บทอำลาอีเนียสต้า
ตำนาน บาร์เซโลน่า และ สเปน ประกาศอำลาอาชีพค้าแข้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังการค้าแข้งมาอย่างโชกโชนยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ
เหตุผลที่อดีตแข้งวัย 40 ปีเลือกประกาศรีไทร์ในวันที่ 8 ตุลาคม เนื่องจากเป็นวันที่เขาสวมเสื้อหมายเลข 8 ตลอดอาชีพค้าแข้งอันรุ่งโรจน์ของเขา
งานดังกล่าวจัดขึ้นที่ บาร์เซโลน่า มีแขกรับเชิญมากกว่า 450 คนเข้าร่วมอำลา อีเนียสต้า โดยมีบุคคลในวงการฟุตบอลอย่าง โจน ลาปอร์ต้า ประธานบาร์ซ่า, อันแดร์ซอน เดโก้ และอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เคราร์ด ปีเก้, เซร์จี้ โรเบร์โต้, เซร์จี้ ซามเปร์ และ มาร์ก บาร์ตร้า
ขณะที่นักเตะชุดปัจจุบันอย่าง อันซู ฟาตี, โรนัลด์ อาเราโฮ และ ดาเนียล โอลโม่ รวมถึงเทรนเนอร์ ฮันซี่ ฟลิค ก็เข้าร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติแก่ อีเนียสต้า ต่อสโมสรและวงการฟุตบอล
'ผมไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึง แต่นี่คือน้ำตาแห่งความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจ ไม่ใช่ความเศร้า นี่คือน้ำตาของเด็กจาก ฟวนเตอัลบีย่าที่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล และผมก็ทำสำเร็จ พวกเราทำได้ ผมภูมิใจมากกับเส้นทางนี้' อีเนียสต้า กล่าว
อีเนียสต้า ยังพูดถึงเส้นทางอาชีพของเขาตั้งแต่อยู่ที่ ลา มาเซีย จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสร
'ลา มาเซีย เปลี่ยนแปลงผมไปตลอดกาล มันคือสถานที่ที่ผมสามารถทำหน้าที่ส่งเสริมคุณค่าที่ควรมีในชีวิตได้ดีที่สุด และผมยังรู้สึกขอบคุณผู้คน, ครู และเพื่อนร่วมคลาสทุกคนด้วย นี่คือช่วงเวลาที่กำหนดชีวิตของเราอย่างไม่ต้องสงสัย'
'การได้มา บาร์ซ่า คือความฝัน และผมมุ่งมั่นที่จะทำให้มันเกิดขึ้นจริง ความพยายามนั้น ตอนอายุ 12 ปี การได้มา บาร์เซโลน่า พร้อมกับความหมายทั้งหมดนั้น ไม่สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของผมจากสิ่งที่ผมมีได้'
'ผมมาถึงสถานที่ที่ดีสุดที่จะทำให้ความฝันที่อยู่ข้างหน้าเป็นจริง'
อีเนียสต้า ยังรำลึกถึงช่วงเวลาของเขากับ บาร์เซโลน่า เขากล่าวขอบคุณโค้ชทุกคน โดยเฉพาะ หลุยส์ ฟาน กัล บอสชาวดัตช์ที่ทำให้เขามั่นใจที่จะเติบโตต่อไป
'ผมไม่สามารถยกย่องโค้ชคนใดเหนือกว่าใครได้ แต่ผมไม่สามารถลืม หลุยส์ ฟาน กัล ได้ ผมต้องการเน้นย้ำถึงความกล้าหาญและความมั่นใจของเขาที่จะเดินตามเส้นทางนี้'
'บาร์ซ่า เปลี่ยนชีวิตผม และมันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผม ผมไม่สามารถลืมนักเตะและผู้คนที่ทำให้ชีวิตนี้พิเศษได้'
อีเนียสต้า ตัดสินใจอำลาสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เพื่อย้ายไปเล่นกับ วิสเซล โกเบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา แต่ 5 ปีในประเทศญี่ปุ่นถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าสำหรับเขาเช่นกัน
'ในปี 2018 ผมตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง และมีความเสี่ยงอยู่บ้าง นั่นคือการออกจาก บาร์ซ่า เพื่อไปยังอีกฟากหนึ่งของโลก ประเทศญี่ปุ่น มาที่ โกเบ หลังจาก 5 ปีที่ญี่ปุ่น ผมบอกได้เลยว่าประสบการณ์นั้นยอดเยี่ยมมาก'
เมื่อมองย้อนกลับไปในอาชีพค้าแข้ง อีเนียสต้า ได้เน้นย้ำถึงช่วงเวลาพิเศษต่างๆอย่างเช่น การเปิดตัวที่ คัมป์ นู และการคว้าแชมป์มากมายร่วมกับ บาร์เซโลน่า
'วันที่ผมเปิดตัวที่ บรูช ในฐานะนักเตะอาชีพ และที่ คัมป์ นู ในวัน Three Kings Day กับ เรเกรอาติโบ จากนั้นก็มาถึงสิ่งที่ตามมา แล้วมาถึงช่วงเวลาแห่งการคว้าแชมป์ที่ทำให้ผมมีความสุข'
อดีตมิดฟิลด์วัย 40 ปียังกล่าวถึงความหวังที่จะกลับมายังสโมสรอีกครั้งในบทบาทโค้ชในอนาคต ด้วยความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับสถานที่ที่หล่อหลอมเส้นทางอาชีพของเขา
'ผมหวังว่าโค้ชจะอยู่ที่นี่ไปอีกหลายปี นี่จะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขากำลังประสบความสำเร็จ' อีเนียสต้า กล่าว 'จากภายนอก คุณต้องคอยสนับสนุน ตอนนี้ผมยังไม่ได้เข้าเรียนคลาสแรกด้วยซ้ำ'
'ผมอยากกลับไป บาร์เซโลน่า อีกครั้งในชีวิต ผมคิดว่าเราเคยมีอิทธิพลมากมายและด้วยระยะเวลาหลายปีที่อยู่กับสโมสรแห่งนี้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราต้องเป็นเช่นนั้น'
'เมื่อผมรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำในสิ่งที่เคยทำในฐานะนักเตะได้ในบทบาทอื่นๆ ผมคงรู้สึกยินดีมาก หากวันหนึ่งผมเป็นโค้ช ผมคงเป็นโปรไฟล์ของ อีเนียสต้า เหมือนคนอื่นๆ'
อีเนียสต้า อำลาอาชีพค้าแข้งด้วยความภาคภูมิใจและได้ทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนไว้เบื้องหลังให้แฟนๆ บาร์เซโลน่า เกมสุดท้ายของเขากับสโมสรยังคงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาอันน่าจดจำที่สุดของเขา และผลงานของเขาจะถูกจดจำตลอดไป
'เกมสุดท้ายกับ บาร์ซ่า เป็นหนึ่งในเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดที่ผมเคยเล่นมา ผมรู้สึกเหมือนกำลังโบยบินอยู่ ผมจำมันได้แบบนั้น แน่นอนว่ามันแวบเข้ามาในหัว ก่อนที่ผมจะจากไป หลังจากนั้น ความคิดของผมคือการอำลา บาร์ซ่า และสถานการณ์และช่วงเวลาต่างๆ'
'บาร์ซ่า ต้องการให้คุณทุ่มเท 300 เปอร์เซ็นต์ และผมรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ผมออกจาก บาร์ซ่า ในช่วงเวลาที่แฟนบาร์ซ่าต่างจดจำได้อย่างยอดเยี่ยม'
'นักเตะที่จากไปในช่วงเวลาที่น่าประทับใจและจะคงอยู่ตลอดไป'
อีเนียสต้า ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ดีสุดที่เคยเล่นกับ บาร์เซโลน่า เขาได้รับความรักและความปรารถนาดีจากอดีตเพื่อนร่วมทีมและอดีตโค้ชของเขา พร้อมคำอวยพรมากมายสำหรับอดีตแข้งวัย 40 ปี
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตเทรนเนอร์บาร์ซ่าเล่าถึงความคิดในแง่ดีของ อีเนียสต้า ทำให้ทีมมีกำลังใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากว่า 'หลังการพ่ายแพ้ เขาเข้ามาในห้องแต่งตัวและบอกกับผมว่าทุกอย่างจะโอเค ตอนนั้นเราอยู่ในโซนตกชั้น เก็บได้เพียง 1 จาก 6 แต้ม นั่นเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก เขาช่วยเราได้มาก'
ขณะที่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ซึ่งเคยเป็นทั้งเพื่อนร่วมทีมและเจ้านายได้สะท้อนถึงพัฒนาการของ อีเนียสต้า จากนักเตะคนหนึ่งที่ก้าวสู่ตำนานกล่าวว่า 'ผมมีโอกาสได้เป็นเพื่อนร่วมทีม ได้เห็นเขาพัฒนา และได้เห็นเขาในฐานะนักเตะและผมในฐานะโค้ช ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความเอาจริงเอาจัง'
'มันสะท้อนถึงสถานการณ์นั้นตอนที่เรายังเด็ก เล่นอยู่บนถนนจนกระทั่งแม่ของคุณโทรหา และคุณมองไม่เป็นลูกบอลอีกต่อไป'
โค้ชอีกคนที่หวังดีต่อ อีเนียสต้า ก็คือ หลุยส์ ฟาน กัล ได้กล่าวถึงอดีตลูกทีมคนนี้ว่า 'เขาเป็นคนถ่อมตัวมาก เขามีใบหน้าขาวซีดมาก มันเหลือเชื่อมากที่เขาคว้าแชมป์มากมากขนาดนี้ คุณควรรู้ว่าผมเคารพคุณมาก ไม่ใช่แค่ในฐานะนักฟุตบอลเท่านั้น แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งด้วย'
ด้าน บีเซนเต้ เดล บอสเก้ อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนกล่าวถึง อีเนียสต้า ว่า 'เขาดูไม่มีพรสวรรค์ทางร่างกายเลย แม้ว่าเทคนิคจะพิเศษ แต่ร่างกายช่วยให้เขาไปถึงจุดสูงสุดในอาชีพนักฟุตบอลได้เช่นกัน'
'เขาดูเงียบๆ แต่เมื่อเขาไม่ชอบอะไร เขาจะแสดงสีหน้าแบบนั้นให้เห็น ผมจำเสียงปรบมือที่สนาม เอสปันญ่อล ใน กอร์เนย่า ในครึ่งสนามของฝ่ายตรงข้ามได้'
อดีตเพื่อนร่วมทีมและอีกหนึ่งตำนานของสโมสรอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ได้กล่าวชื่นชม อีเนียสต้า ว่า 'หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่มีเวทมนตร์มากที่สุดและเป็นคนที่ผมสนุกกับการเล่นด้วยมากที่สุด อันเดรส อีเนียสต้า ลูกบอลจะคิดถึงคุณ และพวกเราทุกคนก็เช่นกัน ผมขออวยพรให้คุณโชคดีเสมอ คุณคือปรากฎการณ์'
สำหรับ เปโดร โรดรีเกซ อดีตแนวรุกบาร์ซ่าได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลาพิเศษร่วมกับ อีเนียสต้า เช่นกัน โดยกล่าวว่า 'มันเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันช่วงเวลาพิเศษมากมายร่วมกับคุณ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมอบให้กีฬาที่ยอดเยี่ยมนี้'
'คุณเป็นแบบอย่างสำหรับทุกคน ไม่เพียงเพราะสิ่งที่คุณทำ ซึ่งเป็นเรื่องบ้าๆบอๆเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะวิธีที่คุณทำมาตลอด นั่นคือด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน การทำงานหนัก และพรสวรรค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้เล่นดีที่สุดในประวัติศาสตร์'
ส่วน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า กล่าวถึงตำนานแข้งวัย 40 ปีว่า 'ผมมี อันเดรส เป็นนักเตะในช่วงแรกที่ผมนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร และความสัมพันธ์ของเขาก็ดีมาก เขาเป็นนักเตะคนหนึ่งที่สร้างจิตวิญญาณของทีม และเป็นนักฟุตบอลที่มีความทุ่มเทมาก'
'ในความทรงจำร่วมกันกับสาวก กูเล่ ความสง่างามนั้นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การหมุนตัว และการเลี้ยงบอลของเขา'
'นอกเหนือจากคุณสมบัติของเขาในเกมแล้ว ผมยังชื่นชมความอ่อนน้อมถ่อมตนที่เขาแสดงออกมาขณะเล่น ซึ่งทำให้คุณภูมิใจที่เป็นแฟนบาร์ซ่า และเขายังได้รับความรักจากทุกคนจากน้ำใจนักกีฬาและความเป็นมนุษย์ที่เขาถ่ายทอดออกมา'
เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาใดที่น่าจดจำที่สุดของ อีเนียสต้า ในฐานะนักเตะ บาร์เซโลน่า, ลาปอร์ต้า ตอบว่า 'ช่วงเวลาที่ผมจำได้มากที่สุดคือประตูที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ยังมีการเล่นและการกระทำหลายอย่างของเขาที่ฝังแน่นอยูในใจของแฟนๆ บาร์เซโลน่า ตลอดไป'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT