:::     :::

'ผมทุ่มสุดตัวเพื่อทีม'วัลเวร์เด้

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
275
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ มิดฟิลด์ทีมชาติอุรุกวัยกลายเป็นทายาทหมายเลข 8 ของ เรอัล มาดริด ต่อจาก โทนี่ โครส หลังแข้งชาวเยอรมันประกาศอำลาสโมสร

เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งแข้งอาวุโสและขุมกำลังสำคัญของ เรอัล มาดริด นับตั้งแต่ขยับขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด แบบเต็มตัวในซีซั่น 2018-2019 หลังย้ายไปเล่นกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ด้วยสัญญายืมตัวฤดูกาลก่อนหน้านั้น 

'ด้วยความสัตย์จริง เฟเดรีโก้ตัวน้อยไม่เคยคิดว่าเขาจะพัฒนาได้ขนาดนี้ แม้แต่เรื่องการป้องกันด้วยซ้ำ ผมคิดว่าการมาที่นี่ ที่ เรอัล มาดริด ทักษะการป้องกันของผมพัฒนาขึ้นมาก'

'และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ช่วยให้ผมไปถึงระดับนี้ จนกลายเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างที่ผมคิดว่าผมเป็นอยู่ทุกวันนี้'

วัลเวร์เด้ ยังแสดงความคิดเห็นถึงความท้าทายที่เขาเผชิญเมื่อมาถึงยุโรปจากอเมริกาใต้และสไตล์การเล่นฟุตบอลที่หลากหลาย โดยกล่าวว่า 'ในทางเศรษฐกิจ การมายุโรปทำให้คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงจนถึงจุดที่บางครั้งคุณไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร'

วัลเวร์เด้ ยังเผยถึงความสนใจครั้งแรกของ เรอัล มาดริด ที่ต้องการเซ็นสัญญากับเขาในปี 2015 ว่า 'ผมคิดว่ามันเป็นช่วงก่อนเกมกับ อาร์เจนตินา (ศึก โกปา อเมริกา ชุดยู-17 เมื่อปี 2015) พ่อแม่ของผมนอนที่โรงแรมเดียวกับพวกเรา พวกเขาขอให้ผมไปที่ห้องของพวกเขา เมื่อผมเห็นหน้าพวกเขา ผมรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น'


'ผมไม่เคยเห็นพ่อแม่ร้องไห้เลย การเห็นพวกเขาร้องไห้แบบนั้นมันช่างน่าตื้นตันใจ แต่บอกตามตรง ผมสงสัยว่ามันเป็นเรื่องตลกหรือเปล่า แล้วเมื่อคุณรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง คุณจะอยากกลับไปนอนบนเตียงได้อย่างไร? มันเป็นเหมือนความฝัน และผมมีความสุข'

ก่อนหน้านี้ วัลเวร์เด้ ไม่ใช่นักเตะที่ชื่นชอบการฝึกซ้อมมากนัก แต่ยอมรับว่าตอนนี้เขายอมรับว่าตอนนี้เขาเต็มใจที่จะทุ่มเทเวลาเพิ่มเติมในการต่อสู้เพื่อตำแหน่งมากขึ้น

'ใช่, มากกว่านี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะได้ลงเล่นตัวจริง ผมพร้อมจะเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่เนื่องจากเรามีผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลก (ติโบต์ กูร์กตัวส์) นั่นจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ (หัวเราะ)'

'สิ่งสำคัญที่สุดคือผมได้เรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองเพื่อจะอยู่ในตำแหน่งที่โค้ชต้องการให้ผมอยู่ ผมพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะในเกมรับหรือเกมรุก' 

'ผมพยายามปรับตัวเข้ากับคำแนะนำและนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด ผมเคยเล่นเป็นแบ็กขวากับ ซีเนดีน ซีดาน และ คาร์โล อันเชล็อตติ ผมทุ่มเททุกอย่าง ทุกที่'

แม้ วัลเวร์เด้ จะเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในธุรกิจปัจจุบัน แต่เส้นทางสู่การเป็นยอดแข้งของเขานั้นไม่ง่ายเลย เมื่อพูดถึงช่วงเวลาที่ท้าทายสุดสำหรับเขาที่ต้องเผชิญมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งมิดฟิลด์วัย 26 ปียอมรับว่าการตกชั้นกับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า เป็นเรื่องยากสุดสำหรับเขา


'ใช่, เราตกชั้น (กับ เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ในฤดูกาล 2017-2018) ผมไม่เคยคิดว่ามันจะจบลงแบบนี้เลย เมื่อพิจารณาจากนักเตะที่เรามี มันแย่ แต่มันทำให้ผมเติบโตขึ้น บางทีบางคนอาจคิดว่าผมไม่สนใจ ผมจะกลับมาที่ เรอัล มาดริด อย่างใจเย็น'

'แต่ผมต้องทนทุกข์มาก ผมคิดว่าผมเป็นผู้เล่นที่ชอบปกป้องทีมที่เล่นให้และบอกกับตัวเองว่าเขาทุ่มเททุกอย่างแล้ว การตกชั้นของสโมสรที่เปิดกว้างสำหรับผมคือคราบที่ลบไม่ออก ผมหวังว่าพวกเขาจะหวนคืนสู่เวที ลา ลีกา'

วัลเวร์เด้ ยังกล่าวถึงความสำคัญของ ซีดาน ตำนานสโมสรว่า 'แน่นอนว่าผมชื่นชมเขาเสมอมาในฐานะนักเตะและตำนานของวงการฟุตบอล แต่หลังจากนั้นเขากลายเป็นเหมือนพ่อมากขึ้น นั่นคือมุมมองของผม'

'ไม่ว่าผมจะได้ลงเล่นมากหรือไม่ก็ตาม เขาคอยช่วยเหลือคุณเสมอ คอยเติมพลังให้คุณหลังการฝึกซ้อม นั่นมันยอดเยี่ยมมาก ที่นี่ทุกคนพูดแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับตัวเอง'

เมื่อถูกถามถึงความแตกต่างระหว่าง ซีดาน กับ อันเชล็อตติ, มิดฟิลด์ชาวอุรุกวัยตอบว่า 'ผมไม่เห็นความแตกต่างมากนักระหว่างเขากับ ซีดาน พวกเขามีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งสองคนเป็นโค้ชที่รู้จักนักเตะแต่ละคนเป็นอย่างดี พวกเขายังส่งพลังบวกให้กันเสมอ'


วัลเวร์เด้ ยังพูดถึงสิ่งที่ตนเองยังต้องปรับปรุงว่า 'การเล่นในพื้นที่ว่าง ผมต้องทำแบบนั้นให้มากขึ้น ผมอยากจะบอกด้วยว่าผมต้องใจเย็น ผมต้องรักษาความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ ในแบบของผมที่ต้องทุ่มสุดตัวเสมอ และถ้าไม่เป็นเช่นนั้น การพัฒนาเท้าซ้ายของผมก็น่าจะเป็นเรื่องดี ผมยังต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย'

อันเชล็อตติ ได้ขอให้ทีมทำงานให้ดีขึ้นทั้งรุกและรับในฤดูกาลนี้หลายครั้ง หลังทีมชุดขาวแสดงให้เห็นถึงการขาดความสมดุล และบรรดานักเตะก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

'ในความเห็นของผม มีนักเตะหลายคนที่ไม่จำเป็นต้องเล่นเกมรับจริงๆ มันเป็นเรื่องดีที่พวกเขาช่วยเราบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็เหมือนกับกองหลัง ไม่มีใครคาดว่าให้พวกเขาเล่นเกมรุกตลอด 90 นาทีใช่ไหม?' 

'มันเป็นเรื่องของการเข้าใจเกม โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่รังเกียจที่จะช่วยกองหน้าของเรา เพื่อให้พวกเขาได้ประโยชน์ ผมอยากให้พวกเขาทำได้ 2 หรือ 3 ประตูด้วย'

มิดฟิลด์ทีมชาติอุรุกวัยยังกล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียนรู้จาก โทนี่ โครส อดีตมิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีมที่ตัดสินใจอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า 'การได้เล่นกับพวกเขาทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อยไปหลายปี พวกเขาให้คำแนะนำผมมากมาย พวกเขาทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าคุณอยู่กับสโมสรยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และคุณต้องกระหายคว้าชัยชนะ'

วัลเวร์เด้ ยังกล่าวชื่นชอบ โครส มากเป็นพิเศษและยังเปรียบเทียบระหว่างมิดฟิลด์ชาวเยอรมันกับ การ์ลอส กาเซมีโร่ ซึ่งเป็นเสาหลักคอยสนับสนุนเขาด้วย

'ในฐานะแฟนบอล ผมชื่นชม โทนี่ โครส มาก ทั้งในด้านเทคนิคและแท็คติกของเขา ผมคงมอบรางวัล บัลลง ดอร์ ให้เขาไปแล้ว'ื

'เขาเป็นคนใกล้ชิดกับนักเตะดาวรุ่ง คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือพวกเขา เขาตั้งใจดีเสมอมาก ที่จริงแล้ว การได้ลงเล่นเพียงหนึ่งนาทีกับนักเตะระดับนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ผมมีความสุขแล้ว'


คำถามต่อมาคือเขารับช่วงต่อหมายเลข 8 ของ เรอัล มาดริด ต่อจาก โครส ซึ่ง วัลเวร์เด้ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาในการแบกรับภาระความรับผิดชอบต่อจากมิดฟิลด์ชาวเยอรมัน

'ลึกๆแล้ว ผมต้องการหมายเลขนั้นมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่ผมไม่รู้ ผมมีข้อสงสัย กลัวว่าจะไม่ได้มัน เรากำลังพูดถึงนักเตะที่ทิ้งรอยประทับใจไว้ในประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ ประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกโดยย่อ'

'ผมมีข้อสงสัยมากมาย ผมลังเล แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยอมรับมัน และเขาก็มันส่วนสำคัญมาก'

วัลเวร์เด้ เป็นหนึ่งในนักเตะอายุมากสุดในทีม และเขามีบทบาทเพิ่มเติมในการชี้นำพรสวรรค์ของผู้เล่นอายุน้อย เช่นเดียวกับสิ่งที่ โครส เคยทำกับเขาด้วย

'ตอนนี้ผมเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอายุมากสุดในห้องแต่งตัว ใช่, ผมพยายามเล่นบทบาทผู้เฒ่าแก่ อาร์ดา กูเลอร์ และ เอ็นดริค (เฟลีเป้) ผมพยายามถ่ายทอดสิ่งที่ผมเรียนรู้ตอนที่ผมอยู่ในจุดที่พวกเขาอยู่ให้พวกเขาฟัง'

เมื่อพูดถึงโอกาสประสบความสำเร็จของ เรอัล มาดริด จากการลงเล่นทุกรายการในซีซั่นนี้ วัลเวร์เด้ ค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขายังคงเป็นทีมดีที่สุดในโลก

'ผมคิดว่าตอนนี้เราเป็นทีมดีที่สุดในโลก คุณแค่ต้องรักษาความกระหายที่ผมเพิ่งพูดไป เราต้องเล่นให้ดีในครึ่งแรกด้วย'

จากนั้น วัลเวร์เด้ ยังกล่าวถึงการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ของ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ หลังย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

'มันน่าทึ่งมาก เราทุกคนรู้ดีว่า คีลียัน เป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลก การมีเขาอยู่ที่นี่ถือเป็นความน่าพึงพอใจอย่างยิ่ง ผมเคยมีปัญหาตอนเผชิญกับเขาตอนที่เขาเล่นกับ เปแอสเช หรือทีมชาติฝรั่งเศส มันเป็นเรื่องยากในการรับมือเขา'

'ตอนนี้มันเป็นโอกาสดีที่ได้เขาเป็นเพื่อนร่วมทีม ผมสามารถสนุกกับเขาได้ ลูกๆของผมสามารถพบเจอเขาได้ คุณต้องจำไว้ว่ามีหลายคนพูดและเชื่อว่าเขาจะนำปัญหาเข้ามาที่นี่ จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น'

'ข่าวลือทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วน เขาเป็นคนดีมาก และภาษาสเปนของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก ดีกว่าผมด้วยซ้ำ (หัวเราะ)' วัลเวร์เด้ กล่าว


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด