ต้นเหตุความล้มเหลวกับบาร์ซ่าของชีกรินสกี้
เมื่อมีคนพูดถึงหนึ่งในการเซ็นสัญญาเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของ บาร์เซโลน่า ย่อมมีชื่อของ ดมิโตร ชีกรินสกี้ อดีตเซนเตอร์ทีมชาติยูเครนเป็นหนึ่งในนั้น
บาร์เซโลน่า ซึ่งคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนั้นดึง ชีกรินสกี้ นักเตะมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 หลังนักเตะคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ร่วมกับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค
ขณะนั้น ชีกรินสกี้ อายุเพียง 22 ปี สร้างชื่อในฐานะผู้เล่นแกนหลักของ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค และในฐานะกัปตันทีม และเขาย้ายมาอยู่กับสโมสรดีที่สุดในโลกแบบเหนือความคาดหมาย หลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดึงมาเป็นตัวเลือกตำแหน่งเซนเตอร์ร่วมกับ การ์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปีเก้, ราฟาเอล มาร์เกซ และ กาเบรียล มิลิโต้
มันเกิดขึ้นหลัง กวาร์ดิโอล่า ประทับใจผลงานของ ชีกรินสกี้ ในเกมที่ ชัคตาร์ พลิกโค่น บาร์เซโลน่า 3-2 ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2008-2009 ก่อนจะกลายเป็นนักเตะยูเครนคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร บาร์เซโลน่า
กองหลังชาวยูเครนกล่าวหลังจบเกมดังกล่าวว่า 'ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและโค้ชของผม เพราะพวกเขามอบความมั่นใจแก่ผม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักเตะ ผมยินดีมาก'
'ทุกคนพูดภาษาสเปนได้ และผมคาดว่าหวังผมจะสามารถเรียนรู้มันได้ ตอนนี้มันยาก แต่มันเป็นเรื่องของเวลา สำหรับตอนนี้ ปีเก้ และ ยาย่า ตูเร่ พูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษ แต่ผมต้องการเรียนภาษาสเปน'
ชีกรินสกี้ กล่าวถึงช่วงเวลาที่นำไปสู่การย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในเวลาต่อมาว่า 'เราอยู่ในกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกเดียวกันกับ สปอร์ติ้ง และ บาเซิ่ล ใน โดเน็ตส์ค, เราเล่นได้ดีมากแม้ว่าเราจะแพ้ 1-2 ในตอนท้ายก็ตาม หลังเกม จอร์ดี้ ครัฟฟ์ ซึ่งอยู่ที่ เมตาลูร์ก โดเน็ตส์ค ในเวลานั้นบอกผมว่า กวาร์ดิโอล่า พร่ำเพ้อเกี่ยวกับผม ความจริงคือผมไม่เคยคิดว่ามันจะไปได้ไกลกว่านี้'
อดีตกองหลังทีมชาติยูเครนยังเปิดเผยถึงการสนทนาในช่วงแรกกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเป็นเทรนเนอร์ของทีมอาซูลกราน่าในเวลานั้นว่า 'ช่วงเวลาที่ผมเห็นว่ามันร้อนแรงจริงๆ คือตอนที่ กวาร์ดิโอล่า โทรหาผม ขณะที่ผมอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปรีซีซั่น นั่นคือตอนที่ผม 'กลัว' จริงๆ เป๊ปบอกกับผมว่า 'ผมอยากให้คุณเป็นคู่หูของ ปีเก้ ไปอีกหลายปี เชื่อผม, ผมชอบการครองบอลของคุณ การผ่านบอลแรกของคุณ' ผมตกใจมาก'
หลังการคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ กับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค, ชีกรินสกี้ ได้รับโอกาสลงเผชิญหน้ากับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า ในรายการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ เพียงไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเซ็นสัญญากับทีมอาซูลกราน่าด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร
ชีกรินสกี้ ย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานั้นว่า 'ขณะที่ผมเดินผ่าน นักเตะ บาร์เซโลน่า บางคนเข้ามากอดผมแล้วพูดว่า 'ยินดีต้อนรับสู่บาร์ซ่า, ดมิโตร' มันเป็นเรื่องเยี่ยมมากจากพวกเขา ผมมีความรู้สึกที่หลากหลาย บอกตามตรง มันเป็นการกล่าวลาที่ต้องเป็นไป'
หลังการเซ็นสัญญากับทีมอาซูลกราน่า ชีกรินสกี้ ยังมีการพูดคุยกับตำนานอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ โดยกล่าวว่า 'ผมได้คุยกับ ชาบี ซึ่งเป็นห่วงผม และถามคำถาม 2-3 ข้อ เขายังพูดติดตลกกับผมเรื่องที่เราประกบเขาในเกมชิงชนะเลิศ (หัวเราะ) ทุกอย่างง่ายมาก บรรยากาศดีมาก ผมออกไปเที่ยวบ่อยมากกับ แม็กซ์เวลล์ และ อิบราฮิโมวิช'
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งต่างๆกลับไม่เป็นไปตามแผนสำหรับ ชีกรินสกี้ หลังจากเขาพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเจาะเข้าสู่กลุ่มตัวจริงของ กวาร์ดิโอล่า ขณะที่กองหลังชาวยูเครเนียนยอมรับว่าพยายามผลักดันตัวเองจนถึงขีดสุด และไม่ฟังคำแนะนำจาก เป๊ป ในขณะที่ ซึ่งมีส่วนทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อพยายามลงสนาม
'ผมรีบร้อนมากเกินไป ผมกดดันตัวเองมากเกินไป เป๊ป บอกผมว่า 'ทำในสิ่งที่ผมขอให้คุณทำ อย่าคิดมาก'' ชีกรินสกี้ เผย
'โชคไม่ดีที่ประสบการณ์มาพร้อมกับเวลา ไม่ใช่ตอนที่คุณยังเด็ก ผมไม่เสียใจเลย ผมทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะฟังให้มากขึ้น ถึง เป๊ป, ถึง เทรนเนอร์กายภาพ รวมถึงสภาพแวดล้อมของผม แต่ผมต้องการทำทุกอย่างในทันที'
กองหลังชาวยูเครนกล่าวเสริมว่า 'ตอนนี้ผมคิดเกี่ยวกับมันแล้ว และมันเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้โดยไม่ต้องรีบเร่งจาก มาร์เกซ, มิลิโต้, ปูโยล แต่ในขณะเดียวกันคุณก็มีความทะเยอทะยานที่จะเล่น คุณไม่พอใจกับการอยู่ที่นั่น คุณต้องการเป็นคนสำคัญ'
ชีกรินสกี้ เคยมีค่ำคืนที่ลืมไม่ลงในเกมแรกของศึก โกปา เดล เรย์ รอบ 16 ทีม กับ เซบีย่า ในช่วงเดือนมกราคมปี 2010 ซึ่งเขาทำเสียจุดโทษ ก่อนทีมอาซูลกราน่าจะพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 1-2
แม้แฟนๆบาร์ซ่าจะไม่พอใจผลงานของ ชีกรินสกี้ ก็ตาม แต่ กวาร์ดิโอล่า ยังคงปกป้องและสนับสนุนเขาต่อไป
'ดีม่า เป็นนักเตะมหัศจรรย์ และยิ่งเขาถูกโห่ เราจะให้การสนับสนุนเขามากขึ้น เพราะเขามีอีกหลายปีข้างหน้าที่นี่' เป๊ป กล่าวในขณะนั้น 'มันต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นๆ (ในการปรับตัว) เพราะที่ที่เขาจากมาและราคาที่เราจ่ายไป แต่ถ้าใครต้องรับผิดชอบ มันคือผม ไม่ใช่เขา'
ขณะที่ ชีกรินสกี้ ยอมรับว่าเขาเริ่มมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ หลังพบว่าตนเองต้องเป็นตัวสำรองทุกสัปดาห์ 'ตอนที่ผมเซ็นสัญญากับ บาร์ซ่า ผมไม่คิดว่าจะลงเล่นโดยไม่มีปัญหาในทันที แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะยากขนาดนี้'
'ที่นี่ มีแรงกดดันมากขึ้นจากผู้คนและจากสื่อ และสไตล์การเล่นก็แตกต่างอย่างมากกับ ยูเครน ความปรารถนาเป็นเรื่องหนึ่ง ความเป็นจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง'
อาชีพของ ชีกรินสกี้ ที่ บาร์เซโลน่า สิ้นสุดลงเพียงหนึ่งปีหลังจากนั้น เขาลงเล่นเพียง 14 เกม รวมเวลา 851 นาที และส่วนใหญ่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดที่ปิดฉากอนาคตของเขากับทีมอาซูลกราน่า
'มันคือ บาร์ซ่า คุณจะไม่ได้รับโอกาสครั้งที่สอง, 3 หรือ 4 ถ้าคุณไม่ดีพอ หนึ่งปีเป็นเวลานาน ในระดับทั่วไป ผมไม่คิดว่าผมล้มเหลว แต่ถ้าเราพูดถึงบางเกม ใช่, ผมล้มเหลว และนั่นคือราคาที่คุณต้องจ่ายที่ บาร์ซ่า'
'ผมทำผิดพลาดที่ บาร์ซ่า รับไม่ได้ เพราะมาตรฐานมันถูกตั้งไว้สูงมาก' ชีกรินสกี้ ยอมรับ
'ผมไม่ได้อยากย้ายออกไป แต่ผมต้องไป เพราะ บาร์เซโลน่า มีหนี้สินและพวกเขาต้องการลดค่าจ้าง ชัคตาร์ ต้องการซื้อผมคืนในราคา 15 ล้านยูโร และ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจว่านี่คือทางออกที่ดี'
'ผมอยากอยู่ต่อ และ โจเซป กวาร์ดิโอล่า บอกว่าเขาไว้ใจผม ผมขอโทษ แต่ผมไม่เสียใจอะไรเลย มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม'
ชีกรินสกี้ ยังกล่าวถึงการทำงานภายใต้ตำนานอย่าง กวาร์ดิโอล่า ว่า 'มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสำหรับผม และผมรู้สึกได้ถึงการสนับสนุนของเขาเสมอไม่ว่ากรณีใด ผมทำให้เขาผิดหวัง แต่ไม่ใช่ในทางกลับกัน เขามองเห็นความพยายามที่ผมทำในแต่ละวัน และเขาชื่นชมมัน เขาช่วยผมได้มาก เราคุยกันหลายครั้ง ผมทำได้แค่กล่าวขอบคุณเขา'
หลังออกจาก บาร์เซโลน่า, ชีกรินสกี้ ย้ายกลับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ในปีถัดมาด้วยค่าตัวเพียง 15 ล้านยูโร นั่นทำให้ทีมดังยูเครนฟันกำไร 10 ล้านยูโรภายในเวลาเพียง 12 เดือน จากนั้นเขาตกลงยกเลิกสัญญากับสโมสรในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ปี 2015 ก่อนจะเซ็นสัญญากับ ดนีโปร อีก 7 วันหลังจากนั้น
ชีกรินสกี้ ย้ายไปค้าแข้งในกรีซกับ เออีเค เอเธนส์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เขาอยู่ที่นั่นจนถึงปี 2021 จนกระทั่งย้ายมาอยู่กับสโมสรร่วมลีกอย่าง ไอโอนิกอส นีเคียส จนถึงปัจจุบัน
กองหลังวัย 36 ปี ได้กล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้จากช่วงเวลาที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า ว่า'มันยากที่จะยึดติดแค่เพียงด้านเดียว แต่การอยู่ท่ามกลางสิ่งดีที่สุด แม้จะแย่ที่สุดในบรรดาสิ่งดีที่สุด ผมจะบอกว่ามันไม่ใช่ความอัปยศ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร มันเป็นโอกาสในการเรียนรู้จากผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและผู้คนที่ยอดเยี่ยม'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT