:::     :::

แมตช์แห่งซีซั่น

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
3,078
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์ เรอัล มาดริด เพิ่งกระทุ้งแฮตทริคจากเกมล่าสุดพร้อมลงดวลความคมกับ เนย์มาร์ ดาวดังฝั่ง เปแอสเช บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีม

    หนึ่งในคู่ชนที่ดึงดูดความสนใจของคอลูกหนังมากที่สุดบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมคงหนีไม่พ้นการดวลกันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากเมืองน้ำหอม
   
    ทีมชุดขาวจะเปิดสังเวียน'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'รับมือ เปแอสเช ในวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนจะลงเล่นนัดสองที่'ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์'ในวันอังคารที่ 6 มีนาคม
       
    ถามว่าทีมใดมีโอกาสผ่านเข้ารอบมากกว่ากัน? มันเป็นไปได้ทั้งสองฝ่ายขึ้นอยู่กับเกม 180 นาทีว่าทีมใดจะทำได้ดีกว่ากัน
   
    เรอัล มาดริด คว้าแชมป์รายการนี้มากสุดในปฐพีถึง 12 สมัยและยังเป็นสโมสรแรกที่ฟาดแชมป์สองปีติดต่อกันด้วย ทว่าทีมชุดขาวของ ซีเนดีน ซีดาน ทำผลงานในซีซั่นนี้ต่ำกว่าระดับมาตรฐานจนแทบจะหมดโอกาสป้องกันแชมป์ลีกา รวมถึงการกระเด็นตกรอบควอเตอร์ไฟนัลของศึก โกปา เดล เรย์
   
    เด็กๆของซีดานเหลือลุ้นความสำเร็จเดียวคือการเดินหน้าป้องแชมป์ยุโรปเท่านั้น


   
    ขณะที่ เปแอสเช โชว์ฟอร์มกระฉูดมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ยอดทีมเมืองน้ำหอมทำสถิติกระทุ้ง 25 ประตูจากการลงเล่น 6 นัดเหนือกว่าทุกสโมสรจนถูกบ่อนหลายสำนักยกเป็นเต็ง 2 ที่มีโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้โดยเป็นรองเฉพาะ แมนฯซิตี้ ของกวาร์ดิโอล่าเท่านั้น
   
    ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีแนวรุกระดับแนวหน้าของลีกยุโรป ทั้ง เนย์มาร์, เอดินสัน กาวานี, คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ หรือ อังเคล ดิ มาเรีย มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าแนวรุกของ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนฯซิตี้ หรือ บาเยิร์น มิวนิค 
   
    แนวรุกเปแอสเชไล่กระทุ้งคู่แข่งเป็นว่าเล่นจนยิงรวมกันถึง 124 ประตูจากผลงานของ เนย์มาร์ แข้งค่าตัวแพงสุดของโลก 28 ประตูเท่า กาวานี ขณะที่ เอ็มบั๊ปเป้ กับ ดิ มาเรีย ช่วยกระทุ้งคนละ 15 กับ 14 ประตูตามลำดับ


   
    ส่วน เรอัล มาดริด เพิ่งยิงรวมกันเพียง 88 ประตู ดาวซัลโวตัวท็อปอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดรวมกัน 23 ประตู, แกเร็ธ เบล เพิ่งยิงเพียง 9 ประตู แต่ คาริม เบนเซม่า ทำผลงานแย่กว่ายิงแค่ 6 ประตูเท่านั้น
       
    ทีมชุดขาวทำผลงานในซีซั่นนี้ขาดความคงเส้นคงวา ยกตัวอย่างการลงเล่น 5 เกมหลังสุดจะมองเห็นภาพชัดเจน เริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านยิงสลุต เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 7-1 ก่อนพลิกพ่าย เลกาเนส คารัง 1-2 จนกระเด็นตกรอบโกปาแบบเหนือความคาดหมาย
   
    จากนั้นทีมของซีดานบุกขย่ม บาเลนเซีย พ่ายคาถิ่นเมสตาย่า 1-4 ก่อนพลาดในช่วงท้ายเกมถูก เลบันเต้ ไล่ตามตีเสมอ 2-2 ล่าสุดทีมชุดขาวเปิดรังกระทุ้ง เรอัล โซเซียดาด 5-2 จากการทำแฮตทริคของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เติมความมั่นใจก่อนลงทำศึกแห่งซีซั่นกับ เปแอสเช
   
    สวนทางกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่่คว้าชัยจากการลงเล่นทุกรายการตลอด 6 เกมหลังและชนะถึง 14 จาก 15 นัดล่าสุด โดยพ่าย ลียง 1-2 เพียงครั้งเดียวเท่านั้น


   
    อย่างไรก็ตาม เปแอสเช ของ อูไน เอเมรี มีความทรงจำเลวร้ายในรายการนี้ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังถูกทีมอาซูลกราน่าสอยตกรอบ 16 ทีมจากการพ่ายด้วยสกอร์รวม 5-6 ทั้งที่เป็นฝ่ายคว้าชัยก่อนในเกมแรก 4-0 แต่กลับพ่ายยับที่'คัมป์ นู'1-6
   
    การเผชิญหน้ากันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นการดวลกันระหว่างทีมที่มีประสบการณ์ในรายการนี้โชกโชนกับทีมฟอร์มสดที่พร้อมสยบทุกทีมที่ขวางหน้า
       
    คนที่มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับทีมชุดขาวอย่าง จุ๊ปป์ ไฮนย์เกส เทรนเนอร์ทีมเสือใต้คนปัจจุบัน รวมถึง เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษซึ่งเคยค้าแข้งกับทั้งสองสโมสรต่างมองมุมเดียวกันว่า เรอัล มาดริด จะใช้ความเจนจัดบนเวทียุโรปเขี่ย เปแอสเช พ้นเส้นทาง
   
    แต่ทั้งนี้ทั้งขึ้นมันก็ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วง 180 นาทีทั้งที่ 'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' กับ 'ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์'ว่าฝ่ายใดจะทำได้ดีกว่ากัน
       
    การตัดสินหาผู้ชนะของคู่นี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับศักยภาพทีม, ฟอร์มการเล่นและกึ๋นของเทรนเนอร์ทั้งสองฝ่ายแล้ว เรื่องสงครามจิตวิทยาก็มีผลเช่นเดียวกันโดยเฉพาะประเด็นของ เนย์มาร์ ที่กำลังตกเป็นเป้าสนใจของ เรอัล มาดริด


   
    เนย์มาร์ มีข่าวนัวเนียกับทีมชุดขาวมาโดยตลอดหลังสื่อเมืองกระทิงนำเสนอว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ต้องการดึงซุปตาร์บราซิเลียนเข้ามาเป็นเสาหลักคนต่อไปของ'กาลาคติกอสยุคใหม่' ก่อนกระแสข่าวจะซาลงไปหลัง นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานเปแอสเชออกมายืนยันว่าไม่มีวันปล่อยเนย์มาร์ออกจากทีม
       
    แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในวงการลูกหนังเหมือนตอนที่ เนย์มาร์ ตัดใจลาทีมอาซูลกราน่าเพื่อมาค้าแข้งกับ เปแอสเช ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา
   
    กระแสการย้ายมาค้าแข้งกับทีมชุดขาวของ เนย์มาร์ ถูกจุดขึ้นอีกครั้งก่อนหน้าแมตช์แห่งปีระหว่าง เรอัล มาดริด กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำสงครามจิตวิทยาสร้างความสับสนให้คู่แข่งโดยเฉพาะแข้งตัวท็อปอย่างเนย์มาร์
       
    'ผมคิดว่าเนย์มาร์จะมาเล่นกับ เรอัล มาดริด สักวันหนึ่ง' มาร์เซโล่ แบ็กซ้ายทีมชาติบราซิลซึ่งมีความสนิทสนมกับซุปตาร์เปแอสเชกล่าวถึงเพื่อนร่วมชาติที่กำลังจะเผชิญหน้ากันบนเวทียุโรป
   
    'เนย์มาร์จะเหมาะสมกับ เรอัล มาดริด หรือไม่? แน่นอน ผมมั่นใจ มันจะยอดเยี่ยมมากหากเขาย้ายมาที่นี่ ในความเห็นของผม นักเตะระดับท็อปจะต้องมาเล่นกับสโมสรนี้'
   
    ส่วน ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังชาวบราซิเลียนของ เปแอสเช ยอมรับว่าไม่สามารถพูดได้แบบเต็มปากเต็มคำทำได้แค่หวังว่าเนย์มาร์จะอยู่กับทีมต่อไปยาวนานเท่านั้น
   
    'ผมไม่ทราบ ผมไม่สามารถพูดถึงเรื่องนี้ได้'กัปตันทีมเปแอสเชกล่าวถึงกระแสข่าวการย้ายซบทีมชุดขาวของซุปตาร์ร่วมชาติ
   
    'บางครั้งสื่อก็พูดจริงและบางครั้งก็ไม่ แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถพูดได้ ผมหวังว่าเนย์มาร์จะอยู่กับทีมต่อไปนานๆ เขายังมีสิ่งที่ต้องทำกับทีม เขาจะเป็นนักเตะที่ช่วยเปแอสเชพัฒนามากขึ้น'
   
    ก่อนจะกล่าวถึงการเผชิญหน้ากับเจ้าของแชมป์ยุโรปสองสมัยล่าสุดว่า'มันจะเป็นเกมระดับสูง มันต้องใช้สมาธิสูง คุณไม่ควรพูดมาก แต่ต้องลงสนามและทำผลงานออกมาให้ดีเท่านั้น'


   
    เรอัล มาดริด เรียกฟอร์มเก่งกลับมาถูกที่ถูกเวลาหลังเปิดรังเบร์นาเบวทุบ เรอัล โซเซียดาด 5-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจากการทำแฮตทริคของ โรนัลโด้
   
    'เราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งแต่นาทีแรก ครองบอล ไล่บีบพื้นที่คู่แข่งเพื่อแย่งบอลกลับคืนมา'เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมชุดขาวกล่าวถึงเกมขย่มทีมเยือนจากแคว้นบาสก์
   
    'จากนั้นเราจัดการยิงประตู เราผ่อนเกมลงในช่วงครึ่งหลัง? ผมคงโกหกหากบอกว่าเราไม่ได้คิดถึงเกมกับ เปแอสเช เราทราบดีว่าจะต้องเล่นกันอย่างไร เป้าหมายของเราคือเสริมสร้างความมั่นใจและเราทำสำเร็จ'
   
    เรอัล มาดริด เคยดวลกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มช่วงฤดูกาล 2015-16 เกมแรกที่'ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์'เสมอ 0-0 ก่อนทีมชุดขาวจะเปิดบ้านเชือดนิ่ม 1-0 จากการทำประตูโทนของ นาโช่ เฟร์นานเดซ ก่อนหมดครึ่งแรก 10 นาที
   
    ก่อนหน้านั้นเคยพบกับในรอบ 8 ทีมของศึก คัพวินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1993-94 ซึ่ง เปแอสเช คว้าชัยด้วยสกอร์รวม 2-1 หลังบุกทุบ เรอัล มาดริด ถึงเบร์นาเบว 1-0 จากประตูชัยของ จอร์จ เวอาห์ ส่วนเกมสองเสมอ 1-1 หลัง เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ซัดให้ทีมชุดขาวขึ้นนำก่อนช่วงกลางครึ่งแรก แต่ ริคาร์โด้ ตีเสมอช่วงต้นครึ่งหลัง
   
    ส่วนการดวลกันบนเวที ยูฟ่า คัพ รอบควอเตอร์ไฟนัลฤดูกาล 1992-93 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เบียดเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4 หลังพ่ายที่เบร์นาเบว 1-3 แต่ทีมดังเมืองน้ำหอมเอาคืนได้ในการเล่นที่'ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์'4-1


   
    เรอัล มาดริด จะส่งแนวรุก'BBC'แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดวลคมกับสามพระกาฬเปแอสเช เนย์มาร์, เอดินสัน กาวานี, คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ฝ่ายใดจะเฉียบคมกว่าและนำต้นสังกัดทะยานเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนัล...


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด