จำนนด้วยแท็คติก
หลายคนคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับบาร์เซโลน่า!?!?
ทัพอาซูลกราน่าพลิกพ่าย โรม่า 0-3 จนกระเด็นตกรอบควอเตอร์ไฟนัลของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกแบบเหนือความคาดหมาย ช็อคความรู้สึกของสาวกบาร์เซโลนิสต้าทุกหมู่เหล่า
ชาว'กูเล่'ต่างมั่นใจว่าทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศแบบไม่มีปัญหาหลังเปิด'คัมป์ นู'กดทีมหมาป่าในเกมแรกมาด้วยสกอร์ 4-1
สื่อแคว้นกาตาลุนย่ามีความเชื่อมั่นไม่ต่างกันโดยระบุก่อนหน้าเกมเยือน'สตาดิโอ โอลิมปิโก้'เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทีมยักษ์กาตาลันแหย่ขาข้างหนึ่งเข้ารอบตัดเชือกแล้ว
ทว่า'หายนะ'เกิดขึ้นกับทีมของบัลเบร์เด้ที่กรุงโรมหลังพลิกพ่ายทีมหมาป่าแบบคาดไม่ถึง 0-3 ตกรอบด้วยกฎการยิงประตูทีมเยือนหลังเสมอ 4-4
'ผมเสียใจที่เราตกรอบแบบคาดไม่ถึง แต่โรม่าเล่นได้ดีกว่าเราจริงๆ'โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่ากล่าวคำขอโทษสาวกบาร์เซโลนิสต้าผ่านทีวี3 ของนครบาร์เซโลน่า
'โรม่าเล่นกันด้วยแรงจูงใจอย่างแท้จริง พวกเขาแสดงให้เห็นว่าถ้าคุณมีความพยายาม คุณสามารถประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คุณวางไว้'
บาร์เซโลน่า อาจเล่นนอกบ้านบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ไม่จ๊าบนัก หลังทีมของบัลเบร์เด้ชนะครั้งเดียวจาก 4 เกมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบุกเชือด สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ทีมอาซูลกราน่าก็เสียเพียงประตูเดียวในเกมเสมอ เชลซี 1-1 ที่'สแตมฟอร์ด บริดจ์' ก่อนถูกทีมหมาป่าทะลวง 3 เม็ดเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
มันซ้ำรอยการตกรอบเดียวกันนี้เมื่อปีก่อนด้วยฝีเท้าของ ยูเวนตุส เพียงแต่ความรู้สึกมันแตกต่างกัน เนื่องจากทีมยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ บุกไปพ่ายที่ตูริน 0-3 ก่อนทำได้แค่เสมอ 0-0 ที่'คัมป์ นู' ดังนั้นการหงายหลังตกรอบควอเตอร์ไฟนัลในปีนี้จึงช็อคความรู้สึกยิ่งกว่า
การปราชัยก่อนตกรอบแบบคาดไม่ถึงเมื่อคืนวันอังคารย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะบาร์ซ่าแบบหลีกเลี่ยงยาก แต่พวกเขายังมีภารกิจในการลุ้นความสำเร็จอีก 2 รายการอย่าง ลา ลีกา กับ โกปา เดล เรย์ ซึ่งจะลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกับ เซบีย่า ในวันเสาร์ที่ 21 เมษายนนี้
'แน่นอนว่าการพ่ายแพ้ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ แต่เรายังมีอีกหลายเกมสำคัญรออยู่และนักเตะจำเป็นต้องลืมความผิดหวังเพื่อกลับมาสู้กันใหม่'บาร์โตเมว ยอมรับ
ก่อนกล่าวถึงผลงานของบัลเบร์เด้ว่า'ทีมนี้เตรียมมาเพื่อคว้าชัยชนะไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม มันต้องเป็นความรับผิดชอบของ บัลเบร์เด้ ถ้าเขาไม่มีศักยภาพพอก็ต้องให้เทรนเนอร์คนอื่นเข้ามาทำงานแทน'
มันไม่ใช่ค่ำคืนของชาวกาตาลันก็ว่าได้หลัง บาร์เซโลน่า พลิกล็อกตกรอบควอเตอร์ไฟนัลจากหายนะที่กรุงโรม ขณะเดียวกัน แมนฯซิตี้ ของ 'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ก็หยุดเส้นทางบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงรอบ 8 ทีมเช่นเดียวกัน
บัลเบร์เด้ ยืดอกแสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในฐานะเทรนเนอร์ของบาร์เซโลน่า 'เราตอบโต้ไม่ได้เลย ทุกอย่างเข้าทางพวกเขาและเราเล่นตามเกมของเรายากมาก ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเพราะผมคือผู้นำทีม'
'พวกเขาไล่กดดันเราอย่างหนักทำให้เราต้องหันมาเล่นบอลยาว มันทำให้เราต่อเกมกันไม่ติดและยังไม่สามารถแย่งบอลจังหวะสองได้อีก เมื่อคุณเสียการครองบอลและคู่แข่งทำได้ดีกว่า บทสรุปก็มักออกมาเลวร้าย พวกเขาแข็งแกร่งและเรามีปัญหาด้วย'
'ฤดูกาลมันยาวนานและการคว้าแชมป์รายการนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีเพียงทีมเดียวที่เป็นผู้ชนะ เราทราบดีว่าแฟนบอลผิดหวังมากเพียงใดเพราะเราต้องการเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ แต่นี่แหละคือฟุตบอล'
นักเตะที่รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าแฟนบาร์ซ่านั่นคือ อันเดรส อีเนียสต้า ซึ่งอาจจะลงเล่นนัดสุดท้ายบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกไปแล้วเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาหลังมิดฟิลด์วัย 33 ปีกำลังใคร่ครวญถึงการอำลาถิ่น'คัมป์ นู'ในช่วงหน้าร้อนนี้
อีเนียสต้า ถูกถอดออกจากสนามช่วงนาที 81 ก่อน โรม่า จะทะลวงประตูที่ 3 จากการโหม่งของ คอสตาส มาโนลาส อีกหนึ่งนาทีต่อมา ซึ่งกล้องโทรทัศน์จับภาพ อีเนียสต้า ซึ่งแสดงสีหน้าแววตาถึงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
'มันเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นเกมสุดท้ายในแชมเปี้ยนส์ลีกของผมและนั่นยิ่งทำให้เจ็บปวด มันเป็นการตกรอบที่แสนปวดร้าวเพราะไม่มีใครคาดคิดเมื่อดูจากผลการแข่งขันนัดแรก'
'เมื่อคุณทำบางอย่างแย่ๆ ก่อความผิดพลาดมากมายและไม่ปรับการเล่น เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ นี่เป็นความผิดหวังอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้ของเรา'
'พวกเขารู้ดีว่าจะเล่นงานเราตรงไหน มันยากที่จะยอมรับการตกรอบครั้งนี้เพราะเราตั้งความหวังไว้สูง'อีนียสต้ากล่าวด้วยความเซ็ง
บาร์เซโลน่า มีศักยภาพทีมเหนือกว่าชัดเจนและยังกุมความได้เปรียบหลังการคว้าชัยจากเกมแรก 4-1 แต่ต้องยอมรับว่า โรม่า พลิกนรกแย่งตั๋วเข้ารอบตัดเชือกด้วยแท็กติกที่เหนือกว่านั่นเอง ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ เทรนเนอร์คนเก่งของทีมหมาป่า
อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ มิดฟิลด์โรม่ายกย่องการวางหมากของ ดิ ฟรานเชสโก้ ซึ่งจัด'แท็คติก'ข่มทีมอาซูลกราน่าของบัลเบร์เด้จนทัพหมาป่าพลิกนรกกลับแย่งตั๋วเข้าไปเล่นรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ดิ ฟรานเชสโก้ รู้จักแท็คติกของ บัลเบร์เด้ เป็นอย่างดี การนำทีมหมาป่าโค่นทัพอาซูลกราน่าเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องฟลุ้คแต่อย่างใด หลังเทรนเนอร์วัย 48 ปีเคยนำ ซาสซูโอโล่ สยบ แอธเลติก บิลเบา ยุคบัลเบร์เด้ด้วยสกอร์เดียวกันนี้มาแล้ว
ซาสซูโอโล่ ลงดวลกับ แอธเลติก บิลเบา ในรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกฤดูกาล 2016-2017 ซึ่งทีมของ ดิ ฟรานเชสโก้ อัดทีมเยือนจากแคว้นบาสก์พังพาบ 3-0 จากการทำ 3 ประตูในช่วงครึ่งหลังของ โปล ลีโรล่า, เกรกัวร์ เดอแฟรล และ มัตเตีย โปลีตาโน่
'ด้วยความสัตย์จริง เราไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นความเสี่ยงในคืนนี้เพราะบาร์เซโลน่าไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้เราเลย เราจัดเต็มด้วยประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แบบ' ฟลอเรนซี่คุยโว
'แท็คติกของเราเหนือกว่าพวกเขา ถ้าบาร์เซโลน่าไม่มีโอกาสเล่นบอลด้วยเท้าและผ่านบอลไปรอบๆแบบสบายๆ พวกเขาก็ต้องดิ้นรนอย่างที่เห็น'
'ในช่วงครึ่งหลัง โค้ชบอกพวกเราว่านิ่งๆเข้าไว้ ขณะเดียวกันเรารู้ว่าเราสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์นี้ได้ เราสร้างประวัติศาสตร์ในค่ำคืนนี้ โรม่าไม่เคยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศมานานถึง 34 ปีแล้ว'
'ผมชอบการเล่น 3 กองหลัง เพราะมันทำให้ผมสามารถเติมขึ้นทำเกมรุกสะดวกมากขึ้นและสามารถเปิดบอลเข้ากลางบ่อยขึ้น แต่มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโค้ช'
'มันยอดเยี่ยมมากที่เห็นสนามโอลิมปิโก้เต็มความจุ ผมคาดหวังว่าจะเห็นแฟนบอลจำนวนมากแบบนี้ในเกมดาร์บี้แมตช์กับลาซิโอด้วยเช่นกัน'
ดิ ฟรานเชสโก้ ส่ง คอสตาส มาโนลาส, เฟเดรีโก้ ฟาซิโอ กับ ชวน เชซุส ลงเล่น 3 เซนเตอร์ฮาล์ฟ โดยมี ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เควิน สตรอทมัน กับ รัดย่า เนียงโกลัน ซึ่งจะมีส่วนร่วมในการเติมเกมรุกมากขึ้น ทีมหมาป่ายังเจาะแนวรับคู่แข่งจากฟูลแบ็กสองฝั่งทั้ง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กับ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ
ขณะเดียวกันทั้ง เอดิน เชโก้ กับ พาทริค ชีค ยังช่วยกดดันแนวรับทีมอาซูลกราน่าจนแทบจะตั้งเกมตามสไตล์ถนัดของตนเองไม่ได้อีกด้วย
โรม่า ใช้เกมเพรสซิ่งกดดันสูงเล่นงานคู่แข่งตั้งแต่ต้นเกมก่อน เชโก้ จะกดประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 6 ทีมหมาป่ายังเป็นฝ่ายครองบอลและสร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่าทีมอาซูลกราน่า ก่อนบวกเพิ่มอีกสองเม็ดในช่วงครึ่งหลังจากการลูกจุดโทษของ เด รอสซี่ และ การโหม่งเปลี่ยนทางของ มาโนลาส
ทีมหมาป่าทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของสโมสรและพวกเขาคงไม่จำเป็นว่าจะต้องหวั่นเกรงใครอีกแล้วไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับทีมใดก็ตาม
ส่วนบาร์เซโลน่าคงต้องกลับไปเลียแผลใจหลังการตกรอบเดียวกันนี้ 3 ปีติดต่อกัน ซึ่ง บัลเบร์เด้ คงต้องคว้าทั้งแชมป์ ลีกา และ โกปา เดล เรย์ เพื่อปลอบขวัญสาวกบาร์เซโลนิสต้าเท่านั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT