เหตุที่ไม่ควรปลดบัลเบร์เด้

มันอาจเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบหรือความรู้สึกผิดหวังในขณะนั้นหลังทีมตกรอบ 8 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกแบบพลิกความคาดหมาย 

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานบาร์เซโลน่าพูดผ่านสื่อหลังการปราชัยต่อ โรม่า 0-3 ทำนองว่าอาจพิจารณาเลือกเทรนเนอร์คนอื่นเข้ามาเสียบแทน เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ที่ล้มเหลวบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก 

'ทีมนี้ถูกสร้างมาเพื่อคว้าแชมป์ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆ มันเป็นความรับผิดชอบของ บัลเบร์เด้ หากเขาไม่มีศักยภาพพอก็ต้องให้โค้ชคนอื่นมารับงานแทน' 

จากหน้าที่การงานที่เคยมั่นคงแข็งแรงหลังทำทีมมีลุ้นฟาด 3 แชมป์ตั้งแต่การคุมทีมปีแรกตามรอย'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า และ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ทว่าหลังการพ่ายแพ้แบบคาดไม่ถึงเพียงเกมเดียวมันสั่นคลอนเก้าอี้ของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้แบบเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากภาพรวมของทีมอาซูลกราน่าในฤดูกาลนี้ถือว่า บัลเบร์เด้ ยังมีความดีความชอบพอสำหรับการนั่งเก้าอี้เทรนเนอร์บาร์เซโลน่าต่อไปในซีซั่นหน้า

ทีมอาซูลกราน่ายังมีโอกาสลุ้น'ดับเบิ้ลแชมป์'ปลอบขวัญสาวกบาร์เซโลนิสต้า หลังทีมของบัลเบร์เด้ต้องการอีกเพียง 7 คะแนนจาก 6 เกมสุดท้ายเพื่อฟาดแชมป์ลีกาสมัยที่ 25 

บาร์เซโลน่า ยังมีลุ้นสอยแชมป์'โกปา เดล เรย์'สมัยที่ 30 โดยมีคิวลงเล่นนัดชิงชนะเลิศกับ เซบีย่า บนสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'ในวันเสาร์นี้ 

บัลเบร์เด้ ยังจารึกชื่อว่าเป็นเทรนเนอร์ประวัติศาสตร์ของทีมยักษ์กาตาลุนย่าเมื่อนำทีมสร้างสถิติใหม่ประดับวงการลูกหนังเมืองกระทิงด้วยการไม่แพ้บนเวทีลีกา 39 เกมติดต่อกันทำลายผลงานเดิมของ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเคยไม่ปราชัย 38 นัดในช่วงปี 1979-1980 

บาร์เซโลน่า ของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ไม่แพ้บนเวทีลีกา 32 เกมบวกกับผลงานในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ อีก 4 เกม 

ดังนั้นมันจึงเป็นความชอบธรรมของ บัลเบร์เด้ ที่ยังมีโอกาสและเวลาสำหรับการทำงานในฐานะเทรนเนอร์ของบาร์เซโลน่าต่อไป 

มันมีอย่างน้อย 4 เหตุผลที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ไม่ควรใช้อารมณ์ชั่ววูบหรือความรู้สึกในขณะนั้นตัดสินใจปลดเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ออกจากตำแหน่ง

1.ยังไม่มีเทรนเนอร์ที่ดีพอสำหรับบาร์ซ่า 

สาวกบาร์เซโลนิสต้าอาจรู้สึกไม่พอใจกับผลการแข่งขันที่ผ่านมาโดยเฉพาะเกมพลิกล็อกพ่ายทีมหมาป่าจนตกรอบ 8 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ถ้าพิจารณาจากผลงานโดยรวมโดยเฉพาะการเล่นที่'คัมป์ นู'จะเห็นได้ว่าทีมอาซูลกราน่ามีพัฒนาการจากฤดูกาลที่ผ่านมา บัลเบร์เด้ทำงานได้ดีมากจนทีมยักษ์กาตาลันนั่งแท่นเป็นจ่าฝูงลีกา

การตัดสินใจปลดบัลเบร์เด้จะไม่เป็นผลดีต่อสโมสรแน่นอนเนื่องจากยังไม่มีเทรนเนอร์ที่มีคุณภาพซึ่งตรงตามความต้องการของบาร์เซโลน่าอยู่ในตลาดตอนนี้ 

แม้หลายคนอาจเคยถกเถียงว่า บัลเบร์เด้ ไม่ใช่เทรนเนอร์เกรด เอ ก่อนที่ทีมอาซูลกราน่าจะเลือกเขามารับงานต่อจาก หลุยส์ เอ็นรีเก้ ก็ตาม แต่เขามีสถิติที่ดีในฐานะเทรนเนอร์ของ แอธเลติก บิลเบา ก่อนจะย้ายมาทำงานที่'คัมป์ นู'ดังนั้นการเลือกปลดเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ออกจากตำแหน่งจะเป็นเหมือนการถอยหลังลงคลองก็ว่าได้ 

นับจากอดีต บาร์เซโลน่า เป็นสโมสรที่พิถีพิถันในการคัดสรรเทรนเนอร์ พวกเขาพิจารณาเลือกเทรนเนอร์จากหลายปัจจัยโดยคำนึงถึงปรัชญาของสโมสรเป็นหลัก 

บัลเบร์เด้ เคยค้าแข้งกับบาร์เซโลน่าก่อนจะถูกมาเป็นเทรนเนอร์ในปัจจุบัน เขาจึงมี'DNA'ของ บาร์ซ่า ซึ่งมองหาแทบไม่พบในตลาดเทรนเนอร์ตอนนี้ ดังนั้นทีมยักษ์กาตาลุนย่าจึงควรเก็บเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ทำงานต่อไปอีกหนึ่งปีอย่างน้อยดีกว่าปลดออกจากตำแหน่งเพราะคงหาตัวแทนที่ดีกว่ายาก 

2.บาร์ซ่ากำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ 

บัลเบร์เด้ กลายเป็นเทรนเนอร์บาร์เซโลน่าที่ตกเป็นเป้าวิจารณ์มากสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่ต้องเข้าใจว่าเทรนเนอร์ชาวบาสโก้เข้ามารับงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้เล่นหลายคนอายุมากขึ้นและมีความจำเป็นจะต้องเติมนักเตะสายเลือดใหม่เข้าสู่ทีมเพื่ออนาคต 

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเลือดเก่าที่ถูกถ่ายออกจากทีมหลังมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ตกเป็นตัวสำรองในยุคของ บัลเบร์เด้ เขาจึงต้องผ่าทางตันด้วยการตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งในศึกไชนีสซูเปอร์ลีกในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ อันเดรส อีเนียสต้า มิดฟิลด์กัปตันทีมกำลังเจริญตามรอยมาสเคราโน่ ส่วน เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กำลังอยู่ในช่วงโรยลาเช่นเดียวกัน

การเซ็นสัญญากับ เปาลินโญ่ เป็นหนึ่งในดีลที่คุ้มค่าเนื่องจากมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมีส่วนผลักดันทีมของบัลเบร์เด้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง แม้เปาลินโญ่จะไม่ใช่ผู้เล่นระดับซุปตาร์เหมือนที่ทีมอาซูลกราน่าเคยดึงมาเข้าสังกัดก่อนหน้านี้ แต่เขาก็เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามขั้นตอนของการสร้างทีมใหม่ 

ขณะที่ผู้เล่นอายุน้อยๆอย่าง ซามูแอล อุมตีตี้ หรือ เนลซอน เซเมโด้ ไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะลงหลักปักฐานกับทีมได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาต่างทำผลงานได้ดีและจะมีส่วนสำคัญต่อทีมอาซูลกราน่าทั้งปัจจุบันและในอนาคต 

3.'ดับเบิ้ลแชมป์'ไม่ใช่การจบซีซั่นที่เลวร้าย

ยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า สมควรคว้าแชมป์ทุกรายการที่พวกเขามีส่วนร่วม แม้ความล้มเหลวบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกจะทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยในความสามารถของ บัลเบร์เด้ แต่ทีมอาซูลกราน่าก็เคยตกรอบ 8 ทีมรายการนี้มาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังการปราชัยต่อ แอตเลติโก มาดริด และ ยูเวนตุส นับตั้งแต่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ นำทีมคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2014-2015

แต่ทีมของบัลเบร์เด้ยังมีโอกาสสอย'ดับเบิ้ลแชมป์'ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะแชมป์ลีกาสมัยที่ 25 ซึ่งอาจทำสำเร็จภายในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้เนื่องจากทีมของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ต้องการอีกเพียง 7 แต้มจากการลงเล่น 6 เกมสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้นและมีโอกาสเข้าป้ายหลังแมตช์'เอล กลาซิโก้'กับ เรอัล มาดริด ในวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ 

บัลเบร์เด้ ยังมีโอกาสประเดิมคว้าแชมป์แรกในวันเสาร์นี้ด้วย เมื่อทีมอาซูลกราน่ามีคิวลงเล่นนัดชิงชนะเลิศของศึก'โกปา เดล เรย์'บนสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'กับ เซบีย่า ถ้าหากฟ้าไม่ผ่ากลางนครมาดริดซะก่อน เทรนเนอร์ชาวบาสโก้คงคว้าแชมป์รายการแรกมาปลอบประโลมสาวกบาร์เซโลนิสต้าตามเป้าหมาย 

การคว้า 3 แชมป์อาจเป็นเป้าหมายหลักตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นใหม่ แต่สาวกบาร์เซโลนิสต้าคงมีความสุขไม่น้อยกว่ากันหากทีมเลิฟฟาด'ดับเบิ้ลแชมป์'ในปีนี้ หลังเคยทำได้แค่มองดูความสำเร็จของทีมคู่ปรับอย่าง เรอัล มาดริด สอย'ดับเบิ้ลแชมป์'เมื่อปีก่อนทั้ง ลีกา และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่พวกเขาได้เพียงแชมป์ โกปา เดล เรย์ ประดับตู้โชว์เท่านั้น 

4.ทีมยังต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติม 

บัลเบร์เด้ ยังทำงานในช่วงปีแรกและเกือบจะแน่นอนว่าเทรนเนอร์ชาวบาสโก้น่าจะจบฤดูกาลด้วยการนำทัพอาซูลกราน่าฟาด'ดับเบิ้ลแชมป์'

สิ่งที่สาวกบาร์เซโลนิสต้าบางส่วนไม่ได้พิจารณาถึงคือเรื่องดีๆที่จะเข้ามาสู่ทีมในช่วงเดือนหรือปีต่อๆไป 

นั่นคือยังมีที่ว่างสำหรับการพัฒนาทีมต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาจากความพรั่งพร้อมสมบูรณ์ของนักเตะเยาวชนของสโมสรในปัจจุบัน 

ควบคู่ไปกับ ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ สตาร์บราซิเลียนที่จะสามารถลงเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในซีซั่นหน้า ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับสโมสร อีกทั้ง บัลเบร์เด้ ยังสามารถนำข้อบกพร่องในฤดูกาลนี้มาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาเรื่องแท็คติกและวิธีการเล่นเพื่อความสำเร็จในฤดูกาลต่อไป 

ทั้งหมดคือความดีความชอบของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ที่ยังสมควรได้รับโอกาสทำงานในฐานะเทรนเนอร์ของบาร์เซโลน่าอีกครั้ง