:::     :::

คู่ร้อน2018

วันอังคารที่ 03 เมษายน 2561 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
3,382
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลุยส์ ซัวเรซ กับ ลิโอเนล เมสซี่ สองกองหน้าดาวดังบาร์เซโลน่าเป็นคู่หูแนวรุกที่ยิงประตูรวมกันมากที่สุดในช่วงปี 2018

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์ชาวโปรตุกีสของ เรอัล มาดริด เป็นนักเตะทำผลงานร้อนแรงสุดนับตั้งแต่เปิดศักราช 2018 เป็นต้นมาหลังแข้งดาวดังจากค่ายชุดขาวกระทุ้งรวมกันถึง 21 ประตูก่อนหน้าเกมเยือน'อัลลีอันซ์ สเตเดี้ยม'รังเหย้าของ ยูเวนตุส ช่วงค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา

ทว่าด้วยเหตุที่ตัวช่วยอย่าง คาริม เบนเซม่า ฟอร์มฝืดสนิทยิงได้เพียง 4 ประตูมีส่วนทำให้ผลงานโดยรวมยังเป็นรองคู่หูคู่ร้อนของค่ายอาซูลกราน่าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ 


โรนัลโด้ กด 21 ประตูในช่วงปี 2018 แต่เบนเซม่ายิงจุ๋มจิ๋มเพียง 4 ประตูทำให้ยอดรวมเท่ากับ 25 ประตูเท่านั้น 

ผลงานดังกล่าวยังด้อยกว่าคู่หูแนวรุกบาร์เซโลน่าซึ่งยิงรวมกัน 32 ประตูจาก เมสซี่ 17 ประตูบวก หลุยส์ ซัวเรซ อีก 15 ประตู 

หลุยส์ ซัวเรซ กับ เมสซี่ ร่วมด้วยช่วยกันกดคนละดอกให้ทัพอาซูลกราน่าไล่ตามตีเสมอ เซบีย่า แบบหืดจับ 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมายืดสถิติไม่แพ้บนเวทีลีกา 37 เกมติดต่อกัน 

เซบีย่า นำห่าง 2-0 จากการทำประตูของ ฟรังโก้ วาซเกซ กับ หลุยส์ มูเรียล ช่วงนาที 36 กับ 50 ตามลำดับ ก่อนคู่หูร้อนของทีมอาซูลกราน่าจะใช้เวลาเพียง 53 วินาทีทำคนละประตูช่วยทีมเยือนรอดพ้นการพ่ายแพ้หวุดหวิด 

หลังโกงความตายจากสังเวียน'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'เมื่อวันเสาร์ทำให้ บาร์เซโลน่า ยืดสถิติไม่แพ้บนเวทีลีกาเป็น 37 นัดติดต่อกัน ซึ่งนับรวมผลงานซีซั่นก่อน 7 เกม ทีมอาซูลกราน่าทำสถิติชนะ 30 เสมอ 7 นับจากการปราชัยเกมสุดท้ายต่อ มาลาก้า 0-2 บนสังเวียน'ลา โรซาเลด้า'เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2017

ทีมยักษ์กาตาลุนย่ามีโอกาสทำสถิติไม่แพ้บนเวทีลีกา 38 เกมติดต่อกันเทียบเท่าผลงานประวัติศาสตร์ของ เรอัล โซเซียดาด ในเกมเปิด'คัมป์ นู'รับมือ เลกาเนส ในวันเสาร์ที่ 7 เมษายนนี้

เรอัล โซเซียดาด เป็นเจ้าของสถิติไม่แพ้ 38 เกมติดต่อกัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 1978-1979 จำนวน 6 เกม ต่อยอดด้วยช่วงซีซั่น 1979-1980 อีก 32 นัด ทำสถิติชนะ  22 เสมอ 16

เมสซี่ กดประตูที่ 17 นับจากเดือนมกราคมที่ผ่านมาในเกมตีเสมอเซบียาโน่ 2-2 ขณะที่ประตูตีไข่แตกจาก หลุยส์ ซัวเรซ เป็นลูกที่ 15 ในปีนี้ของหัวหอกชาวอุรุกวาโย่ ทั้งคู่ทำยอดรวมในปี 2018 เท่ากับ 32 ประตู เหนือกว่าคู่หู เรอัล มาดริด ถึง 7 ประตู แม้ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะกระทุ้งได้มากกว่าเมสซี่ 4 ประตูก็ตาม 

นับจากเกมแรกของปี 2018 ในแมตช์เยือนสังเวียนบาไลโดสของ เซลต้า บีโก้ บนเวที โกปา เดล เรย์ เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า กระทุ้งคู่แข่งรวมกัน 46 ประตูจากการลงเล่น 21 นัด ซึ่งเป็นผลงานของคู่หู ลิโอเนล เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ 32 ประตู 

จาก 21 เกมที่ผ่านมา ทีมอาซูลกราน่ายิงคู่แข่งไม่ได้เพียง 2 นัดในเกมพ่าย เอสปันญ่อล 0-1 บนเวที โกปา เดล เรย์ และแมตช์เสมอ เคตาเฟ่ 0-0 บนเวทีลีกา

อีกหนึ่งคู่กองหน้ามาแรงของ ลิเวอร์พูล ทั้ง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ยิงรวมกันเพียง 22 ประตู ซึ่งเป็นผลผลิตของ 'โม'ซาล่าห์ 14 ประตูบวกอีก 8 เม็ดจาก มาเน่ 

คู่หู ซาล่าห์ - มาเน่ ยิงรวมกันในปี 2018 มากกว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับ โธมัส มุลเลอร์ คู่หูค่าย บาเยิร์น มิวนิค ที่กระทุ้งรวม 21 ประตู ซึ่งเป็นผลงานของ เลวานดอฟสกี้ 14 ประตูบวก 7 ดอกของมุลเลอร์ 

ตามมาด้วยแนวรุก ยูเวนตุส ทั้ง กอนซาโล่ อิกวาอิน กับ เปาโล ดีบาล่า ซึ่งยิงรวมกัน 19 ประตูจาก อิกวาอิน 12 ประตูบวก ดีบาล่า 7 ประตู 

ขณะที่คู่กองหน้า แมนฯซิตี้ ยิงรวมกัน 17 ประตู จาก เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน 15 ประตูบวก กาเบรียล เชซุส อีก 2 ประตู ส่วนหนึ่งมาจากการบาดเจ็บของกองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียน อีกส่วนหนึ่งมาจาก'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า จะเลือกส่งกองหน้าตัวเป้าลงเล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น 

ไม่ต่างจากแนวรุก เซบีย่า ทั้ง วิสซาม เบน เยแดร์ กับ หลุยส์ มูเรียล ซึ่งยิงคนละ 5 ประตูเนื่องจาก วินเชนโซ่ มอนเตลล่า จะสลับส่งกันลงสนาม 

ส่วนคู่หูแนวรุกของ โรม่า คู่ปรับของ บาร์เซโลน่า บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมยิงรวมกันเพียง 8 ประตู ซึ่งเป็นผลงานของ เอดิน เชโก้ 6 ประตูบวกอีก 2 จาก สเตฟาน เอล ชาราวี 


ก่อนหน้าเกมเปิด'คัมป์ นู'รับการมาเยือนของทีมหมาป่าอิตาเลียนคืนวันพุธนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ทีมอาซูลกราน่ายังอุ๋บไต๋เกี่ยวกับสถานการณ์ของ เมสซี่ ที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง

ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ไม่ได้ลงเล่นเกมกระชับมิตรกับทีมชาติอาร์เจนตินาทั้งเกมเชือด อิตาลี 2-0 และแมตช์พ่ายยับต่อ สเปน 1-6 เนื่องจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว 

ขณะเดียวกัน บัลเบร์เด้ ไม่ยอมเสี่ยงเร่งใช้งานกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ในเกมเยือน'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนสถานการณ์จะบังคับให้ต้องส่งเมสซี่ลงเล่นช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายหลังตกเป็นตาม 0-2 ก่อนซุปตาร์อาร์เจนไตน์จะช่วยต้นสังกัดรอดพ้นการปราชัยหวุดหวิด 

อย่างไรก็ตามคาดว่า เมสซี่ พร้อมออกสตาร์ทในเกมรับมือ โรม่า ช่วงค่ำคืนวันพุธนี้ แน่นอนว่ามันคงเป็นภาระหนักอึ้งสำหรับกองหลังทีมหมาป่าในการรับมือกับกองหน้าดีที่สุดในโลกลูกหนัง 


คอสตาส มาโนลาส ปราการหลังทีมชาติกรีซของ โรม่า ยอมรับว่าไม่มีทางที่จะหยุดซูเปอร์สตาร์ของทีมอาซูลกราน่าอย่าง เมสซี่ 

'(เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า พูดถูกตอนที่เขาบอกว่าไม่มีทางที่จะหยุดเขา (เมสซี่) ได้'มาโนลาส กล่าว

'แม้ว่าคุณอาจจะแก้ได้และสกัดกั้นเขา แต่ยังมีผู้เล่นอื่นอีก 10 คนที่สามารถทำร้ายคุณได้ แน่นอนบาร์เซโลน่ายังมีคนอื่นที่ไม่รวมถึงสตาร์อาร์เจนไตน์ เราจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุดของพวกเรา'

มาโนลาส ยังกล่าวชื่นชม เคราร์ด ปีเก้ กองหลังทีมชาติสเปนของฝั่งคู่ปรับซึ่งเป็นกองหลังที่มีเบสิคพื้นฐานยอดเยี่ยมและยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

'ผมชื่นชม (เคราร์ด) ปีเก้ เขาเป็นกองหลังที่สง่างาม ซึ่งเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญจากการทำผลงานของเขาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา'

โรม่า เคยมาเยือน'คัมป์ นู'ครั้งล่าสุดในการเล่นรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2015-2016 ผลลงเอยด้วยการปราชัยยับเยิน 1-6 จากการเหมาคนละสองประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ กับ เมสซี่ บวกอีกคนละเม็ดจาก ปีเก้ และ อาเดรียโน่ ส่วนทีมหมาป่าได้ประตูตีไข่แตกปลอบใจในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เอดิน เชโก้ 

จากแมตช์ถลุง โรม่า 6-1 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2015 มาจนถึงเกมช่วงค่ำคืนวันพุธนี้ บาร์เซโลน่า จะเปลี่ยนโฉมหน้านักเตะจาก 11 ผู้เล่นคนแรกเพียง 3 คนเท่านั้น 

เนย์มาร์ ดา ซิลวา จูเนียร์ กับ ดาเนียล อัลเวส สองแข้งชาวบราซิเลียนย้ายออกจาก'คัมป์ นู'ขณะที่ โธมัส แฟร์มาเล่น บาดเจ็บ ซึ่งจะถูกแทนที่โดย อันเดรส อีเนียสต้า, ซามูแอล อุมตีตี้, เปาลินโญ่ หรือ อุสมาน เดมเบเล่ 

'แท็กติกที่เราใช้ในเกมนั้นมันผิดพลาด เราดันขึ้นสูงเกินไปและพวกเขามีพื้นที่เล่นง่ายขึ้น ตอนนี้เราจะไม่ไปที่นั่นด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกยิงหลายประตู'มาโนลาส กล่าวถึงการมาเยือน'คัมป์ นู'ครั้งล่าสุด 

'เราเคารพบาร์เซโลน่า แต่เราตระหนักถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาเช่นกัน'

'เราแสดงให้เห็นมาแล้วในการเล่นรอบแบ่งกลุ่มว่าเราเป็นทีมที่ดี ตอนนี้เราต้องทุ่มเป็นสองเท่าในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก พวกเขาเหนือกว่า แต่เมื่อคุณเล่นกันแบบ 11 ต่อ 11 คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น'

อย่างไรก็ตาม มาโนลาส ยอมรับว่า บาร์เซโลน่า เป็นทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้มากสุดร่วมกับ เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์สองสมัยล่าสุด รวมถึง แมนฯซิตี้ ของ'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า และ ยูเวนตุส ทีมคู่ปรับร่วมเวทีกัลโช่ด้วย 

'บาร์เซโลน่า, เรอัล (มาดริด) และ แมนฯซิตี้ ต่างเป็นทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด'

'ผมคิดว่า ยูเวนตุส มีโอกาสเช่นเดียวกัน พวกเขาเคยชินกับการเล่นเกมระดับนี้' 

โรม่า เคยลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้กับ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งรูปเกมของทีมหมาป่าตกเป็นรองทั้งสองนัด เกมแรกที่'สตาดิโอ โอลิมปิโก้'พวกเขารอดพ้นความพ่ายแพ้จากการโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบของ อาลิสซอน นายทวารทีมชาติบราซิล ทว่า โรม่า ไม่รอดในการมาเยือน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'พ่าย 0-2 จากการสองประตูในช่วงครึ่งหลังของ อองตวน กรีซมันน์ กับ เควิน กาไมโร่ 

ทัพหมาป่าของ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ จะสามารถสร้างเซอร์ไพรส์อย่างที่คาดหวังหรือพ่ายแพ้ตามทรง อีกไม่กี่ชั่วโมงเราคงจะทราบกันครับ...


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})