ความแตกต่าง
'ถ้าเราเอาเมสซี่มาสวมเสื้อ แอตเลติโก พวกเราคงเป็นฝ่ายชนะ 1-0 เขาเป็นนักเตะพิเศษ เขาเป็นคนสร้างความแตกต่าง'ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ทีมตราหมีกล่าวถึง ลิโอเนล เมสซี่ หลังเกมการปราชัยบนสังเวียน'คัมป์ นู'เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้ทีมของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ตามหลัง บาร์เซโลน่า ถึง 8 แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรงลงเล่นอีกเพียง 11 เกม
แอตเลติโก มาดริด ยังมีสถิติมาเยือน'คัมป์ นู'ย่ำแย่ ทีมตราหมีเคยบุกมาเอาชนะทีมอาซูลกราน่าครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2006
ชัยชนะครั้งล่าสุด ณ 'คัมป์ นู'ของ ทีมตราหมีเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เมื่อ 12 ปีก่อน หลัง เปเป้ มูร์เซีย สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการนำทีมบุกทุบทัพอาซูลกราน่า 3-1 จากการเหมาสองประตูของ เฟร์นานโด ตอร์เรส บวกอีกหนึ่งจาก มักซี่ โรดริเกซ ส่วนบาร์ซ่าตีไข่แตกจาก เฮนริค ลาร์สสัน
ตอร์เรสยิงให้ทีมตราหมีออกนำนาที 32 ก่อน มักซี่ โรดริเกซ จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 นาที 46 แม้ ลาร์สสัน จะพังประตูไล่มาเป็น 1-2 นาที 64 แต่'เอล นินโญ่'ซัดเบิ้ลช่วงนาที 75 ช่วยทีมเยือนบุกมาคว้าชัยแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 3-1
มันเป็นผลงานที่น่าเซอร์ไพรส์ของทีมตราหมี ส่วนหนึ่งมาจากทีมของ เปเป้ มูร์เซีย เล่นกันด้วยความมั่นใจ ขณะเดียวกันทีมของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด ขาดทั้ง โรนัลดินโญ่ ซึ่งติดโทษพักแข้ง ส่วน ซามูแอล เอโต้ บาดเจ็บจนชวดลงสนาม อีกทั้ง เมสซี่ ยังถูกเปลี่ยนตัวออกระหว่างพักครึ่งเพราะมีอาการเจ็บด้วยเช่นกัน
หลังจากวันนั้นมาจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอตเลติโก มาดริด มาเยือน'คัมป์ นู'รวมกัน 18 ครั้งจากการลงเล่นทุกรายการทั้ง ลีกา, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ พวกเขาไม่เคยบุกมาคว้าชัยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเกมลงเอยด้วยการเสมอ 6 ครั้ง
หนึ่งในนั้นคือเกมบุกเสมอ 1-1 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2013-14 จากการโหม่งประตูตีเสมอของ ดีเอโก้ โกดิน ช่วยให้ทีมตราหมีของซิเมโอเน่บุกมาปล้นแชมป์ลีกาไปจากทีมอาซูลกราน่าของ เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ หรือ 'เอล ตาต้า' ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงครั้งแรกในรอบ 18 ปีของ แอตเลติโก มาดริด
หากนับเฉพาะผลงานยุคซิเมโอเน่ ทีมตราหมีของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์มาเยือน'คัมป์ นู'11 ครั้ง ทำสถิติแพ้ 6 เสมอ 5 หลังถูกเจิมด้วยการปราชัย 1-4 เมื่อปี 2012
ทีมตราหมีของซิเมโอเน่ยังไม่สยบทัพอาซูลกราน่าบนเวทีลีกาแม้แต่ครั้งเดียวไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่'บีเซนเต้ กัลเดรอน'หรือ'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'ก็ตาม นับจนถึงเกมล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอตเลติโก มาดริด ดวลกับ บาร์เซโลน่า บนเวทีลีกา 13 ครั้ง เจ๊ง 9 ครั้ง เสมอ 4 หน
สถิติการมาเยือน'คัมป์ นู'ของ แอตเลติโก มาดริด ยุคซิเมโอเน่
วันที่ 4 มีนาคม 2018 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2017 โกปา เดล เรย์ บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
วันที่ 21 กันยายน 2016 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
วันที่ 5 เมษายน 2016 แชมเปี้ยนส์ลีก บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1
วันที่ 30 มกราคม 2016 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1
วันที่ 21 มกราคม 2015 โกปา เดล เรย์ บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0
วันที่ 11 มกราคม 2015 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-1
วันที่ 17 พฤษภาคม 2014 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
วันที่ 1 เมษายน 2014 แชมเปี้ยนส์ลีก บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
วันที่ 28 สิงหาคม 2013 ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 0-0
วันที่ 16 ธันวาคม 2012 ลา ลีกา บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-1
ความแตกต่างระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคือนักเตะที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่
เมสซี่ ทำประตูที่ 600 ในอาชีพนักเตะ ซึ่งเป็นผลงานกับทีมอาซูลกราน่า 539 ประตู อีก 61 ประตูมาจากการยิงให้ทัพฟ้าขาว นับตั้งแต่ยิงเบิกร่องในเกมชนะ อัลบาเซเต้ 2-0 ที่'คัมป์ นู'เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2005 จากการถวายพานของ โรนัลดินโญ่ ผ่านมาอีก 13 ปี กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กดครบ 600 ประตู
นั่นคือประตูที่ 32 ในซีซั่นนี้ของซุปตาร์อาร์เจนไตน์ ซึ่งเป็นผลงานบนเวทีลีกา 24 ประตู, แชมเปี้ยนส์ลีก 4 ประตู, โกปา เดล เรย์ 3 ประตู และหนึ่งประตูบนเวที ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า
ประตูล่าสุดยังเป็นการกระทุ้ง แอตเลติโก มาดริด รวมกัน 28 ครั้งเหนือกว่าทุกทีมที่เมสซี่เคยเผชิญหน้ามาด้วย
ขณะที่ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ แอตเลติโก มาดริด ยังรักษาสถิติยิงประตูบาร์เซโลน่าไม่ได้ต่อไป
กรีซมันน์ ทำผลงานในปี 2018 สุดร้อนแรงด้วยการยิง 13 ประตูเทียบเท่า หลุยส์ ซัวเรซ หลังกองหน้าชาวฝรั่งเศสกด 7 ประตู จากการทำแฮตทริคในเกมบุกกะซวก เซบีย่า 5-2 ก่อนเหมาคนเดียว 4 เม็ดในแมตช์เปิดบ้านทุบ เลกาเนส 4-0 แต่กลับไร้พิษสงในการเยือน'คัมป์ นู'
มันเป็นสถิติที่ไม่น่าจดจำสำหรับ กรีซมันน์ ในการมาเยือน'คัมป์ นู'12 ครั้ง ปรากฎว่าเขายิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว ขณะที่ต้นสังกัดของดาวยิงชาวฝรั่งเศสทำสถิติแพ้ 10 เสมอ 2 ทั้งการเล่นกับทีมเก่า เรอัล โซเซียดาด และต้นสังกัดปัจจุบัน แอตเลติโก มาดริด
สถิติการมาเยือน'คัมป์ นู'12 ครั้งของ กรีซมันน์
5 นัดกับ เรอัล โซเซียดาด
ลา ลีกา 2010-11 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 5-0
ลา ลีกา 2011-12 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-1
ลา ลีกา 2012-13 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 5-1
ลา ลีกา 2013-14 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 4-1
โกปา เดล เรย์ 2013-14 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-0
7 นัดกับ แอตเลติโก มาดริด
ลา ลีกา 2014-15 บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-1
โกปา เดล เรย์ 2014-15 บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0
ลา ลีกา 2015-16 บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1
แชมเปี้ยนส์ลีก 2015-16 บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1
ลา ลีกา 2016-17 บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
โกปา เดล เรย์ 2016-17 บาร์เซโลน่า เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
ลา ลีกา 2017-18 บาร์เซโลน่า ชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0
ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะพิเศษที่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้ตามเสียงยกย่องของซิเมโอเน่ หลังกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ซัดฟรีคิกสุดสวยเป็นประตูชัยของทัพอาซูลกราน่า
นั่นคือการทำประตูจากการยิงฟรีคิก 3 เกมติดต่อกันของ เมสซี่ หลังกดมาแล้วในเกมขย่ม คีโรน่า 6-1 ต่อด้วยเกมเสมอ ลาส ปัลมาส 1-1
มันยังเป็นการยิงฟรีคิกลูกที่ 5 ในซีซั่นนี้ของ เมสซี่ เหลืออีกเพียงลูกเดียวจะทำผลงานเทียบเท่า โรนัลดินโญ่ ซึ่งเคยกดประตูจากการยิงฟรีคิก 6 ครั้งในฤดูกาล 2006-07
เมสซี่ ยังทำประตูจากการยิงฟรีคิกมากสุดของลีกา 23 ครั้งเหนือกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ เรอัล มาดริด ที่ยิง 19 ครั้งตามมาด้วย โรแบร์โต้ การ์ลอส (16), โรนัลดินโญ่ (15) กับ ดูด้า มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสของมาลาก้า (12 ครั้ง)
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์เซโลน่ารู้สึกปลาบปลื้มกับเก็บ 3 แต้มจากคู่ปรับที่เล่นด้วยยากอย่าง แอตเลติโก มาดริด ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่จะต่อยอดไปสู่การคว้าแชมป์ลีกาในอนาคต
'ในความรู้สึกแล้วมันเป็นการคว้าชัยชนะสุดสำคัญ'บัลเบร์เด้กล่าว
'มันเป็นเกมที่คู่คี่สูสีและน่าอึดอัดมาก แต่ผมคิดว่าลูกทีมสามารถรับมือได้ดี เรารู้ดีว่าเกมจะออกมาลักษณะนี้และทีมสามารถตอบสนองมันได้อย่างดี'
'เหนือสิ่งอื่นใด ผมภูมิใจกับวิธีการเล่นของเรา ในเกมแบบนี้เราสามารถตอบสนองด้วยการเล่นที่ยอดเยี่ยม'
'มันเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะพวกเขาซึ่งเล่นเกมรับได้ดี แต่เราจะเดินหน้าไปทีละเล็กละน้อย ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราต้องการ'เทรนเนอร์บาร์ซ่ากล่าวทิ้งท้าย
บาร์เซโลน่า ฉีกหนี แอตเลติโก มาดริด เพิ่มเป็น 8 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมลงสนามอีก 11 เกม แต่แชมป์ลีกาซีซั่นนี้ยังไม่ถูกตัดสินตามมุมมองของ จอร์ดี้ อัลบา แบ็กซ้ายทีมชาติสเปนของทัพอาซูลกราน่า
'มัน (แชมป์ลีกา)ยังไม่ถูกตัดสิน แต่ชัยชนะนี้มีความสำคัญต่ออันดับคะแนนในตาราง'
'ช่วงครึ่งหลังพวกเขากดดันเรามากขึ้นและถ้าหากเราไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ความแตกต่างระหว่างคะแนนจะไม่เกิดขึ้น'
แม้โอกาสลุ้นแย่งแชมป์ลีกาจะลดน้อยลงหลังการปราชัยที่'คัมป์ นู' แต่ ซาอูล ญีเกซ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนของ แอตเลติโก มาดริด ยืนยันว่าพลพรรคตราหมียังไม่ถอดใจพร้อมจะเดินหน้าสู้ต่อจนในอีก 11 เกมที่เหลือถึงวันสุดท้าย
'เราจะดูกันไปแบบนัดต่อนัด จะสู้กับทุกเกมที่เหลือจนกว่าการลุ้นแย่งแชมป์ลีกาจะจบและมารอดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราไม่ได้ต้องการพึ่งพาใครนอกจากตัวเอง ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง แต่ตอนนี้เราต้องคิดถึงยูโรปาลีก'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT