:::     :::

ความแตกต่างระหว่างสองยักษ์แห่งมิลาน

วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2560 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,540
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ นำอินเตอร์ออกสตาร์ตหรูด้วยการคว้าชัยชนะ 3 นัดรวดเทียบผลงานของ ยูเวนตุส กับ นาโปลี จนเป็นอีกหนึ่งม้ามืดที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้

อินเตอร์ มิลาน กับ เอซี มิลาน เป็นสองทีมที่ถูกจับตามองว่าจะทำผลงานในฤดูกาล 2017-18 ได้ดีเพียงใดหลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะทีมปีศาจแดงดำที่ทุ่มเงินเสริมทัพเฉียด 200 ล้านยูโรหรือราว 8,000 ล้านบาท

มิลาน ซึ่งได้กลุ่มทุนจากจีนเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรดึงนักเตะใหม่เข้าสังกัดมากถึง 11 คนเข้ามาเสริมทัพในช่วงหน้าร้อนมีมูลค่ารวมกันเกือบ 200 ล้านยูโร 

11 ผู้เล่นใหม่ของมิลานประกอบด้วย มาเตโอ มูซัคคิโอ (บียาร์เรอัล), ฟร้องค์ เกสซิเย่ (อตาลันต้า), ริคาร์โด้ โรดริเกซ (โวล์ฟสบวร์ก), อันเดร ซิลวา (ปอร์โต้), ฟาบิโอ บอรินี่ (ลิเวอร์พูล), ฮาคาน ชาลฮาโนกลู (เลเวอร์คูเซ่น), อันเดรีย คอนติ (อตาลันต้า), เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (ยูเวนตุส), ลูกัส บีญ่า (ลาซิโอ), นิโกล่า คาลินิช (ฟิออเรนติน่า) กับ อันโตนิโอ ดอนนารุมม่า (อาสเตราส)

เทรนเนอร์ของมิลานยังคงเป็น วินเชนโซ่ มอนเตลล่า ซึ่งกุมบังเหียนมาตั้งแต่ปี 2016 แม้อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลีเคยผ่านการคุมทีมอย่าง โรม่า, คาตาเนีย, ฟิออเรนติน่า กับ ซามพ์โดเรีย ทว่ายังไม่มีความสำเร็จการันตีฝีมือของเทรนเนอร์วัย 43 ปีนอกจากการนำทีมปีศาจแดงดำคว้าแชมป์ ซูเปอร์ คัพ เมื่อปีก่อนเท่านั้น 


สำหรับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งได้กลุ่มทุนจากจีนเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของสโมสรเช่นเดียวกัน แต่ฝ่ายบริหารทีมงูใหญ่เลือกปรับทัพเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น 

ทีมมะโรงอิตาเลียนจ่ายเงินเพียง 69 ล้านยูโรดึง มาตีอัส เวซีโน่ (ฟิออเรนติน่า), บอร์ฆา บาเลโร่ (ฟิออเรนติน่า), มิลาน สกรินย่าร์ (ซามพ์โดเรีย), ดัลเบิร์ต เอ็นรีเก้ (นีซ) ขณะที่ ดานิเอเล่ ปาเดลลี่ อดีตนายทวารโตริโน่ย้ายมาแบบไม่มีค่าตัว ส่วน ชูเอา กานเซโล่ ย้ายมาจากบาเลนเซียด้วยสัญญายืมตัวสลับ เจฟเฟร่ กอนด็อกเบีย กับ เฮยซอน มูรีโย่ ที่ย้ายสวนทางไปเล่นกับทีมค้างคาวด้วยสัญญายืมตัวเช่นเดียวกัน

แต่ อินเตอร์ มิลาน ประสบความสำเร็จในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจากการที่พวกเขาสามารถรั้งตัว อีวาน เปริซิช กับ อันโตนิโอ คานเดรว่า ซึ่งถูกตามจีบจาก แมนฯยูไนเต็ด กับ เชลซี ตามลำดับไว้กับทีมต่อไป


การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์ของทีมงูใหญ่คือการแต่งตั้ง ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ วัย 58 ปีที่หมดสัญญากับ โรม่า เข้ามาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่นั่นเอง 

สปัลเล็ตติ เป็นเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์โชกโชน เคยผ่านงานหลายสโมสรทั้ง เอ็มโปลี, ซามพ์โดเรีย, เวเนเซีย, อูดิเนเซ่, อันคอน่า, โรม่า, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ก่อนหวนกลับมาคุมทีมหมาป่าอีกครั้งจนกระทั่งย้ายมารับงานกับ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา 

ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เคยนำคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย กับ โรม่า 2 ครั้่ง (2006-07 กับ 2007-08) และ แชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์ คัพ (2007)

เทรนเนอร์วัย 58 ปียังนำ เซนิต คว้าแชมป์รัสเซีย พรีเมียร์ลีก 2 สมัน (2010 กับ 2012), แชมป์รัสเซียน คัพ (2009-10) กับ แชมป์รัสเซียน ซูเปอร์ คัพ (2011)

แน่นอนว่าดีกรีของสปัลเล็ตติดูดีมีระดับเหนือกว่ามอนเตลล่าชัดเจน..

มอนเตลล่าเริ่มต้นสวยด้วยการนำมิลานคว้าชัยชนะ 6 นัดรวด แต่เป็นการเอาชนะคู่แข่งไม่แข็งแกร่งนักอย่าง อูนิเวอร์ซิตาเตีย ไครโอว่า ของโรมาเนีย กับ ชเคนดีย่า ของมาซิโดเนียบนเวทียูโรปาลีกรอบคัดเลือกรอบ 3 กับรอบเพลย์ออฟ ส่วนชัยชนะอีก 2 นัดเกิดขึ้นบนเวทีกัลโช่เหนือ โครโตเน่ (3-0) กับ กายารี่ (2-1) จนกระทั่งมิลานสะดุดพ่ายครั้งแรกของซีซั่น หลังถูก ลาซิโอ ยิงสลุต 4-1 พร้อมการทำแฮตทริกของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

การพ่ายแพ้แบบหมดสภาพดังกล่าวกลายเป็นเครื่องหมายคำถามถึงทีมปีศาจแดงดำของมอนเตลล่าขึ้นมาทันทีว่ามีดีพอจะลุ้นแย่งความสำเร็จกับทีมอื่นในซีซั่นนี้หรือไม่!?!?


เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากชีวิตค้าแข้งกับ ยูเวนตุส 7 ปี ก่อนย้ายมาเล่นกับมิลานด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กองหลังวัย 30 ปีทำผลงานแย่มากในเกมล่าสุดจนถูกแฟนบอลและสื่อเมืองมะกะโรนีก่นยับหลังมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมปีศาจแดงดำพ่ายทีมอินทรีกรุงโรมแบบหมดสภาพ

'เราต้องเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ วันนี้เราจะเห็นว่าถ้าเราไม่ทุ่มเทเต็ม 100% เราสามารถถูกคู่แข่งลงโทษทันที ลาซิโอเล่นงานเราจากเกมสวนกลับเร็ว เราถูกท้าทายตั้งแต่ช่วงต้นเกมและไม่สามารถตอบสนองได้ดีพอ เราต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น'โบนุชชี่ยอมรับ 

'เราเป็นทีมใหม่ มันเป็นความรับผิดชอบของผมและเจ้านายกับผู้บริหารจะนำทีมชุดนี้ไปสู่ความสำเร็จ ทุกๆช่วงเวลาที่เราใช้ไปเป็นเรื่องสำคัญ พรุ่งนี้เราจะมีเวลาพอสมควรสำหรับทบทวนเกมการแข่งขันในวันนี้ ปัญหาส่วนใหญ่ของเราเป็นเรื่องสภาพจิตใจ มันจะช่วยให้เราดีขึ้นเพื่อกลับมาอีกครั้ง'

มิลาน มีโปรแกรมลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกนัดแรกด้วยการเยือน ออสเตรีย เวียนนา ในวันพฤหัสฯนี้ ซึ่งกองหลังวัย 30 ปีกล่าวถึงเกมดังกล่าวว่า'เราต้องลงสนามติดกันเมื่อลงเล่นยูโรปาลีก มันเป็นการแข่งขันที่หลายทีมไม่เคยลงเล่นมาก่อน เราจำเป็นจะต้องเล่นเกมรับให้รัดกุมยิ่งขึ้นและเล่นเกมรุกให้ดุดันกว่าเดิมด้วย'

ขณะที่ทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง อินเตอร์ มิลาน กำลังไปได้สวยหลังสปัลเล็ตตินำทีมเก็บชัยชนะ 3 นัดรวดเหนือ ฟิออเรนติน่า, โรม่า กับ สปาล โดยมี เมาโร อีการ์ดี้ กองหน้ากัปตันทีมเป็นกลจักรสำคัญหลังกด 5 ประตูนำเป็นดาวซัลโวกัลโช่ร่วมกับ เปาโล ดีบาล่า เพลย์เมกเกอร์ของยูเวนตุส

สปัลเล็ตติ นำทีมมะโรงอิตาเลียนนำเป็นจ่าฝูงร่วมกับ ยูเวนตุส และ นาโปลี หลังการคว้าชัยชนะ 100% ทั้งสามทีม 


แน่นอนว่ามันเป็นผลงานที่สร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคน หนึ่งในนั้นคือ เลโอนาร์โด้ อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิลและอดีตผู้อำนวยการของเปแอสเช

'ผมไม่ได้คาดหวังว่าอินเตอร์จะเป็นแบบนี้'เลโอนาร์โด้ กล่าวด้วยความประหลาดใจ 

'ผมคิดว่ายูเวนตุสยังเป็นทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่าทีมอื่น ผมไม่ได้คาดหวังว่าอินเตอร์จะเป็นแบบนี้ แต่พวกเขาเป็นทีมที่เล่นด้วยความจริงจังมากขึ้น'

'พวกเขาไม่ได้คว้าแชมป์รายการใดๆมาเป็นเวลานาน แต่พวกเขามีขุมกำลังแข็งแกร่ง นักเตะมีสภาพร่างกายดีอย่างที่สปัลเล็ตติต้องการ'

'พวกเขาเป็นทีมที่มีความมั่นคงและผมคิดว่าพวกเขาสามารถก้าวไปถึงเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ยกให้พวกเขาเป็นทีมเต็งก็ตาม'

'เปริซิชเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของอินเตอร์ ซึ่งทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน สำหรับผม เขาเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ที่เล่นอยู่ด้านข้าง เขามีจังหวะการเล่นที่น่าทึ่งมาก'

'เขาอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ตอนนี้เขาตระหนักว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นยอด ส่วนอีการ์ดี้ก็ยิงประตูได้ต่อเนื่อง แต่สำหรับผม เปริซิชเป็นนักเตะที่ไม่ธรรมดา'


อินเตอร์ มิลาน เป็นทีมที่มีนักเตะชั้นดีและขุมกำลังแข็งแกร่งมานานหลายปีเพียงแต่ว่าเทรนเนอร์ไม่สามารถดึงจุดเด่นของนักเตะออกมาใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพเท่านั้น 

สปัลเล็ตติเข้ามาปรับเพียงบางจุดโดยเฉพาะการดึง มิลาน สกรินย่าร์ กองหลังทีมชาติสโลวาเกียจาก ซามพ์โดเรีย เข้ามาช่วยให้เกมรับของทีมงูใหญ่เล่นแน่นอนมากขึ้น 

อีกจุดที่เห็นได้ชัดว่าพัฒนาขึ้นคือการเข้ามาของ บอร์ฆา บาเลโร่ ที่ช่วยคุมจังหวะเกมแดนกลางของอินเตอร์ให้นิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ขณะทื่องค์ประกอบเดิมมีพื้นฐานดีอยู่แล้วทำให้ทีมงูใหญ่ของ สปัลเล็ตติ ออกตัวในช่วงฤดูกาลใหม่ได้อย่างน่าประทับใจและมีโอกาสไม่น้อยที่จะลุ้นแย่งแชมป์กัลโช่ในฤดูกาลนี้ 

อินเตอร์ มิลาน ยังได้เปรียบสโมสรอื่นเนื่องจากไม่ต้องลงเล่นฟุตบอลยุโรปให้สิ้นเปลืองแรงเหมือน ยูเวนตุส, นาโปลี, โรม่า หรือ มิลาน 

ทีมมะโรงเมืองมะกะโรนีเคยคว้าแชมป์กัลโช่ 18 สมัย ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 2009-10 ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งนำต้นสังกัดฟาดทริปเปิลแชมป์ซีซั่นนั้น 

ตอนนี้สาวกอินเตอร์คงคาดหวังถึงการกลับมาคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับทีมของสปัลเล็ตติจะยืนระยะได้ดีเพียงใด 

แต่อย่างน้อยที่สุด อินเตอร์ มิลาน น่าจะมีโอกาสลุ้นแย่งแชมป์กัลโช่มากกว่าทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง มิลาน แน่นอน...


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด