การฟื้นคืนชีพของเฟร์ราน

เฟร์ราน ตอร์เรส แนวรุกวัย 23 ปีมีอิทธิพลค่อนข้างมากในฤดูกาลนี้ หลังอดีตแนวรุก แมนฯซิตี้ เริ่มต้นช่วงปรีซีซั่นได้เป็นอย่างดี และฟอร์มของเขายังดำเนินต่อไปจนถึงต้นฤดูกาลนี้และกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของทัพอาซูลกราน่า

มันเกิดขึ้นหลังจาก เฟร์ราน มีโอกาสย้ายออกจาก คัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังเทรนเนอร์ ชาบี เอร์นานเดซ เริ่มคิดว่าผลกระทบของเขาค่อยๆจางหายไป และเมื่อสโมสรประสบปัญหาทางการเงิน มันยิ่งชัดเจนมากขึ้นว่าเขาอาจจะลงเอยด้วยการจากไป แต่ตามแนวรุกวัย 23 ปี ยืนยันชัดเจนว่าเขาต้องการอยู่ต่อไปและต่อสู้เพื่อตำแหน่งของเขา

เมื่อถูกถามว่าเขาได้คุยกับ ชาบี เกี่ยวกับการย้ายทีมหรือไม่ เฟร์ราน ตอบว่า 'ไม่, ผมไม่ได้คุยกับ ชาบี ผมบอกไปแล้วในการให้สัมภาษณ์ว่าผมจะไม่ไปไหน'

'ผมจะไม่เอ่ยชื่อหรืออะไรทั้งนั้น แต่ผมคิดว่าพวกเขานำผมเข้าไปเป็นข่าวมากกว่าที่เป็นอยู่จริงๆ ผมชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมจะอยู่ที่ บาร์ซ่า ผมมีสัญญากับ บาร์ซ่า และผมจะประสบความสำเร็จที่ บาร์ซ่า เพราะผมมองเห็นว่าตัวเองมีความสามารถจะทำแบบนั้น'

เฟร์ราน ยังพูดถึงฤดูกาลนี้ว่าทัพอาซูลกราน่ามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งจริงๆ '(ผมมองเห็น บาร์เซโลน่า) มีทีมที่แข็งแกร่งมาก มีความสามารถมากมาย มีนักเตะหลายคนในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา และผมคิดว่ามันเป็นปีที่ดี'

แนวรุกวัย 23 ปียังกล่าวถึงคำพูดของ ชาบี ที่ระบุว่าเขาเป็นแบบอย่างให้นักเตะคนอื่นๆในทีมว่า 'ที่สโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า มันซับซ้อนมาก คุณต้องชนะทุกเกมและเล่นให้ดีเหนือสิ่งอื่นใด หลายครั้งที่คุณไม่สามารถบรรลุทุกสิ่งได้ การมีวินัยเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับผม เพราะมันหมายความว่าคุณไม่หลงทางและผลลัพธ์จะตามมา'

เฟร์ราน ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่าเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นับตั้งแต่กองหน้าชาวโปลย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว โดยเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากดาวยิงวัย 35 ปีเพื่อช่วยพัฒนาตัวเอง

'ใช่, ตั้งแต่วันแรก ผมมีความผูกพันกับเขามากเพราะเขาเป็นบุคคลอ้างอิง ผมคิดว่าผมสามารถปรับปรุงได้มากในการเรียนรู้จากเขา'

'ผมมีการแข่งขันสูงและแข่งขันกับเขาในการฝึกซ้อมโดยพยายามทำประตูให้มากกว่าเขา บางทีเขาอาจจะทำให้ผมเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว'

บาร์เซโลน่า กำลังเผชิญปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายคนทั้ง เลวานดอฟสกี้, เฟรงกี้ เดอ ย็อง, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้, ชูลส์ กุนเด้ และ ราฟินญ่า ขณะที่ ลามีน ยามาล มีปัญหาบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน

'เราลงเล่นทุกๆ 3 วัน แทบไม่ได้พัก และผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกของฟุตบอล เพราะแต่ละเกมต้องใช้ความเอาจริงเอาจังอย่างมาก' เฟร์ราน กล่าว 'ผมหวังว่านักเตะในทีมของเราที่ได้รับบาดเจ็บจะกลับมาเพื่อให้ทีมครบ 100 เปอร์เซ็นต์ในไม่ช้า'

เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่แตกต่างจากการลงเล่นที่ โอลิมปิก เด มอนต์จูอิค ในฤดูกาลนี้ หลัง คัมป์ นู ปิดปรับปรุงว่า 'มันดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ต้องขอบคุณแฟนๆมาก เพราะพวกเขาทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ที่ คัมป์ นู คอยสนับสนุนเรา ให้กำลังใจเรา และมันเป็นเรื่องสำคัญมาก'

ก่อน เฟร์ราน จะกล่าวถึงปัญหาบาดเจ็บของ ยามาล แนวรุกรุ่นน้องว่า 'ใช่, ผมเห็นเขา เขามีอาการไม่สบายบางอย่าง คุณไม่สามารถพูดคุยกับเขามากนัก แต่คุณต้องดูแลเขา ทำให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาเป็นนักเตะคนสำคัญ'

นอกจากนี้เขายังกล่าวยกย่อง เซร์จี้ โรเบร์โต้ และวิธีที่เขาเป็นผู้นำทีม โดยกล่าวว่า 'สำหรับผม เซร์จี้ โรเบร์โต้ เป็นตัวอย่างหนึ่ง เขาเป็นคนที่รู้จักสโมสรเป็นอย่างดี เขาอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิต และเขารู้วิธีควบคุมทีม และเมื่อจำเป็นต้องตักเตือน เขาก็จะตักเตือนพวกเขา'

แนวรุกทีมชาติสเปนยังเผยว่าเขาทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาโดยกล่าวว่า 'ใช่ๆ มันเป็นหัวข้อที่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเพราะมันเป็นเรื่องปกติ วันนี้ถ้าผมรู้ ผมคงจะเริ่มทำตอนอายุ 14-15 ปี เมื่อคุณมีสติมากขึ้นอีกนิด'

'มันเป็นหัวข้อต้องห้ามที่ผมไม่เข้าใจ แต่พอเห็นโซเชียลมีเดีย อันตรายแค่ไหน โกลแห่งการสื่อสารที่สุดท้าย ใครๆก็อ่านมัน'

'มันไม่ใช่การทำเคสของคุณเองหรืออะไรทั้งนั้น แต่สุดท้ายแล้ว แค่มีคนติดตามเรา มีคนอ่านคุณ หลายคนอ่านในโซเชียลมีเดีย และคุณต้องพยายามทำมันให้เร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะได้รู้เร็วมากขึ้นว่าจะอยู่กับมันอย่างไรได้ดีขึ้น'

เมื่อถูกถามว่ามีช่วงเวลาใดเป็นพิเศษหรือไม่ที่เขาตัดสินใจเข้ารับการช่วยเหลือจากมืออาชีพ เฟร์ราน เผยว่า 'ไม่ มันเป็นเรื่องปกติและราบรื่นมาก มันเป็นเพียงการบอกว่าผมกำลังจะไปทำงานกับนักจิตวิทยา ผมไม่เคยทำงานกับนักจิตวิทยามาก่อนเลย'

'อย่างที่คุณพูดเกี่ยวกับข้อห้ามนั้น ผมไม่เป็นว่ามันจำเป็น ผมคิดว่าสำหรับคนที่มีปัญหาและในทางกลับกัน การทำงานร่วมกับนักจิตวิทยาทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเพราะหลังการเริ่มทำงานกับเขา ผมรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมไม่ค่อยสนใจ'

เฟร์ราน ยังเผยว่าการฝึกซ้อมทั้งหมดนี้ช่วยเขาพัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีขึ้นว่า 'ตอนนี้ผมเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว มากกว่า 2 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมเปิดตัวในดิวิชั่น 1'

'เพราะอะไร? เพราะว่าผมมีความสามารถในการมองเห็นภาพของสิ่งต่างๆมากขึ้น มองเห็นภาพตัวเองบรรลุเป้าหมายที่ผมต้องการ วิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่ผมทำ และจากจุดนั้น ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไรเพื่อปรับปรุงมัน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ผมต้องการ'

ก่อนจะอธิบายวัตถุประสงค์ของเขาเพิ่มเติมว่า 'เห็นได้ชัดว่าประสบความสำเร็จมากมาย ใครล่ะจะไม่อยากประสบความสำเร็จ?'

'เหนือสิ่งอื่นใด ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมในปีนี้กับสโมสรและในระดับส่วนตัว บรรลุเป้าหมายและสถิติใหม่ แซงหน้า เฟร์ราน ที่ ซิตี้ ซึ่งเป็นหนึ่งจากฤดูกาลที่แล้ว เล่นได้ดีขึ้น ปรับปรุงทุกสิ่งทุกอย่าง'

เฟร์ราน ถูก หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เรียกตัวติดทีมชาติสเปนชุดล่าสุดจากความยอดเยี่ยมของเขา แต่แนวรุกวัย 23 ปีกลับไม่เห็นเช่นนั้นโดยกล่าวว่า 'มันไม่เห็นมันเป็นอย่างนั้น เทรนเนอร์พยายามเลือก 23 คนดีที่สุด และท้ายที่สุด ทุกคนสามารถมีความสำคัญได้ เพราะเราคือทีม คนดีที่สุด มีเกมสำคัญที่กำลังจะมาถึงเราจากหลายๆเกม'

'ทุกคนสามารถมีความสำคัญได้ และคุณต้องเตรียมพร้อม' 

แนวรุกวัย 23 ปียังกล่าวถึงประสิทธิภาพการเล่นเกมรุกของทัพกระทิงว่า 'โฆเซลู กำลังอยู่ในช่วงพลิกผันเช่นกัน ไบรอัน มาจากการเรียกกำลังเสริมอีกสองคน นีโก้ และ อันซู ด้วย สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมบอกคุณไป เราทุกคนต่างมีความสำคัญ เราทุกคนต่างมีเป้าหมาย และนั่นสำคัญมากสำหรับเทรนเนอร์'

เมื่อถูกถามว่าเขาพูดคุยกับ ไบรอัน ซาราโกซ่า แนวรุกวัย 22 ปีจาก กรานาด้า ที่ถูกเรียกตัวติดทัพกระทิงครั้งแรก หลังทีมของทั้งสองคนเสมอกันบนเวทีลีกา 2-2 โดยเฉพาะเกี่ยวกับประเด็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ 

'ผมไม่อยากจะพูดถึงมันด้วยซ้ำ เพราะสุดท้ายมันก็จบลง นี่คือสถานการณ์ของเกม และไม่มีประเด็นที่จะต้องพูดถึง เกมจบลงด้วยการเสมอ ยังเหลือการแข่งขันอีกมากในลีก เหลือเวลาอีกมากของปี และเราจะพลิกสถานการณ์นี้'

เมื่อถูกถามถึง 'เอล กลาซิโก้' กับ เรอัล มาดริด ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เฟร์ราน ยืนยันว่าทีมอาซูลกราน่าจะลงเล่นแบบเกมต่อเกม เนื่องจาก บาร์เซโลน่า ยังมีเกมรับมือ แอธเลติก บิลเบา ต่อด้วย ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนลงดวลกับทีมคู่ปรับสำคัญ

'สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแบบเกมต่อเกม ก่อนเกม กลาซิโก้ จะมีเกม ลา ลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก อีกเกม เราต้องดูแบบเกมต่อเกม ก็แค่นั้น'

สุดท้าย เฟร์ราน ยังพูดถึงฉายา The Shark ของเขา 'ผมอยากจะกัดในทุกๆเกม ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครก็ตาม'