับสำคัญอย่าง บาร์เซโลน่า ทำให้ ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานทีมชุดขาวไม่ปลื้มแน่นอน เช่นเดียวกันสาวกมาดริดีสต้าอีกจำนวนไม่น้อย
'เราเริ่มต้นด้วยการเผชิญหน้าแบบ 1 ต่อ 1 ในแนวรับ แต่คืนนี้มันไม่ใช่เกมที่ทำแบบนั้นแล้วได้ผล'
'ผมรู้สึกเสียใจต่อแฟนบอล แต่เราต้องมองไปข้างหน้า ผมพยายามดันเกมให้สูงขึ้นกว่าเดิม และมันไม่ได้ผลแต่อย่างใด มันเป็นความผิดพลาดของผมเอง มันเป็นเรื่องหนักหนาเพราะมันคือ เอล กลาซิโก้ และการปราชัยต่อ บาร์เซโลน่า เป็นเรื่องน่าเจ็บปวด'
'เราต้องใจเย็น ฟื้นฟูนักเตะของเราที่บาดเจ็บ พวกเราเสียใจ แต่ต้องไม่ทำให้มันเป็นเรื่องดราม่า ทุกอย่างดำเนินไปอย่างผิดพลาด และผมบอกนักเตะไปว่ามันคือความผิดของผมเอง' อันเชล็อตติ ยืดอกรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตามการพ่ายแพ้แบบหมดสภาพทำให้เกิดประเด็นที่พูดถึงมากมายหลังเกมดังกล่าว แน่นอนว่า เรอัล มาดริด จะต้องมีการเปลี่ยนทั้งระยะสั้นและระยะยาวในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อผลงานใน 'เอล กลาซิโก้' ยกล่าสุด โดยมีหลายเรื่องที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้
คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องไปในช่วงซัมเมอร์นี้
เหตุใด อันเชล็อตติ ถึงต้องก้าวลงจากตำแหน่ง? นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจ หลัง 'อันเช่' ถูกดึงมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วในฐานะตัวเลือกที่ปลอดภัยสุด แต่ยังมีช่องว่างสำหรับทีมชุดขาวก่อนช่วงซัมเมอร์ปี 2022
งานของ อันเชล็อตติ คือการดึงศักยภาพสูงสุดออกมาจากนักเตะหนุ่มและค้นหาบทบาทบางอย่างจากผู้เล่นสำรอง ไม่ว่าจะเป็นการรื้อฟื้นอาชีพของพวกเขาในมาดริดหรือการเพิ่มมูลค่าในการย้ายทีมหากเกิดขึ้น
นอกจากการระเบิดฟอร์มเก่งของ วินิซิอุส จูเนียร์ส ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลและอาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฝึกสอนของเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน เขาล้มเหลวในการฟื้นฟูความสามารถของ เอแด็น อาซาร์, ลูก้า โยวิช, ดาเนียล เซบายอส, อีสโก้ อาลาร์กอน หรือ แกเร็ธ เบล ที่ยังคงไม่สามารถใช้ประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น
ขณะที่เด็กปั้นของสโมสรอย่าง มิเกล กูเตียร์เรซ, เซร์คิโอ อาร์รีบาส หรือ อันโตนิโอ บลังโก้ ไม่สามารถแจ้งเกิดอย่างที่คาดหวัง
ส่วนแข้งหนุ่มอย่าง เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ กับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า เป็นนักเตะอนาคตไกล แต่แทบจะไม่ประโยชน์ และในขณะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ระเบิดฟอร์ม แต่ โรดรีโก้ โกเอส กลับก้าวถอยหลังภายใต้การดูแลของ อันเชล็อตติ
นอกจากนี้การตัดสินใจเรื่องแท็คติกของ 'อันเช่' ยังดูแย่มาก ไม่แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างใดๆ เมื่อเทียบกับเทรนเนอร์ระดับท็อป เขายังต้องพึ่งพานักเตะชั้นนำของเขาในเกมใหญ่หลายครั้งในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเผชิญหน้ากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก
อันเชล็อตติ อาจไม่ใช่เทรนเนอร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ เรอัล มาดริด แต่เขาไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด เขายังมีความสามารถในการบริหารจัดการทีมในระดับหนึ่ง แต่เขายังไม่ใช่เทรนเนอร์ระดับสูงสำหรับเกมฟุตบอลสมัยใหม่
ตัวแทน ดาเนียล การ์บาฆาล ที่ไม่ใช่ ลูกัส บาซเกซ
บาซเกซ ไม่ใช่แบ็กขวาธรรมชาติ แม้ว่าเขาจะเล่นตำแหน่งดังกล่าวในระดับสูงมากในช่วงหนึ่งของฤดูกาล 2020-2021 ภายใต้การดูแลของ ซีเนดีน ซีดาน ก็ตาม แม้ บาซเกซ จะไม่ใช่คำตอบสำหรับตำแหน่งดังกล่าว แต่เขาเป็นแบ็คอัพที่มีประโยชน์อย่างยิ่งและสามารถตอบสนองความต้องการหลายบทบาทสำหรับตำแหน่งแบ็กขวาจำเป็น
ตัวเลือกแรกของตำแหน่งแบ็กขวาของ เรอัล มาดริด คือ ดาเนียล การ์บาฆาล ซึ่งได้ทุ่มเทให้กับสโมสรนี้และเล่นในระดับสูงมาเป็นเวลานาน แต่เขาอาจถึงจุดสิ้นสุดในฐานะแบ็กขวาตัวจริง หลังทำผลงานตกลงไปชัดเจน ซึ่งอาจมาจากวัยที่สูงขึ้น
การ์บาฆาล แสดงให้เห็นปัญหาในการรับมือกับ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ แต่พอเข้าใจได้ว่ากองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีพรสวรรค์พร้อมเล่นงานแนวรับคู่แข่งทุกราย ทว่าแบ็กขวามาดริดยังถูก เฟร์ราน ตอร์เรส แนวรุกทีมอาซูลกราน่าเล่นงานจนหัวหมุนด้วยเช่นกัน ทั้งที่เขาก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและมีประสบการณ์เหนือกว่าคู่แข่ง
อย่างไรก็ตามประสบการณ์ของ การ์บาฆาล ยังเป็นประโยชน์สำหรับ เรอัล มาดริด แต่เขาบาดเจ็บบ่อยเกินไป, ไม่คงเส้นคงวาและเชื่องช้าเกินกว่ามาดริดจะพึ่งพาเขาได้ แม้ว่า การ์บาฆาล จะเคยเป็นหนึ่งในแบ็กขวาดีที่สุดในเกมก็ตาม แต่มันอาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต
มันถึงเวลาที่ เรอัล มาดริด จะต้องเดินหนาและเซ็นสัญญากับแบ็กขวาคนใหม่ การดึง อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า กลับมาจาก ฟิออเรนติน่า หลังสิ้นสุดสัญญายืมตัวยังไม่เพียงพอ ทีมชุดขาวจำเป็นต้องเซ็นสัญญากับแบ็กขวาที่ดีพอสำหรับการเป็นตัวจริงเพื่อไล่ล่าโทรฟี่แชมเปี้ยนส์ลีก
การเซ็นสัญญากับ ออเรเลียง ชูอาเมนี่
โดยรวมแล้ว การ์ลอส กาเซมีโร่ ยังเป็นตัวจริงที่ดีสำหรับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลนี้ แต่ยุค 'KMC'กำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า แม้ว่า อันเชล็อตติ จะใช้งานทั้ง กาเซมีโร่, โมดริช, โครส เป็นกำลังสำคัญของทีมชุดขาวในฤดูกาลนี้ก็ตม แต่ฝ่ายบริหารสโมสรทราบดีว่าตอนนี้เป็นเวลาเตรียมตัวสำหรับอนาคต
ชัดเจนว่า เรอัล มาดริด มีสองมิดฟิลด์ในอนาคตทั้ง เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ และ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า พวกเขาต่างเคยเป็นผู้ชนะในเกมใหญ่มาแล้ว ซึ่งรวมถึงการเผชิญหน้ากับ อินเตอร์ มิลาน และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก
แต่คำถามคือ เรอัล มาดริด จะหาใครมาเป็นตัวแทนของ กาเซมีโร่? มิดฟิลด์ตัวรับที่สามารถปักหลักและเล่นเกมป้องกันที่ยอดเยี่ยมนั้นหายาก และทีมชุดขาวจำเป็นต้องหาใครสักคนที่สามารถรองรับบทบาทผู้เล่นหมายเลข 6 นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
มันเป็นเรื่องดีที่พวกเขาติดตามตัวเลือกในอุดมคติมาหลายปีแล้ว หลังมีข่าวเชื่อมโยงกับ ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เดแคลน ไรซ์, นิโคโล่ บาเรลล่า และผู้เล่นชั้นนำคนอื่นๆ แต่ ชูอาเมนี่ มิดฟิลด์วัย 22 ปีของ โมนาโก อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าคนอื่น
ชูอาเมนี่ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่สามารถทำสิ่งต่างๆได้มากกว่าผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันทำได้ แม้แต่ กาเซมีโร่ ซึ่งบางครั้งยังมีปัญหาในการครองบอล แต่นั่นเป็นจุดที่มิดฟิลด์โมนาโกทำได้ดีกว่าแข้งชาวบราซิเลียน
หาหน้าเป้านอกเหนือจาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
มีเสียงกระตุ้นดังขึ้นหลังเกม 'เอล กลาซิโก้' ว่า เรอัล มาดริด ควรจะลงทุนครั้งมโหฬารเพื่อเซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อดึงมาเป็นตัวแทนระยะยาวของ คาริม เบนเซม่า แต่มีความเป็นไปได้ว่าหัวอกทีมเสือเหลืองอาจจะเลือก แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก่อนทัพ 'โลส บลังโกส'
บางที เรอัล มาดริด ควรจะใช้ประโยชน์จากความสามารถของ เอแด็น อาซาร์, ลูก้า โยวิช, แกเร็ธ เบล, อีสโก้ อาลาร์กอน หรือนักเตะสำรองคนอื่นๆที่มีมูลค่ารวมกัน 350 ล้านยูโร แต่แนวรุกเหล่านี้อาจไม่ดีพอสำหรับสโมสรที่มีความทะเยอทะยานสูงอย่าง มาดริด
ดังนั้นทีมชุดขาวอาจต้องดึงกองหน้าตัวเป้าที่พร้อมเข้ามาเป็นอะไหล่ของ เบนเซม่า ตัวอย่างเช่น ราอูล เด โตมาส อดีตเด็กปั้นของสโมสรที่กำลังทำผลงานยอดเยี่ยมกับ เอสปันญ่อล ซึ่งกองหน้าวัย 27 ปีเหมาะสมและมีความสม่ำเสมอมากกว่า โยวิช
ขณะที่ตำแหน่งแนวรุกฝั่งขวาอาจต้องอัพเกรดเช่นเดียวกัน เนื่องจาก มาร์โก อาเซนซีโอ ยังขาดความคงเส้นคงวา ขณะที่ โรดรีโก้ โกเอส ยังไม่สามารถยืนระยะในฐานะตัวจริง นั่นทำให้ทีมชุดขาวมีข่าวกับสองแนวรุกทีมชาติบราซิลทั้ง ราฟินญ่า ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ อันโตนี่ ของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม
แน่นอนว่าหาก เรอัล มาดริด ไม่ทุ่มทุนครั้งมโหฬารเพื่อ ฮาแลนด์ พวกเขาสามารถนำเงินดังกล่าวไปอัพเกรดแนวรุกเพิ่มเติมด้วยผู้เล่นใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้อีกอย่างน้อย 2 คน
เปิดโอกาสให้ วัลเวร์เด้ ลงเล่นตัวจริง
'KMC' คือแผงมิดฟิลด์ที่แข็งแกร่งของ เรอัล มาดริด มาตั้งแต่ซีซั่น 2015-2016 พวกเขายังทำผลงานได้ดีและยังคงทำต่อไปเพื่อสโมสร แม้พวกเขายังคงเป็นสามมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกก็ตาม แต่ 'KMC' ไม่สามารถคงสถานะดังกล่าวได้ทุกสัปดาห์ด้วยวัยที่มากขึ้น
ขณะเดียวกันเกมที่ต้องใช้ร่างกายปะทะภายใต้การกดดันอาจไม่เหมาะกับจุดแข็งของ ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส ดังนั้นโอกาสดังกล่าวควรจะตกเป็นของ วัลเวร์เด้ ในการลงมาช่วยผ่อนภาระของ กาเซมีโร่
นั่นเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นที่ อันเชล็อตติ สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันทีหลังเกิดหายนะจากเกม 'เอล กลาซิโก้'
วัลเวร์เด้ สามารถเติมเต็มในส่วนของพลังงาน, ความสามารถในการเล่นเกมป้องกัน, การจ่ายบอล, การเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุก, การสร้างสรรค์เกม, การทำประตู และการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
ความสามารถรอบด้านของมิดฟิลด์ทีมชาติอุรุกวัยน่าจะช่วยจุดประกายเกมแดนกลางของมาดริดได้เป็นอย่างดีหากเขาได้โอกาสลงสนามแทน โมดริช หรือ โครส ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT