โครงการปรับโฉม'คัมป์ นู'

ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สมาชิกสโมสรบาร์เซโลน่า (โซซีโอ) ลงคะแนนโหวตอย่างท่วมท้นเพื่อสนับสนุนข้อเสนอการระดมเงินทุนสำหรับโครงการ 'เอสปาย บาร์ซ่า' ที่หลากหลายของสโมสร ซึ่งรวมถึงโครงการรีโนเวทสังเวียน 'คัมป์ นู' 

จากการลงประชามติออนไลน์เกี่ยวกับข้อเสนอการระดมทุนพบว่ามีโซซีโอ 87.8 เปอร์เซ็นต์ที่สนับสนุนโครงการของ 'เอสปาย บาร์ซ่า' โดยมีเพียง 10.4 เปอร์เซ็นต์ที่คัดค้าน และอีก 1.8 เปอร์เซ็นต์ไม่ลงคะแนน จากสมาชิกทั้งหมด 48,623 คนที่มีส่วนร่วมในการลงประชามติ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของสโมสร บาร์เซโลน่า

การลงประชามติให้สัตยาบันอนุมัติให้คณะกรรมการบริหารของ บาร์เซโลน่า ดำเนินการใดๆที่เห็นว่าจำเป็นหรือสะดวกเพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับสนับสนุน 'เอสปาย บาร์ซ่า' ที่จะใช้งบดำเนินการโครงการสูงกว่า 1.5 พันล้านยูโร 

โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรบาร์เซโลน่ากล่าวถึงโครงการ 'เอสปาย บาร์ซ่า' ซึ่งจะมีหน้าที่รับผิดชอบปรับปรุงและเนรมิตรโฉมใหม่ของ 'คัมป์ นู' ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้ หลังแผนงานมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเนื่องจากสงครามยูเครน 

'งานจะเริ่มต้นในซัมเมอร์นี้ที่ คัมป์ นู มันเป็นโครงการที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เราต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับ เอสปาย บาร์ซ่า เนื่องจากสงครามยูเครนทำให้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น' ลาปอร์ต้า เผย

บาร์เซโลน่า จะเริ่มต้นปรับปรุง 'คัมป์ นู' บางส่วนตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนนี้ และโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าเต็มสูบในช่วงซัมเมอร์ปีถัดไป นั่นหมายความว่าทีมอาซูลกราน่าจะต้องย้ายสังเวียนเหย้าไปที่สนามอื่น ซึ่งพวกเขาเลือก 'โอลิมปิก เด มอนต์ตูอิค' ของนครบาร์เซโลน่าเป็นสังเวียนแข่งในซีซั่น 2023-2024 ก่อนจะหวนคืน 'คัมป์ นู' ในฤดูกาล 2024-2025 

'ฤดูกาลหน้า, แฟนๆ 100 เปอร์เซ็นต์ จะเข้ามาชมเกมในสนามได้ ในซีซั่น 2023-2024 จะเป็นสนามในมอนต์จูอิค และในฤดูกาล 2024-2025 จะกลับมาที่ คัมป์ นู'

'เรามีเงินทุนอยู่แล้วสำหรับการเริ่มต้นของ เอสปาย บาร์ซ่า และการทำงานทั้งในและรอบสนามในฤดูกาลหน้า เราจะจ่ายคืนให้ เอสปาย บาร์ซ่า ด้วยรายได้เพิ่มเติมที่โครงการนี้จะนำมาให้' ลาปอร์ต้า เผย

ล่าสุด บาร์เซโลน่า ได้บรรลุข้อตกลงในหลักการสำหรับการย้ายบ้านชั่วคราวจาก 'คัมป์ นู' สู่ 'เอสตาดี้ โอลิมปิก ยูอีส กอมปานีส์' ของนครบาร์เซโลน่า ซึ่งเคยเป็นสังเวียนเหย้าของ เอสปันญ่อล ก่อนหน้านี้ สำหรับการใช้งานในฤดูกาล 2023-2024

สังเวียนดังกล่าวสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1929 โดยใช้ชื่อ 'เอสตาดิโอ เด มอนต์จูอิค' ก่อนมีการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อมาเป็น 'เอสตาดี้ โอลิมปิก ยูอีส กอมปานีส์' เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่ บาร์เซโลน่า เป็นเจ้าภาพในปี 1992 และ เอสปันญ่อล มาเช่าเป็นสนามเหย้าในช่วงปี 1997-2009

'เอสตาดี้ โอลิมปิก ยูอีส กอมปานีส์' มีความจุไม่เกิน 55,000 คน และ บาร์เซโลน่า ไม่มีแผนที่จะขยายความจุเพิ่มเติม นั่นหมายความว่าสมาชิกสโมสรบางส่วนอาจยกเลิกตั๋วฤดูกาล 2023-2024 ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของทีมอาซูลกราน่าจึงเชื่อว่าความจุของสนามดังกล่าวน่าจะพอเพียงต่อการรองรับแฟนบอลในซีซั่นนั้น

บาร์เซโลน่า ยืนยันตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะใช้ 'เอสตาดี้ โอลิมปิก ยูอีส กอมปานีส์' เป็นสังเวียนเหย้าในซีซั่น 2023-2024 เนื่องจาก 'คัมป์ นู' ปรับโหมดเข้าสู่การปรับปรุงสนามครั้งใหญ่ 

จนกระทั่งทีมอาซูลกราน่าบรรลุข้อตกลงในหลักการกับสภาเมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นเจ้าของสนาม 'เอสตาดี้ โอลิมปิก ยูอีส กอมปานีส์' โดยเหลือเพียงการลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการเท่านั้น 

การปรับปรุง 'คัมป์ นู' เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 'เอสปาย บาร์ซ่า' ที่หลากหลายตามที่กล่าวไว้ข้างต้น งานปรับปรุงสนามจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนนี้ หลังคณะกรรมการปกครองของสภาเมืองบาร์เซโลน่าอนุมัติใบอนุญาตสำหรับการขยายความจุเพิ่มขึ้นเป็น 105,000 คน

บาร์เซโลน่า วางแผนจะกลับมา 'คัมป์ นู' ในซีซั่น 2024-2025 โดยจำกัดความจุไว้ที่ 66,000 คนสำหรับที่นั่ง 2 ชั้นแรก โดยสโมสรวางแผนจะเล่นเกมเยือนตลอด 3 นัดแรกของซีซั่นดังกล่าวเพื่อขยายเวลาเพิ่มเติมสำหรับงานก่อสร้าง

ส่วนที่นั่งชั้น 3 จะปิดให้บริการในซีซั่น 2025-2026 เนื่องจากจะมีการยกหลังคาสนามทั้งหมดในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2026 หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น โครงนี้จะเสร็จสิ้นในวันที่ 24 กันยายน 2026 และจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในฤดูกาล 2026-2027 

สำหรับ 'คัมป์ นู' ใช้เวลาก่อสร้างในช่วงปี 1954-1957 เคยรีโนเวทมาแล้ว 3 ครั้งในปี 1995, 2008 และ 2018 แม้สโมสรจะเผชิญปัญหาทางการเงินและมีหนี้สินมหาศาลกว่า 1,500 ล้านยูโรก็ตาม 

พวกเขาจำเป็นต้องปรับปรุงสังเวียน 'คัมป์ นู' ให้มีความทันสมัย, เพิ่มความจุ, สิ่งอำนวยความสะดวกและเพิ่มพื้นที่รองรับกิจกรรมต่างๆที่นอกเหนือจากฟุตบอล ซึ่งบริษัท 'เอสปาย บาร์ซ่า' จะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการดังกล่าวที่มีมูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านยูโร ซึ่งเป็นเงินคนละส่วนกับหนี้สินของสโมสร หลัง เรอัล มาดริด กำลังปรับโฉม 'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วนั่นเอง

บาร์เซโลน่า ยังนำแนวคิดเก่ามานำเสนอใหม่ โดยจะเปิดโอกาสให้แฟนบาร์ซ่าได้โอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการสวมบทบาทเหมือนไอดอลของพวกเขาด้วยการลงวาดลวดลายบนสนาม 'คัมป์ นู' ในเวลาหนึ่งวันด้วยสนนราคาคนละ 300 ยูโร

เกมดังกล่าวถูกจัดขึ้นในวันที่ 6 กับ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา และมีการแข่งขันเพียง 4 เกม แต่ละทีมจะมีผู้เล่น 18 คน แม้โครงการดังกล่าวจะไม่เพียงพอต่อการระดมทุนเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินหรือการปรับปรุงสนาม 'คัมป์ นู' ก็ตาม แต่ยังถือเป็นการหารายได้เสริมระหว่างที่สนามยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรและยังทำให้สโมสรมีความใกล้ชิดกับแฟนบอลมากขึ้นด้วย

'ผู้สมัครทุกคนสามารถนำคนมาเชียร์ญาติหรือเพื่อนๆของพวกเขาได้มากถึง 15 คนบนอัฒจันทร์ ตั๋วเหล่านี้มีราคา 30 ยูโรและรวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของ บาร์ซ่า นักเตะแต่ละคนจะได้รับตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของ บาร์ซ่า ด้วยเช่นกัน'

'กิจกรรมพิเศษนี้มีจำกัด เนื่องจากจะมีการแข่งขันเพียง 4 เกมในวันที่ 6 และ 11 มิถุนายน ผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะพบกันที่ คัมป์ นู และพวกเขาจะเดินทางไปในพื้นที่ที่พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้สำหรับการแข่งขัน พร้อมกับห้องอาบน้ำในห้องแต่งตัวหลังการแข่งขัน' 

'กลุ่มนักเตะจะเข้าสู่สนามเหมือนนักเตะอาชีพและจะมีเวลา 15 นาทีในการอบอุ่นร่างกายเองในสนาม ประสบการณ์นี้จะการันตีอย่างน้อย 40 นาทีต่อนักเตะแต่ละคนและรวมการรักษาพยายามในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จะมีโค้ชและผู้ตัดสินเพื่อทำให้แน่ใจว่ากิจกรรมนี้สะท้อนการแข่งขันจริงมากที่สุด' ทีมอาซูลกราน่าระบุถึงกิจกรรมดังกล่าว

บาร์เซโลน่า ยังสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดโอกาสให้คู่รักสามารถเช่าสนามกีฬาเพื่อจัดวันพิเศษสำหรับพวกเขาด้วยแพ็คเกจที่แตกต่างกันด้วย สนนราคาถูกสุดจะเริ่มต้นที่ 1,600 ยูโร เหมาะสำหรับการแต่งงานขนาดเล็กที่มีแขกประมาณ 25-50 คน ส่วนเรตแพงสุดคือ 13,500 ยูโรที่สามารถรองรับแขกเหรื่อระหว่าง 300-1,000 คน

ลาปอร์ต้า และทีมงานของเขาพยายามทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้เก็บเล็กผสมน้อยเพื่อฟื้นฟูสถานะทางการเงินของสโมสรกลับมาสู่ภาวะปกติเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้