:::     :::

จุดแตกหักของ บาเยิร์น กับ โทนี่ โครส

วันอังคารที่ 19 กันยายน 2560 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
8,614
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โทนี่ โครส ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงหน้าร้อนปี 2014 มาร่วมสร้างตำนานความยิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด จนถึงปัจจุบัน

    ผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ดีที่สุดในโลกยุคนี้ต้องมีชื่อ โทนี่ โครส ดาวเตะทีมชาติเยอรมันของ เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
   
    'เดอะ สไนเปอร์' ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 ด้วยค่าตัวเพียง 25 ล้านยูโร แต่นักเตะทำผลงานสุดคุ้มค่า
   
    มิดฟิลด์วัย 27 กะรัต มีบทบาทสำคัญต่อทีมชุดขาวตั้งแต่ซีซั่นแรก แม้จะไม่มีชื่อเสียงด้านการทำประตูมากนัก แต่เขามักจะยิงประตูสำคัญให้ทีมเสมอและอีกหนึ่งจุดเด่นของ'เดอะ สไนเปอร์'คือการคือแอสซิสต์หรือผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูที่มีสถิติดีขึ้นตลอดช่วง 3 ฤดูกาลแรก


   
    โครส ยิงให้ เรอัล มาดริด เพียง 2 ประตูในช่วงฤดูกาลแรก 2014-15 แต่เขาทำสถิติแอสซิสต์บนเวทีลีกา 9 ครั้ง รวมทุกรายการ 15 ครั้ง
   
    ซีซั่นต่อมา มิดฟิลด์ชาวเยอรมันยิงเพียงประตูเดียว แต่เขาขยับสถิติแอสซิสต์ขึ้นมาเป็น 11 ครั้ง รวมทุกรายการ 13 ครั้ง
   
    ส่วนผลงานในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา มิดฟิลด์วัย 27 ปี ยิงเพิ่มเป็น 3 ประตูและแอสซิสต์ 12 ครั้ง รวมทุกรายการยิง 4 ประตูกับ 17 แอสซิสต์
   
    สำหรับฤดูกาลนี้ โทนี่ โครส ยิงหนึ่งประตูตั้งแต่นัดเปิดซีซั่นที่ทีมชุดขาวบุกต้อน เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ถึงสังเวียน'ริอาซอร์' 3-0 เพียงแต่มิดฟิลด์วัย 27 ปียังไม่ทำแอสซิสต์แม้แต่ครั้งเดียวจากการลงเล่น 3 นัดแรก
   
    โครสเพิ่งลงเล่นลีกากับ เรอัล มาดริด ครบ 100 นัดในแมตช์เสมอ เลบันเต้ 1-1 เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ก่อน ซีเนดีน ซีดาน จะตัดสินใจพักแข้งมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันในเกมเยือน เรอัล โซเซียดาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพไม่สมบูรณ์
   
    จากการลงเล่นลีกา 100 นัดกับทีมชุดขาว โครสทำสถิติยิง 7 ประตูกับ 32 แอสซิสต์ นับตั้งแต่ เรอัล มาดริด เปลี่ยนมือเทรนเนอร์จาก ราฟาเอล เบนีเตซ มาเป็นซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสมีส่วนช่วยให้โครสเล่นสอดประสานกับ ลูก้า โมดริช และ การ์ลอส กาเซมีโร่ ได้อย่างลื่นไหลลงตัวจนกลายเป็นขุมกำลังมิดฟิลด์สมบูรณ์แบบที่สุดของยุคนี้


   
    โทนี่ โครส เกิดในครอบครัวนักกีฬาในเมืองไกรฟ์สวัลด์ เขาออกจากบ้านเกิดเพื่อไปเล่นฟุตบอลกับ ไกรฟ์สวัลเดอร์ สปอร์ต คลับ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่พ่อของเขาเริ่มเล่นฟุตบอล ก่อนจะย้ายไปเล่นกับทีมเยาวชนของ ฮันซ่า รอสต็อค จนกระทั่งปี 2006 หรือตอนอายุเกือบ 16 ปี โครสจึงย้ายไปเล่นกับทีมเยาวชนของ บาเยิร์น มิวนิค
   
    ฤดูกาล 2007-08 ตอนอายุ 17 ปี โครสถูกดึงขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่หลังผ่านเวทีเวิลด์ คัพ ยู-17 ปีที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังได้รับการประเมินฝีเท้าจากสองตำนานสโมสรอย่าง แกร์ด มุลเลอร์ กับ ฟร้านซ์ เบคเค่นบาวเออร์ แม้ว่าเยอรมันจะจบทัวร์นาเมนต์อันดับ 3 แต่ โครส คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและยิงทำสถิติยิง 5 ประตูเท่า โบยาน เกร์กิช ของสเปน โดยเป็นรองเฉพาะ มาเคาลี่ย์ คริสซานตุส ของไนจีเรีย (7 ประตู) กับ แรนส์ฟอร์ด โอเซ ของกานา (6 ประตู) เท่านั้น

    บาเยิร์น มิวนิค ส่งหนุ่มโครสลงประเดิมเวทีบุนเดสลีกาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2007 ซึ่งทีมเสือใต้ขย่ม เอเนอร์กี้ ค็อตบุส 5-0 ซึ่งโครสทำสองแอสซิสต์ภายในเวลา 18 นาที พร้อมสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นนัดแรกกับทีมเสือใต้ด้วยวัยเพียง 17 ปี 8 เดือนกับ 2 วัน ก่อนสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายโดย ดาวิด อลาบา เมื่อปี 2010
   
    ทว่าด้วยเหตุที่บาเยิร์นเป็นทีมที่อัดแน่นไปด้วยผู้เล่นดาวดังทำให้โครสมีโอกาสลงเล่นไม่มากนัก ทีมเสือใต้จึงปล่อยย้ายไปเล่นกับ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคมปี 2009 เขาเล่นกับทีมห้างยา 18 เดือนหรือจนกระทั่งจบฤดูกาล 2009-10

 
   
    โครสหวนคืนถ้ำเสือพร้อมการแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า'ผมต้องการลงสนามเร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้' เขาลงเล่นฤดูกาลแรกกับ บาเยิร์น มิวนิค ทุกรายการรวมกัน 37 นัด ทว่าทีมเสือใต้จั่วลมวืดความสำเร็จทุกรายการโดยเฉพาะบุนเดสลีกาที่เข้าป้ายอันดับ 3 เป็นรองทั้ง ดอร์ทมุนด์ กับ เลเวอร์คูเซ่น
   
    ฤดูกาล 2011-12 โครสได้ร่วมงานกับ จุ๊ปป์ ไฮน์เกส อดีตเจ้านายที่เลเวอร์คูเซ่นอีกครั้งหลังทีมเสือใต้ดึงปู่จุ๊ปป์มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ เขาลงเล่นทุกรายการ 51 นัด รวมถึงเกมชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เชลซี แต่ทีมเสือใต้ดวลเป้าพ่ายทีมสิงห์น้ำเงินชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
   
    ก่อนที่ปู่จุ๊ปป์กับโครสจะร่วมมือกันร่วมสร้างปรากฎการณ์ด้วยการนำทัพเสือใต้กวาด 3 แชมป์ในฤดูกาล 2012-13 ก่อนเทรนเนอร์ทีมเสือใต้จะเปลี่ยนมือจากปู่จุ๊ปป์มาเป็น'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่โครสค้าแข้งกับบาเยิร์น
   
    โครส ย้ายเข้ามาเป็นจิ๊กชอว์ชิ้นสำคัญของ เรอัล มาดริด จนมีส่วยช่วยสร้างความยิ่งใหญ่ให้สโมสรด้วยการสอยแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกันและยังสยบทีมอาซูลกราน่าแย่งแชมป์ลีกากลับมาสู่อ้อมอกสาวกมาดริดิสต้าได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีด้วย
   
    มิดฟิลด์วัย 27 ปีได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ระดับเวิลด์คลาสร่วมสรรสร้างเกมร่วมกับ ลูก้า โมดริช จนทำให้ทีมชุดขาวเป็นสโมสรแรกที่ป้องกันบัลลังก์แชมป์ยุโรปสำเร็จ


   
    แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้วก็ตาม แต่หลายคนยังสงสัยว่าเป็นเพราะสาเหตุใดทีมเสือใต้จึงยอมปล่อยเพชรเม็ดงามอย่างโครสหลุดมาอยู่กับมาดริดด้วยค่าตัวไม่แพงเว่อร์เหมือนราคานักเตะในปัจจุบัน
   
    มันอาจจะผ่านมานานจนหลายคนลืมเลือน แต่บางคนยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ก่อนนำมาตีแผ่ว่ามันเป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้โครสตัดสินใจอำลาทีมเสือใต้
   
    สเตฟาน ไรนาร์ทซ์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของโครสออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาตัดสินใจอำลาถิ่น'อัลลีอันซ์ อารีน่า'มาจากชายชื่อ คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิเก้ ซีอีโอของค่ายเสือใต้นั่นเอง
   
    ไรนาร์ทซ์อ้างว่ารุมเมนิเก้เป็นคนทำลายศรัทธาของนักเตะจนมีผลทำให้โครสที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมันตัดสินใจอำลาสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2014
   
    'โทนี่เป็นเพื่อนรักผมและผมรู้เรื่องราวทั้งหมด มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับเงิน บาเยิร์นยื่นข้อเสนอให้โทนี่เรื่องสัญญาฉบับใหม่ โทนี่รู้เรื่องค่าเหนื่อยที่ มาริโอ เกิตเซ่ รับจาก บาเยิร์น มิวนิค โทนี่และ มาริโอ เกิตเซ่ อายุพอๆกัน แต่ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ต้องการจ่ายเงินให้โทนี่มากกว่า 10 ล้านยูโร'


   
    ไรนาร์ทซ์อ้างคำพูดของซีอีโอทีมเสือใต้ที่บอกกับเพื่อนสนิทของเขาว่า'เราไม่ต้องการจ่ายเงินให้คุณมากกว่า 10 ล้านยูโรต่อปีเพราะคุณไม่ใช่นักเตะระดับเวิลด์คลาส' ถ้าคุณรู้จักโทนี่ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย เขาต้องการความเชื่อมั่นจากคนอื่นๆ เขารู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีมาก เป็นผู้เล่นระดับเวิลด์คลาส นั่นคือจุดแตกหัก'
       
    ผลของการดูแคลนนักเตะตนเองของผู้บริหารระดับสูงของบาเยิร์นกลายเป็นจุดแตกหักทำให้โครสตัดสินใจย้ายมาร่วมสร้างความยิ่งใหญ่กับ เรอัล มาดริด ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปี 2014 จนถึงปัจจุบัน
   
    การคว้าแชมป์ยุโรป 2 สมัย, แชมป์ลีกา 1 สมัย, แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง, แชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 1 ครั้งและ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีก 2 สมัยร่วมกับทีมชุดขาวการันตีคุณภาพของ โทนี่ โครส ได้เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสผิดจากคำพูดของรุมเมนิเก้อย่างแน่นอน

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด