วันที่จำไม่ลืมของเบลลิงแฮม
จูด เบลลิงแฮม อาจไม่ใช่เครื่องจักรผลิตประตูเหมือนในช่วงวันแรกๆกับ เรอัล มาดริด หลังย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่นั่นไม่ได้ลดความสำคัญที่มิดฟิลด์วัย 20 ปีที่มีต่อทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ แต่อย่างใด
มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษยังเป็นชื่อแรกๆในทีมของ อันเชล็อตติ และปรากฎตัวของเขาในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกที่ยังคงมีส่วนรับผิดชอบในการเปลี่ยนผ่านเกมรุกส่วนใหญ่ของ เรอัล มาดริด
ด้วยวัยเพียง 20 ปี นั่นหมายความว่ามิดฟิลด์ชาวอังกฤษสามารถสวมตราสโมสร เรอัล มาดริด ไปอย่างน้อยจนถึงทศวรรษหน้า เมื่อรวมถึงแข้งอายุน้อยอย่าง เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ โกเอส และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ มันพอที่จะบอกได้ว่าอนาคตของทัพ 'โลส บลังโกส' อยู่ในมือที่ปลอดภัย
สำหรับ เบลลิงแฮม ได้กล่าวถึงช่วงเวลาของเขาที่ เรอัล มาดริด จนถึงตอนนี้ เกี่ยวกับความสำเร็จของเขา และการคว้าแชมป์รายการแรกในฐานะมาดริดีสต้า หลังเกมชนะ บาร์เซโลน่า 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
มิดฟิลด์วัย 20 ปี เริ่มต้นด้วยการนึกถึงวันที่เขาเปิดตัวฐานะนักเตะใหม่ของ เรอัล มาดริด และอารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจของเขาในขณะนั้น
'มันเป็นวันที่น่าจดจำ หนึ่งในวันดีที่สุดในชีวิตของผม มันเป็นที่รู้กันว่า เรอัล มาดริด เป็นสโมสรใหญ่ที่สุดในโลก แต่เมื่อคุณได้สัมผัสมันอย่างใกล้ชิด คุณจะพบกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์' เบลลิงแฮม กล่าว
การเล่นที่ เรอัล มาดริด ถือเป็นความฝันของนักฟุตบอลทั่วโลก เพราะพวกเขาไม่เพียงได้เล่นกับทีมระดับหัวกะทิแล้ว แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งด้วย
'เพื่อนร่วมทีมของผมนิ่งมากๆและโค้ชก็ใจเย็นมาก มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม' มิดฟิลด์วัย 20 ปีกล่าวถึงสภาพแวดล้อมที่สโมสรใหม่ของเขา
เจ้าของรางวัล โกลเด้น บอย คนล่าสุดยังกล่าวถึงชีวิตในสเปนของเขาว่ามีความผ่อนคลายที่เขาคิดในแง่บวกอย่างไร
'สิ่งที่ดีที่นี่คือการที่คุณพบปะผู้คนในสถานที่ที่คุณไปบ่อยๆ พวกเขาไม่เห็นคุณในฐานะ จูด เบลลิงแฮม, นักฟุตบอล แต่เป็นเพียง จูด มาดื่มกาแฟและนั่นก็เยี่ยมมาก ผู้คนที่ผมพบในเมืองดูแลผมดีมาก ผมรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน'
ในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน เบลลิงแฮม ได้สร้างช่วงเวลาพิเศษที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ด้วยการทำประตูอันโดดเด่นและการเฉลิมฉลอง
'การเล่นที่ เบร์นาเบว นั้นพิเศษมาก' เบลลิงแฮม กล่าวถึงสนามกีฬาอันเป็นเอกลักษณ์ของทัพ 'โลส บลังโกส'
จากนั้น เบลลิงแฮม ยังพูดถึงภาพถ่ายเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองของเขาในสนาม ซึ่งมิดฟิลด์ชาวอังกฤษยอมรับว่ามันยังคงทำให้เขาตัวสั่นไปถึงสันหลัง
'ผมเห็นรูปนี้ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว มันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจมาก หนึ่งในภาพถ่ายที่ผมชอบ ทั้งทีมอยู่ที่นั่นและมันแสดงให้เห็นถึงด้านที่สร้างสรรค์ที่สุดของผม ผมมีสำเนารูปภาพนี้ซึ่งจะเก็บไว้ตลอดไป'
มิดฟิลด์ชาวอังกฤษยังพูดถึงการแข่งขันรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศ ก่อนเขาจะชูโทรฟี่แชมป์รายการแรกกับ เรอัล มาดริด หลังการสยบทัพอาซูลกราน่า 4-1
'เราควบคุมพวกเขาได้ และผลลัพธ์ก็สะท้อนให้เห็น' เบลลิงแฮม กล่าวถึงเกมดังกล่าว
'ในรอบชิงชนะเลิศ เราได้เห็นคุณภาพของเรา วีนี่ ยอดเยี่ยมมาก โรดรีโก้ ก็เช่นกัน โหดกันทั้งทีม เราเป็นฝ่ายครองเกม และมันสะท้อนให้เห็นในผลการแข่งขัน ผมคว้าแชมป์รายการแรก และมันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก คุณเข้าร่วมสโมสรนี้เพื่อมีชีวิตในช่วงเวลาแบบนี้'
เมื่อถูกถามถึงการคว้าแชมป์รายการแรกในฐานะนักเตะของ เรอัล มาดริด และอารมณ์ที่แล่นเข้ามาในหัวของเขาขณะที่ชูโทรฟี่แชมป์ เบลลิงแฮม ตอบว่า 'มันเป็นเรื่องดีมากที่ในที่สุดก็คว้าแชมป์สำเร็จ หวังว่าจะได้มากขึ้น'
'ผมจะฝึกซ้อมและทำงานหนักสุดเท่าที่สามารถทำได้ จากนั้นกลับบ้านและเป็นเด็กดี ปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความเคารพและทำอย่างนั้นต่อไป'
'มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก และผมภูมิใจกับช่วงเวลานี้มาก การไป ซาอุดิอาระเบีย ในช่วงกลางฤดูกาลและหลังจากเบรคช่วงหน้าหนาวไม่ใช่เรื่องง่าย เราเล่นกับสองทีมที่น่าประทับใจ ผมคิดว่าเราเป็นฝ่ายครองบอลในเกมแรก เราโชคไม่ดี' เบลลิงแฮม กล่าวถึงการต่อสู้อันดุเดือดกับ แอตเลติโก มาดริด ในรอบตัดเชือก
'ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทีมได้แสดงแคแร็กเตอร์ออกมาอีกครั้ง'
เบลลิงแฮม ยังกล่าวถึงการทำประตูของเขาในการลงเล่นเกม 'เอล กลาซิโก้' ครั้งแรกของเขา ซึ่งนำไปสู่ชัยชนะของทัพ 'โลส บลังโกส' ว่า 'มันเป็นประตูโปรดของผม เป็นประตูดีที่สุดของผมจนถึงตอนนี้'
หลังผ่านไปครึ่งทางของฤดูกาล เรอัล มาดริด อยู่ในตำแหน่งที่ดีทั้งบนเวทีลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีก เบลลิงแฮม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า 'การเล่นให้ดีเป็นรายบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันไม่สำคัญถ้าทีมไม่ชนะ การได้เห็นตัวเองอยู่ตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง และจบอันดับ 1 ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ถือเป็นเรื่องดี'
มิดฟิลด์วัย 20 ปียังกล่าวถึงการตกรอบ โกปา เดล เรย์ ของ เรอัล มาดริด โดยมองว่ามันเป็น 'โชคร้าย' แต่ยืนยันว่าไม่มีเวลาจะมองย้อนกลับไปและคร่ำครวญที่ต้องหลุดวงโคจรก่อนเวลาอันควร
'มันโชคไม่ดีใน โกปา เดล เรย์ และผมภูมิใจมากกับความสำเร็จของทีมและผมสามารถช่วยทีมได้ ทีมและนักเตะทุกคนเล่นได้ดีมาก และนั่นช่วยผมได้มาก มันเป็นกีฬาประเภททีม ผมมีบทบาทเฉพาะ แต่ผมมีความสุขมากขึ้นเมื่อทืมเล่นในระดับดีที่สุด'
เบลลิงแฮม ยังพูดถึงการปรับตัวเข้ากับชีวิตในสเปนในแง่ของชีวิตทางสังคม, ภาษา, วัฒนธรรมและความรู้สึกด้านกีฬา
'สิ่งเดียวที่ผมคิดว่าผมทำได้ดีคือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ผมปรับตัวอย่างเต็มที่ทั้งในด้านฟุตบอลและด้านสังคม บางครั้งผมเป็นคนเก็บตัวและผมไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับผมเพราะภาษา'
'เรื่องฟุตบอลเมื่อรู้ว่าจะอยู่ตรงนี้ไปอีกนานและจะมาทำงานทุกวัน สิ่งสำคัญคือต้องทุ่มเททุกอย่างและเปิดใจเรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดและค้นหาความรู้สึกดีๆ เล่นได้ดีและรู้สึกสบายใจ'
การมีระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักฟุตบอลทุกคน และ เบลลิงแฮม เปิดเผยว่าเขาโชคดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในนั้น และยังกล่าวถึงระบบสนับสนุน รวมถึงพ่อแม่และคนที่รักเขา
'ผมได้รับการสนับสนุนมากมาย ผมไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่อีกต่อไป และผมรู้ว่ามันจะต้องมีขึ้นๆ ลงๆ แต่ผมมีความมั่นใจ และคนรอบข้างที่จะยืนหยัดต่อวิกฤต ขอบคุณพวกเขา ผมไม่ได้รับผลกระทบจากช่วงเวลาเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น ผมรู้วิธีที่จะเข้มแข็งและผมโชคดีมากที่มีคนดีๆอยู่รายล้อม'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT