ความภูมิใจของการ์บาฆาล

ดาเนียล การ์บาฆาล เป็นหนึ่งในผู้เล่นประสบการณ์เพียงไม่กี่คนที่เติบโตมาจากระบบเยาวชนและก้าวขึ้นทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด เขากลายเป็นตัวเลือกตำแหน่งแบ็กขวาที่ไม่สามารถหาตัวทดแทนได้และยังคงแสดงผลงานในระดับสูงสุดต่อไปในปัจจุบัน

ผ่านมาจนถึงช่วงนี้ของฤดูกาลล่าสุด การ์บาฆาล ลงเล่นเฉลี่ย 87 นาทีต่อเกมกับทัพ 'โลส บลังโกส' และทำหนึ่งแอสซิสต์ เขายังจ่ายบอลสำคัญเฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อเกมและช่วยต้นสังกัดเก็บคลีนชีต 2 ครั้ง แบ็กวัย 31 ปีมีโอกาสเปิดใจกับ โมบีสตาร์ปลุส โดยสะท้อนถึงหัวข้อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวและอาชีพค้าแข้งของเขา

'ผมมักจะมีใบหน้าที่จริงจังแบบนี้เสมอ เมื่อใดก็ตามที่ผมได้กล่าวสุนทรพจน์ ผมจะบอกให้พวกเขาทำทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ ในการฝึกซ้อมในชีวิต ก็ทุ่มสุดตัวเลย' การ์บาฆาล พูดถึงบุคลิกของเขาและสะท้อนถึงคนรอบข้างอย่างไร

'ผมได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง และผมภูมิใจมากที่สามารถเอาชนะอุปสรรคมากมายตลอดเส้นทาง ผมมักจะจำเรื่องราวเหล่านี้ได้มากกว่าการคว้าแชมป์'

เมื่อถูกถามว่ากีฬามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในแง่ของคุณภาพของฝ่ายตรงข้าม

'มันเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ผมลงเล่นฐานะตัวจริงเมื่อ 11 ปีที่แล้วในทีมชุดใหญ่ ผมจำได้ว่าตอนมี คริสเตียโน่, เบล และ เบนเซม่า มีทีมจากกลางตารางหรือต่ำกว่ามาเยือน และคุณรู้ว่าคุณจะยิงได้ 4 ประตู'

'เราเล่นอย่างอิสระมากขึ้น มันไม่ใช่เกมที่เตรียมพร้อมด้านแท็คติกเพราะผมคิดว่าคู่แข่งไม่รู้จุดอ่อนของคุณ'

'ตอนนี้มันยาก ทุกทีมที่เล่นในบ้าน ถ้าคุณทำได้ไม่ดีพอก็สามารถโค่นคุณได้ ระดับได้รับการปรับปรุงอย่างมากและทุกอย่างมีความสมดุลมากขึ้น'

แม้รากฐานของเขาจะอยู่ที่ เรอัล มาดริด กาสตีย่า แต่ การ์บาฆาล ย้ายไปเล่นในเยอรมนีช่วงสั้นๆกับ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2012 ก่อนจะหวนคืน เรอัล มาดริด ในอีกหนึ่งปีต่อมา เมื่อพูดถึงช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองเบียร์ การ์บาฆาล มีเพียงความทรงจำดีๆเท่านั้น

'ผมมาถึงที่นี่ตอน 10 ขวบ และผมผ่านแค่ทีมเยาวชนกับ เรอัล มาดริด กาสตีย่า เท่านั้น ข้อเสนอจาก เลเวอร์คูเซ่น ถือเป็นช่วงสำคัญในอาชีพของผม ผมได้รับข้อเสนอจำนวนมาก และผมร่วมกับครอบครัวของผมในการประเมินสิ่งดีที่สุด'

'ที่ กาสตีย่า ผมตั้งตารอโอกาสที่จะได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่หรือออกไปเล่นที่อื่น ผมรู้ว่าโอกาสในทีมชุดใหญ่เป็นเรื่องยาก แต่ เลเวอร์คูเซ่น เดิมพันหนักกับผม ผมปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และความคิดของผมก็ชัดเจนว่าจะกลับมาที่มาดริด'

การ์บาฆาล ยังอธิบายเพิ่มเติมว่าพ่อของเขาไม่พอใจที่ เรอัล มาดริด กดดันให้เขากลับมา และวิธีที่เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทัพ 'โลส บลังโกส'

'พ่อของผมบอกว่าโชคร้ายที่ เรอัล มาดริด นำผมกลับมา และเขาไม่รู้ว่าผมจะได้ลงเล่นหรือไม่ แน่นอนว่าผมเข้าใจเขา แต่ในขณะนั้นผมไม่สามารถทำอะไรได้อีก นั่นคือคำตอบของผม ผมโชคดีเพราะมีเพียง (อัลบาโร่) อาร์เบลัว ในตำแหน่งแบ็กขวา และมีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ และทุกอย่างก็เกิดขึ้นพร้อมกัน'

'ผมอาจเป็นผู้เล่นสโมสรเดียวก็ได้ แต่การอยู่ในเยอรมนีทำให้ผมมีรสชาติดีในปากผม ผมรอคอยที่จะได้เล่นที่นั่นอีกครั้ง พบปะผู้คนจากสโมสร และดูว่าพวกเขาจะต้อนรับผมอย่างไร ผมมักจะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมหาก เรอัล มาดริด ไม่ดึงผมกลับมา'

การเล่นที่ เรอัล มาดริด นั้นพูดง่ายมากกว่าทำ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงความคาดหวังสูงลิบจากแฟนๆ ดังนั้นนักเตะจึงต้องเตรียมพร้อมเรื่องสภาพจิตใจไม่น้อยไปกว่าด้านร่างกาย

'ตั้งแต่ผมยังหนุ่มมาก ปกติแล้วเราจะไม่แพ้สองเกมติดต่อกัน และคุณมักจะอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ต้องชนะอยู่เสมอ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในทีมชุดใหญ่ แน่นอนว่าคุณต้องเรียนรู้จากฤดูกาลที่เลวร้ายด้วย'

เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นเพียงไม่กี่คนในวงการลูกหนังที่คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย การ์บาฆาล ตอบว่า 'มันบ้าไปแล้ว มันดูเหมือนเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำซ้ำ และผมมักจะพูดเสมอว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผมจะซาบซึ้งในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จมากขึ้น'

การ์บาฆาล ยังพูดถึงมรดกที่เขาปรารถนาจะทิ้งไว้กับสโมสรในวันที่เขาต้องอำลาทีมในอนาคตว่า 'ผมเป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งในนักเตะ เรอัล มาดริด ดีสุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะไม่ดีที่สุดก็ตาม ผมอยากให้วันที่ผมจากไปถูกจดจำในฐานะหนึ่งในกองหลังดีสุดเท่าที่เคยอยู่ที่นี่ เวลาจะทำให้ผมมีมุมมองที่ดีขึ้น'

ปัจจุบัน เรอัล มาดริด กำลังเปลี่ยนแปลงขุมกำลังแนวรับ โดยผู้เล่นอายุน้อยกำลังถูกนำมาเข้าแทนที่แข้งรุ่นใหญ่ ในฐานะผู้เล่นประสบการณ์ที่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์ คาร์โล อันเชล็อตติ แบ็กขวาวัย 31 ปีคาดหวังว่าเขาจะสามารถผลักดันต่อไปให้นานสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

'ผมมีสัญญาอีกหลายปีในข้อตกลงของผม และผมหวังว่าจะแขวนเกือกที่นี่ การอยู่ที่ มาดริด เป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับนักฟุตบอล และผมคิดว่าการออกจากสโมสรจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสุดช่วงหนึ่งในชีวิต'

ลีกซาอุดิอาระเบียกลายเป็นหัวข้อสนทนาตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่ง การ์บาฆาล ยอมรับว่าทั้งจำนวนเงินค่าตัวและค่าเหนื่อยที่สโมสรจากตะวันออกกลางประเคนให้นักเตะนั้นเป็นเรื่องยากที่จะแข่งขัน

'มันซับซ้อน ตอนนี้คุณเห็นแล้วว่าพวกเขากำลังจ่ายค่าตัวจำนวนสูงมากและผู้เล่นหลายคนที่ย้ายไปอายุน้อยกว่าเดิม และอาจมีแนวโน้มไปในทิศทางนั้น มันซับซ้อนด้วยความแตกต่างของค่าจ้างที่สูงกว่ามาก'

เมื่อถูกถามถึงต้นแบบของเขาในโลกลูกหนัง แบ็กขวาวัย 31 ปีกล่าวว่า 'ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมมักจะเงยหน้าขึ้นมอง มิเชล ซัลกาโด้ เสมอ เขาเป็นแบบอย่างของผม และแน่นอนว่า เซร์คิโอ รามอส ก็เช่นกัน เมื่อ มิเชล จากไป ผมมาถึงและตกใจมากที่มีโอกาสแชร์ห้องแต่งตัวกับเขา'

การ์บาฆาล ยังเลือก 3 ผู้เล่นชั้นนำที่เขาเคยแชร์ห้องแต่งตัวด้วยระหว่างที่อยู่กับ เรอัล มาดริด แบ็กขวาวัย 31 ปีไม่ลังเลที่จะเลือก 3 แข้งระดับตำนานอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เซร์คิโอ รามอส และ ลูก้า โมดริช

'คริสเตียโน่, เซร์คิโอ รามอส และ ลูก้า โมดริช พวกเขาเป็นคนที่พูดคุยกับคุณและคุณต้องใส่ใจด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 และพวกเขากำลังพูดคุยกับคุณ และคุณต้องจดบันทึก คุณเห็นพวกเขามาถึงตอน 6 โมงเช้าและเริ่มฝึกซ้อม มันโหดมาก'

'ลูก้า สามารถนำประเทศเล็กๆอย่าง โครเอเชีย เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก เขามาที่นี่ด้วยจิตใจที่เกือบจะเป็นผู้บังคับบัญชา และวิธีการที่เขาเอาชนะทุกคนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ'

เมื่อถูกขอให้เลือกเทรนเนอร์ชั้นยอดของ เรอัล มาดริด เขาปฏิเสธที่จะเอ่ยชื่อ แต่เผยถึงคุณสมบัติที่เขาชื่นชมในตัวอดีตบอสของเขา

'เรามีเทรนเนอร์ที่มีบุคลิกคล้ายกันมาก มันเป็นเรื่องยากสำหรับที่จะโกรธพวกเขาเพราะการกระทำของพวกเขา พวกเขาให้อิสระแก่คุณในสนาม พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อผมและการเข้าหาเทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ด้วยความปกติอย่างมาก'

'สิ่งที่ยากสุดในการบรรลุคือการทำให้ทุกคนมีความสุข ไม่ว่าพวกเขาจะลงเล่นมากหรือน้อยก็ตาม นี่คือสิ่งดีที่สุด และเทรนเนอร์ต้องรู้วิธีในการให้ตำแหน่งของแต่ละคน ผมไม่ต้องการจัดลำดับของพวกเขาในตอนนี้'

อย่างไรก็ตาม การ์บาฆาล ปฏิเสธที่จะพูดถึงการก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์ในอนาคตหลังยุติอาชีพค้าแข้งว่า 'ผมไม่ได้ตัดมันออกไป แต่สิ่งแรกที่ผมอยากทำเมื่อผมตัดสินใจรีไทร์ ผมอยากจะอยู่กับลูกๆของผม'

ทัพ 'โลส บลังโกส' เผชิญการบาดเจ็บรุนแรงตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ หลัง ติโบต์ กูร์กตัวส์ และ เอแดร์ มิลิเตา ต่างต้องพักรักษาตัวนานหลายเดือนเนื่องจากปัญหาเอซีแอล ที่ การ์บาฆาล เชื่อว่ามันเป็นผลมาจากโปรแกรมแข่งขันที่อัดแน่นด้วยนั่นเอง

'เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ยิน (โจเซป) กวาร์ดิโอล่า พูดถึงความยากลำบากของปฏิทินแข่งขัน และผมเห็นด้วยกับเขาบางส่วน เรากลับมาจากปรีซีซั่น และคนที่เคยอยู่กับทีมชาติก็ได้เล่นกับ มิลาน หรือ ยูไนเต็ด อีกครั้ง พร้อมบททดสอบยากลำบากเพื่อให้ทุกคนคว้าตำแหน่งนั้นมา'

'ด้วยการฝึกซ้อม 4 วัน มันเป็นเรื่องยากที่ร่างกายจะไม่ทุกข์ทรมานและคุณจะไม่ได้รับการบาดเจ็บ ผมเข้าใจว่าบางครั้งคุณต้องสร้างผลงานมากขึ้น แต่ผมเชื่อว่าคุณต้องลดปริมาณและเพิ่มคุณภาพทดแทน' การ์บาฆาล กล่าว