ความคิดที่ต่างจากเดิมของโรดรีโก้
โรดรีโก้ โกเอส ย้ายมาร่วมทีม เรอัล มาดริด ในช่วงหน้าร้อนปี 2019 หลังทัพ 'โลส บลังโกส' ทำข้อตกลงจ่ายเงิน 45 ล้านยูโรกับ ซานโตส หนึ่งปีก่อนหน้านั้น จากการฉายความโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย
ตอนนี้ โรดรีโก้ อายุ 23 ปีเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เขาเติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในแต่ละสัปดาห์ และก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในทีมชุดขาวของ คาร์โล อันเชล็อตติ
เรอัล มาดริด ยังมอบรางวัลตอบแทน โรดรีโก้ ด้วยการขยายสัญญาของแนวรุกชาวบราซิเลียนไปจนถึงปี 2028 ก่อนแข้งวัย 23 ปีจะพูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตและช่วงเวลาของเขาในมาดริดกับ เอล ปาอีส ซึ่งนักเตะยอมรับว่าเขารู้สึกหวาดกลัวต่อบรรดาแข้งดาวดังของทัพ 'โลส บลังโกส' ตอนที่เขามาถึงสโมสร เนื่องจากความเขินอายที่ต้องอยู่ต่อหน้านักเตะที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น
'ในวันแรกของผมกับ เรอัล มาดริด ผมรู้สึกเขินเล็กน้อยตอนมาถึงที่นี่ พร้อมด้วยนักเตะชั้นยอดมากมาย' โรดรีโก้ เปิดใจ
'โค้ชคือ ซีดาน และเมื่อผมพบ ซีดาน ครั้งแรก ความจริงคือผมรู้สึกกลัว แต่มันเป็นช่วงเวลาที่สวยงาม จากนั้นผมได้พูดคุยกับเขา วันนั้นเป็นเหมือนความฝันสำหรับผม'
ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพรสวรรค์ของ โรดรีโก้ แต่เขาไม่ได้มีโชคหน้าประตูเสมอไป หลังแนวรุกชาวบราซิเลียนสนิมเกาะหน้าแข้งจนคลำเป้าไม่เจอถึง 11 เกมติดต่อกันในช่วงก่อนหน้านี้
'ผมโกรธ เพราะผมพยายามทำประตูทุกวิถีทาง แต่มันไม่ได้ผลในช่วงเวลาเหล่านั้น คุณพยายามสงบสติอารมณ์ เพราะมีคนบอกคุณว่า 'ใจเย็นๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอีกครั้ง''
'แต่คุณเห็นว่าคุณพยายามแก้ตัวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันไม่ได้ผลดี และคุณรู้สึกเศร้าและโกรธเล็กน้อย'
อย่างไรก็ตาม โรดรีโก้ กล่าวเสริมว่าการเพิ่มความสงบและโฟกัสไปที่จิตใจมีส่วนช่วยให้เขาก้าวข้ามอุปสรรคนั้นได้ โดยกล่าวว่า 'แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมเห็นว่าความโกรธและความเศร้าไม่ได้ช่วยอะไรผม ผมต้องมีสมาธิมากขึ้น ฝึกซ้อมมากขึ้น ใจเย็นกว่านี้ในการแข่งขัน และจากจุดนี้ประตูก็เริ่มมา'
โรดรีโก้ ยังกล่าวขอบคุณต่อคนๆหนึ่งที่มีความสนิทสนมกับเขาเป็นพิเศษ นั่นคือ ลูก้า โมดริช ซึ่งคำแนะนำของมิดฟิลด์ชาวโครแอตช่วยเขาได้อย่างมาก
'ผมพูดอยู่เสมอว่า ลูก้า โมดริช เป็นเหมือนพ่อคนหนึ่งของผม เขาคอยให้ความช่วยเหลือผมเสมอในช่วงเวลาเหล่านี้ (ตอนที่เขาทำประตูไม่ได้)'
'เขาจะพูดคุยกับผม และบอกผมว่า 'อย่ากังวล คุณเป็นคนเก่งมาก ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย' จากจุดนั้น ผมเริ่มรู้สึกสงบมากขึ้น และสิ่งต่างๆก็ดีขึ้นสำหรับผม'
แนวรุกชาวบราซิเลียนยังเน้นย้ำถึงความสำคัญด้านจิตใจ ซึ่งมาจากความช่วยเหลือของสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาสำหรับการช่วยพัฒนาความยืดหยุ่นจนสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นในปัจจุบัน
'นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้เมื่อมาถึง มาดริด ผมมีความคิด และตอนนี้ผมคิดแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเพื่อนร่วมทีมคอยช่วยเหลือผม และครอบครัวผมกับเพื่อนๆก็ช่วยเหลือผมเช่นเดียวกัน'
'ตอนนี้ผมเห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือสภาพจิตใจ ถ้าคุณใจเย็น ถ้าคุณคิดในสิ่งที่ดี คุณจะแสดงให้เห็นสิ่งดีๆในเกม'
โรดรีโก้ ถูกใช้งานหลากหลายตำแหน่งในแนวรุกของ เรอัล มาดริด ซึ่งแข้งวัย 23 ปียอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาเต็มใจสนองตอบความต้องการของ อันเชล็อตติ เพื่อช่วยพัฒนาทีมให้ดีขึ้น
'มันยากนิดหน่อยที่จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอยู่เสมอ แต่ผมบอกเทรนเนอร์ว่าผมพร้อมเสมอ และผมจะเล่นทุกที่ที่เขาต้องการ ผมบอกเขาว่าผมสามารถเล่นตำแหน่งหมายเลข 9, 10 หรือตำแหน่งปีกก็ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขามักจะวางผมในที่ที่เขาต้องการผม ผมเสียสละตัวเองเพื่อทีม'
'สิ่งสำคัญที่สุดคือทีมต้องชนะเกม ช่วงนี้ของฤดูกาล ผมเสียสละนิดหน่อย การเล่นนอกตำแหน่งและมันสำคัญ เพราะทีมเป็นฝ่ายชนะและแทบไม่แพ้เลยแม้แต่เกมเดียว'
'หลังจากนั้นก็ดีขึ้นเพราะผมเริ่มทำประตูได้ แต่ในช่วงนี้ของฤดูกาล ผมแค่ต้องการช่วยทีม'
เมื่อสัมผัสถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในอาชีพค้าแข้งของเขา โรดรีโก้ มองย้อนกลับไปถึงการพลาดจุดโทษของเขาในเกมกับ โครเอเชีย บนเวทีฟุตบอลโลกปี 2022
'ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในอาชีพของผมมาจนถึงตอนนี้ ผมหวังว่าจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้ มันยาก เพราะผมรับหน้าที่ยิงจุดโทษตอนที่ เบนเซม่า ไม่อยู่ และผมยิงได้ทั้งหมด ผมไปฟุตบอลโลกด้วยความสงบ และผมมั่นใจว่าจะต้องทำประตูได้ แต่ผมล้มเหลว'
แต่ความผิดพลาดครั้งนั้นไม่ได้บั่นทอนความมั่นใจของ โรดรีโก้ และเขายังมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะกลับเข้าสู่วิถีทางเดิมจากจุดนั้น โดยกล่าวว่า 'ผมแน่ใจว่าผมจะรับหน้าที่ยิงจุดโทษอีกครั้ง และทำประตูได้อีกครั้งเหมือนที่ผมเคยทำมาก่อน'
เมื่อถูกถามถึงการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2022 โดย โรดรีโก้ มีบทบาทสำคัญในการเล่นของ เรอัล มาดริด 'ความจริงคือถ้าคุณดูเกมกับ เชลซี หรือ ซิตี้ เราจะเล่นเกมรุกมากขึ้นอีกหน่อย ในการเผชิญหน้ากับ เชลซี พวกเขาเล่นเกมรุกมากและป้องกันได้ดีมาก เราไม่ได้ทำอะไรเลย'
'ช่วงเวลานั้นยากขึ้นเล็กน้อยในการเผชิญหน้ากับ เชลซี แต่แน่นอนว่ากับ ซิตี้ นั้นมันบ้ามาก มันพิเศษ'
'ผมไม่มีทางอธิบายได้ นักเตะอย่าง โมดริช หรือ โครส จะใจเย็นเสมอ แต่ในเกมกับ ซิตี้ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมั่นใจมากนัก เราเหนื่อยกันมาก และไม่มีใครเชื่อว่าเราจะกลับมาได้' แนวรุกวัย 23 ปีกล่าว
เมื่อพูดถึงเรื่องละเอียดอ่อนของการเหยียดเชื้อชาติ โรดรีโก้ กล่าวว่า 'มันเกิดขึ้นมากมาย ไม่ใช่แค่กับผมเท่านั้น มันเกิดขึ้นกับ วินิซิอุส และกับนักเตะคนอื่นๆด้วยเช่นกัน เราอยู่ในช่วงเวลาที่น่าเศร้ามาก เรายังมีคนพูดถึงเรื่องนี้อยู่ ผมพยายามจะไม่ดูโซเชียลมีเดีย แต่มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผม'
'ผมมองเห็นบางอย่าง แต่ในใจผมมีความสงบ ผมคิดว่านักเตะคนอื่นๆ ก็ทำเหมือนกัน และผมแน่ใจว่าเราจะก้าวข้ามอุปสรรคไปได้'
ปัจจุบัน โรดรีโก้ เพิ่งลงเล่นกับทีมชุดขาวครบ 200 เกม เขาทำ 13 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ 35 เกม และทำ 8 ประตูจากการลงเล่นลีกา 24 เกมในซีซั่นนี้และมีบทบาทสำคัญในการต่อการนั่งบัลลังก์จ่าฝูงลีกเมืองกระทิงในขณะนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT