'กาซาโด้'ดาวรุ่งผู้ตอบโจทย์'ฟลิค'
มาร์ก กาซาโด้ แจ้งเกิดเต็มตัวกับ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นนี้ หลังก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทัพอาซูลกราน่ายุค ฮันซี่ ฟลิค จนกระทั่ง หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เรียกตัวติดทัพกระทิงชุดใหญ่ครั้งแรกที่มีคิวลงฟาดแข้งกับ เดนมาร์ก และ สวิตเซอร์แลนด์ ในรายการ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ช่วงสัปดาห์นี้
กาซาโด้ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ตั้งแต่ปี 2016 เขาเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่สามารถขยับมาเล่นแบ็กขวาและเซนเตอร์เมื่อจำเป็นได้เช่นกัน โดยก้าวขึ้นมาเล่นกับ บาร์ซ่า แอธเลติก เมื่อปี 2022 และกลายเป็นกัปตันทีมในยุคที่มี ราฟาเอล มาร์เกซ เป็นนายใหญ่ ก่อนเทรนเนอร์ชาวเม็กซิกันจะย้ายไปทำงานฐานะผู้ช่วยโค้ชของ ฮาเวียร์ อากีร์เร่ บอสคนใหม่ของทีมชาติเม็กซิโก
ลา มาเซีย ปั้นดาวรุ่งพรสวรรค์ป้อนทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นเวอร์ชัน ลามีน ยามาล และ เปา กูบาร์ซี่ ก่อน กาซาโด้ จะก้าวขึ้นมาเติมเต็มช่องว่างแดนกลางอีกราย แม้จะไม่ได้รับคำชมมากมายเหมือนสองคนแรก แต่เขาสามารถสร้างเส้นทางอาชีพของตนเองเพื่อไต่เต้าขึ้นสู่จุดสูงสุดได้เช่นกัน
กาซาโด้ ไขว่คว้าทุกโอกาสด้วยความมุ่งมั่นและก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ บาร์เซโลน่า ภายใต้การดูแลของ ฟลิค ที่เลือกใช้มิดฟิลด์คุมแดนกลางสองคน
มิดฟิลด์วัย 21 ปีแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีหลายอย่างในช่วงปรีซีซั่น เขาฉายความโดดเด่นในการบุกทะลวงเข้ารอบเขตโทษฝั่งตรงข้ามด้วยสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยมในการวิ่งไปด้านหลังของแนวรับคู่แข่งและเคลื่อนที่ระหว่างไลน์ได้ดี
กาซาโด้ ยังรับมือกับแรงกดดันได้เป็นอย่างดีและการสัมผัสบอลแรกที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาสามารถกำหนดการเล่นจังหวะต่อไปได้ ซึ่งเป็นบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับตามความต้องการของทัพอาซูลกราน่า เขายังสามารถแย่งบอลกลับมาได้ดีและเสียบสกัดประสบความสำเร็จในอัตราสูง
เขายังมีความเข้าใจการยืนตำแหน่งอย่างลึกซึ้งจนทำให้ กาซาโด้ สามารถปิดช่องว่างได้แทนที่จะพุ่งเข้าหาบอลเพียงอย่างเดียวทำให้มีการจัดสรรตำแหน่งที่มีความกระชับมากขึ้น
อีกจุดแข็งของ กาซาโด้ คือการผ่านบอลยาวและการถ่ายบอลออกด้านข้างมีส่วนทำให้ บาร์เซโลน่า สามารถเปลี่ยนเกมได้อย่างรวดเร็วและขยายแนวรับของฝ่ายตรงข้าม เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นแนวรุก เหมือนวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลให้ ราฟินญ่า หลุดเข้าไปทำประตู บาเยิร์น มิวนิค หรือการจ่ายบอลทะลุช่องให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในเกมกับ เรอัล มาดริด
สำหรับ มาร์เกซ ซึ่งเคยร่วมงานกับ กาซาโด้ ได้กล่าวชื่นชมมิดฟิลด์วัย 21 ปีตามมุมมองของเขาว่า 'กาซาโด้ เป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบในการประสบความสำเร็จ ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งนี้มาจากผลงานของเขา'
ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเม็กซิโกยังเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าของ กาซาโด้ และความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของ ฟลิค ที่มีต่อมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้เป็นพิเศษ
'กาซาโด้ เป็นคนที่มีการแข่งขันสูงมาก และ ฟลิค ตัดสินใจเก็บเขาไว้กับทีมตั้งแต่แรกเห็น เราต้องยกความดีความชอบให้กับการตัดสินใจของเขาและความกล้าหาญในการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งเหล่านี้'
'ปัจจัยที่ทำให้ทีมแตกต่างคือการที่พวกเขาได้โอกาสลงเล่น นั่นคือแนวทางของ บาร์เซโลน่า การมีใครสักคนที่อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาแข้งเยาวชนที่ไว้วางใจในนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยและมอบโอกาสให้พวกเขา'
เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของ กาซาโด้ ที่มีต่อ บาร์ซ่า แอธเลติก ตอนที่เขากุมบังเหียน ซึ่ง มาร์เกซ เอ่ยปากชมแบบไม่มีข้อสงสัยว่า 'กับ กาซาโด้, บาร์ซ่า แอธเลติก เป็นทีมหนึ่ง และถ้าไม่มีเขา มันก็เป็นอีกทีมหนึ่ง เขามีความสำคัญมากทั้งในและนอกสนาม'
มาร์เกซ ยังเปรียบเทียบลูกศิษย์เก่ากับตนเองว่า 'กาซาโด้ ทำให้ผมนึกถึงตัวเองในเรื่องทัศนคติ, บุคลิก และความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองทุกวัน ทุ่มเทจนสุดความสามารถในแต่ละเกมและการฝึกซ้อม ด้วยความมุ่งมั่นอย่างสูงในการคว้าชัยชนะ'
เมื่อถูกถามถึงจุดที่ต้องปรับปรุงของ กาซาโด้ อดีตเทรนเนอร์ บาร์ซ่า แอธเลติก ตอบว่า 'เขายังหนุ่มมากและยังมีอะไรให้ปรับปรุงอีกมาก ความมั่นใจของเขาทำให้เขาสามารถลองทำสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้เช่นกัน'
'เขามีความกระตือรือร้นอย่างมากจนอยากครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น เขาเป็นคนที่มีไดนามิกอย่างมากและบางครั้งก็ขยับออกจากตำแหน่ง อยากวิ่งพล่านไปทุกที่ บางครั้งเขาต้องเล่นในตำแหน่งมากขึ้น เขาค่อยๆทำความเข้าใจกับเรื่องนี้'
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ 'Que T’hi Jugues' มาร์เกซ ยังพูดถึงนักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆของ บาร์เซโลน่า ก่อนแสดงความเห็นใจต่อการบาดเจ็บของ มาร์ก เบร์นาล หลังมิดฟิลด์วัย 17 ปีโชคร้ายบาดเจ็บหนักถึงขั้นเอ็นเข่าขวาฉีกขาดจนต้องพักยาว
'น่าเสียดายแทน เบอร์นาล เขากำลังพัฒนาได้ค่อนข้างดี มีผลงานที่ดี แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและการเติบโต ผมหวังว่าเขาจะฟื้นตัวกลับมาได้ในเร็ววันนี้'
อดีตกองหลังระดับตำนานของทัพอาซูลกราน่ายังกล่าวชื่นชมผลงานของ ลามีน ยามาล แนวรุกมหัศจรรย์วัย 17 ปีว่า 'ลามีน เป็นปรากฎการณ์ ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้แล้ว เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการลงแข่งขันเกมแล้วเกมเล่า ด้วยวัยของเขา เขาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นไอดอลและเป็นจุดอ้างอิงแล้ว ผมหวังว่าเราจะมีเขาอยู่กับทีมไปอีกนาน'
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT