'มอนต์จูอิก'ป้อมปราการบาร์ซ่ายุคฟลิค

ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า เริ่มต้นฤดูกาลด้วยสไตล์การเล่นที่ตื่นเต้นเร้าใจและสนุกสนานดึงดูดแฟนบอลและนำความสุขกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง

ทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าชนะ 10 ครั้งจากการลงเล่นทุกรายการ 12 เกม โดยพ่ายต่อ โมนาโก (1-2) และ โอซาซูน่า (2-4) เท่านั้น โดยยิงรวมกัน 39 ประตู เฉลี่ยยิงนัดละ 3.25 ประตู เสีย 12 ประตู เฉลี่ยนัดละ 1 ประตู

39 ประตูที่ บาร์เซโลน่า ทำได้จนถึงตอนนี้เป็นผลงานของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จำนวน 14 ประตู, ราฟินญ่า 6 ประตู, ลามีน ยามาล 5 ประตู, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ 3 ประตู, ดาเนียล โอลโม่ 3 ประตู, ปาโบล ตอร์เร่ 3 ประตู, เฟร์ราน ตอร์เรส 1 ประตู, ชูลส์ กุนเด้ 1 ประตู, เปา บิคตอร์ 1 ประตู, อินญีโก้ มาร์ตีเนซ 1 ประตู และคู่แข่งทำเข้าประตูตัวเองอีกหนึ่งครั้ง 

นอกจาก เลวานดอฟสกี้ ที่กลับเข้าสู่โหมดยอดดาวยิงอีกครั้งด้วยการทำ 14 ประตูกับ 2 แอสซิสต์แล้ว อีกหนึ่งแข้งที่กลับคืนร่างทองคือ ราฟินญ่า หลังการทำ 6 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ตอนนี้เขาทำรวมกัน 26 ประตูกับ 32 แอสซิสต์จากการลงเล่น 99 เกมนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า 

ฟลิค ยังได้สร้างปราการอันแข็งแกร่งที่ เอสตาดิโอ โอลิมปิก เด มอนต์จูอิก ซึ่งดึงดูดแฟนบอลเข้าเชียร์ทีมมากขึ้นจากการคว้าชัยชนะตลอด 5 เกมแรกของซีซั่นนี้ โดยยิงรวมกัน 20 ประตู เฉลี่ยเกมละ 4.0 ประตู 

บาร์เซโลน่า คว้าชัยชนะเหนือ แอธเลติก บิลเบา (2-1), เรอัล บายาโดลิด (7-0), เคตาเฟ่ (1-0) และ เซบีย่า (5-1) อีกหนึ่งเกมบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกคือนัดยิงสลุต ยัง บอยส์ (5-0) 

สถิติที่สมบูรณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลังการปราชัยต่อ โมนาโก 0-3 ในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นรายการ โตรเฟโอ โจน กัมเปร์ ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล ซึ่งทำให้เทรนเนอร์ชาวเยอรมันตกเป็นเป้าวิจารณ์พอสมควร

นับตั้งแต่วันนั้น เอสตาดิโอ โอลิมปิก เด มอนต์จูอิก กลายเป็นป้อมปราการที่น่าเกรงขามสำหรับผู้มาเยือน ก่อนเกมรับมือ บาเยิร์น มิวนิค บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกวันพุธนี้ 

ตอนนี้ บาร์เซโลน่า ยุค ฮันซี่ ฟลิค คว้าชัยชนะในบ้านมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว นั่นทำให้ทีมของเทรนเนอร์ชาวเยอรมันต้องการชัยชนะอีกเพียง 2 ครั้งเพื่อทำสถิติเทียบเท่าทีมยุค ชาบี เอร์นานเดซ ที่เคยคว้าชัยชนะ 7 เกมรวดในฤดูกาลที่แล้ว

ทัพอาซูลกราน่าของ ชาบี คว้าชัยชนะตลอด 7 เกมแรกของซีซั่นที่ผ่านมา จากการกำชัยเหนือ กาดีซ, เรอัล เบติส, รอยัล อันท์เวิร์ป, เซลต้า บีโก้, เซบีย่า, แอธเลติก บิลเบา และ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 

ตอนนี้ บาร์เซโลน่า ของ ฟลิค กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในการรับมือ บาเยิร์น มิวนิค ของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ซึ่งถือเป็นบททดสอบยากที่สุดสำหรับพวกเขาในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ 

บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การดูแลของ ก็องปานี เริ่มต้นซีซั่นอย่างยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน หลังทีมเสือใต้นำเป็นจ่าฝูงบุนเดสลีกาด้วยสถิติชนะ 5 เสมอ 2 ทำสถิติรวมกันจากการลงเล่นทุกรายการชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 โดยปราชัยต่อ แอสตัน วิลล่า (0-1) บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ขณะที่ บาร์เซโลน่า คว้าชัยชนะทั้ง 5 เกมในบ้านซีซั่นนี้ ยิงรวมกัน 20 ประตู ทีมของ ฟลิค ยังเสียเพียง 2 ประตูในช่วงเวลานั้น และหนึ่งในนั้นเป็นลูกจุดโทษของ แอธเลติก บิลเบา ด้วย

จากผลงานที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้แฟนบอลเข้ามาสนับสนุนทีมมากขึ้นบนสังเวียน โอลิมปิก เด มอนต์จูอิก โดยเฉพาะเกมล่าสุดกับ เซบีย่า ที่มีแฟนบอลเข้าสนามราว 48,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดของฤดูกาลจนถึงตอนนี้ 

จำนวนผู้ชมที่เพิ่มมากขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าสาวกบาร์เซโลนีสต้ากำลังค่อยๆฟื้นคืนความหลงใหลที่มีต่อทีม หลังเงียบหายไปบ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ก่อน ฟลิค จะช่วยปลุกบรรยากาศที่ 'เย็นชา' ก่อนหน้านี้ที่ โอลิมปิก เด มอนต์จูอิก กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานที่มีชีวิตชีวามากขึ้น แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่ฟื้นคืนมารายล้อมสโมสร

ดังนั้นการเผชิญหน้ากับ บาเยิร์น มิวนิค บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก วันพุธนี้จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆบาร์ซ่าอย่างมาก และคาดว่าจะมีผู้ชมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแฟนบอลต่างต้องการชมการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นนี้ 

ความสัมพันธ์ระหว่างทีมและแฟนบอลนั้นมีความชัดเจนขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เพราะพวกเขามารวมตัวกันเพื่อสนับสนุนทีม ความสามัคคีระหว่างนักเตะและแฟนบอลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อขวัญกำลังใจและความมั่นใจของทีมในขณะที่พวกเขามุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้ 

โดยสรุปแล้ว บาร์เซโลน่า ของ ฟลิค ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในสนามเท่านั้น แต่ยังสามารถดึงฐานแฟนบอลกลับมาได้สำเร็จอีกด้วย และยังสร้างความรู้สึกถึงการมองโลกในแง่ดีและกระตือรือร้นไปทั่วทั้งสโมสร

ผลงานของทีมที่ โอลิมปิก เด มอนต์จูอิก นั้นน่าทึ่งมาก และในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมตัวลงเผชิญหน้ากับ บาเยิร์น มิวนิค แฟนบอลต่างมีความกระตือรือร้นที่จะรักษาโมเมนตัมเชิงบวกนี้ต่อไป