:::     :::

'อันเช่'เทรนเนอร์ประวัติศาสตร์ของมาดริด

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
484
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คาร์โล อันเชล็อตติ ขึ้นแท่นเป็นเทรนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร หลังการนำ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ รายการล่าสุด

คาร์โล อันเชล็อตติ วัย 65 ปีก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เรอัล มาดริด หลังการเถลิงบัลลังก์แชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ จากการยิงสลุต ปาชูก้า สโมสรเม็กซิกันด้วยสกอร์ 3-0 ที่ประเทศกาตาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

นั่นคือการคว้าแชมป์รายการที่ 15 ของ 'อันเช่' ในฐานะนายใหญ่ของทัพ 'โลส บลังโกส' สองช่วงเวลา ทำลายสถิติของ มิเกล มูนญอซ ที่เคยนำ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์รวมกัน 14 รายการในช่วงทศวรรษที่ 1960 

มิเกล มูนญอซ กุมบังเหียน เรอัล มาดริด ครั้งแรกช่วงสั้นๆระหว่างเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเมษายนปี 1959 ก่อนจะหวนคืนสโมสรอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนปี 1960 และทำงานยาวนานจนถึงเดือนมกราคมปี 1974 โดยคุมทีมชุดขาวลงเล่น 595 เกม ชนะ 352 เสมอ 126 แพ้ 117 พร้อมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ช่วงเวลาหนึ่งของสโมสร

เรอัล มาดริด ยุค มิเกล มูนญอซ คว้าแชมป์ ลา ลีกา 9 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 2 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย และ โกปา เดล เคเนราลีซีโม่ หรือ โกปา เดล เรย์ ในปัจจุบัน 2 สมัย 

ก่อนสถิติการคว้าแชมป์มากสุด 14 รายการของ มิเกล มูนญอซ จะถูกทำลายโดย อันเชล็อตติ หลังการคว้าแชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ ครั้งล่าสุด


อันเชล็อตติ เข้ามาทำงานฐานะเทรนเนอร์ เรอัล มาดริด ยุคแรกในช่วงปี 2013-2015 โดยนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์ 4 รายการคือ แชมป์เปี้ยนส์ลีก, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 

จากนั้น อันเชล็อตติ ย้ายไปทำงานกับ บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี และ เอฟเวอร์ตัน จนกระทั่งหวนคืนถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์ปี 2021

'อันเช่' นำทีมชุดขาวคว้าแชมป์อีก 11 รายการนับตั้งแต่นั้น ทั้ง ลา ลีกา 2 สมัย, แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย, ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า 2 สมัย และ ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย

'ผมมีความสุขมาก มันเป็นความสำเร็จ' อันเชล็อตติ กล่าวถึงชัยชนะเหนือ ปาชูก้า 'เราค่อยๆควบคุมเกมทีละน้อย และจบเกมได้ดี เรามีความแตกต่างในด้านคุณภาพเสมอ แต่เราต้องแสดงทัศนคติที่ถูกต้องด้วย'

'วันนี้, ในท้ายที่สุดแล้ว เราสร้างความแตกต่างในแนวรุก เราทำได้ดีในแนวรุก เรามีคุณภาพมากมาย คีลียัน (เอ็มบั๊ปเป้) เล่นเกมได้ดี และ โรดรีโก้ ทำประตูได้ เรามีความสุข'


3 ประสานแนวรุกของ เรอัล มาดริด ทำประตูกันพร้อมหน้าทั้ง เอ็มบั๊ปเป้, โรดรีโก้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ โดย วีนี่ ยกเครดิตให้เจ้านาย อันเชล็อตติ สำหรับความสำเร็จของสโมสร

'ขอแสดงความยินดีกับเจ้านาย เขาสมควรได้รับมัน เขามอบอิสระให้แก่พวกเรา เขาสมบูรณ์แบบสำหรับเรา' วินิซิอุส กล่าว 

ขณะที่ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ มิดฟิลด์ทีมชาติอุรุกวัยกล่าวเสริมว่า 'เขาสมควรได้รับสิ่งนี้ เขาคว้าแชมป์มาทุกอย่างแล้ว เขานำทางเรา'

อันเชล็อตติ มีโอกาสเพิ่มยอดความสำเร็จในช่วงเดือนมกราคมนี้ เมื่อ เรอัล มาดริด จะร่วมการแข่งขันรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 

เรอัล มาดริด มีคิวลงเล่นรอบรองชนะเลิศกับ มายอร์ก้า ในวันที่ 9 มกราคมนี้ ก่อนจะเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่าง บาร์เซโลน่า หรือ แอธเลติก บิลเบา ในอีก 3 วันถัดมา

'มันเป็นปีที่ยอดเยี่ยมมาก เรามีปัญหาต่างๆมากมาย อย่างเช่นการบาดเจ็บของ กูร์กตัวส์, มิลิเตา และ การ์บาฆาล และยังคงประสบความสำเร็จต่อไป'

'เราจบปีได้ดีมาก และนั่นทำให้เรามีความมั่นใจและแรงจูงใจที่จะพยายามทำผลงานที่ดีต่อไปในปี 2025' อันเชล็อตติ กล่าวเสริม


'ประวัติศาสตร์, ประเพณีของสโมสร และคุณภาพของนักเตะที่เรามี หมายความว่าเราต้องพยายามเอาชนะการแข่งขันทั้งหมด นั่นคือเป้าหมายของเรา เพื่อพยายามแข่งขัน'

'เรามีโชค, มีความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งที่จะคว้าแชมป์มากมายในปี 2024 สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจที่จะแข่งขันต่อไปในปี 2025 แต่เรายังไม่ได้ฉลองกัน เราจะพักระหว่างเที่ยวบิน แล้วเราจะอยู่กับครอบครัว'

เมื่อถูกถามถึงการก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด หลังการคว้าแชมป์รายการที่ 15 

อันเชล็อตติ ตอบว่า 'ถือเป็นเกียรติ นี่เป็นสโมสรที่โค้ชทุกคนอยากกุมบังเหียนเพราะเป็นสโมสรดีที่สุดในโลก การคว้าแชมป์กับ เรอัล มาดริด นั้นง่ายกว่าการคว้าแชมป์ที่อื่น'

'นี่คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม มีนักเตะดีที่สุดในโลกและแฟนบอลที่ยอดเยี่ยม การคว้าแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การคว้าแชมป์กับพวกเขาที่นี่นั้นง่ายกว่า'

เมื่อถูกถามว่าการคว้าแชมป์รายการใดที่เขาชื่นชอบมากที่สุด อันเชล็อตติ ตอบว่า 'ผมไม่อาจเลือกใดแชมป์ใดหนึ่ง มันยากที่จะเลือก แต่การคว้าแชมป์สมัยที่ 10 นั้นพิเศษสำหรับผม และ เรอัล มาดริด'

'เมื่อผมกลับมาที่สโมสร ผมเลือกชัยชนะในแชมเปี้ยนส์ลีกที่ ปารีส ซึ่งมีความพิเศษเช่นกัน ถ้าผมต้องเลือก ผมของเลือกสองรายการนี้'


เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนยังเล่าอย่างซาบซึ้งว่าการมาถึงของเขาในช่วงที่สองนั้นเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด แม้ว่าจะเป็นการวางแผนจากฝั่งของเขาก็ตาม

'ผมไม่เคยจินตนาการถึงมันเลย ผมไม่เคยคิดว่าผมจะกลับมาได้ ผมโทรไปถามว่าผมสามารถเซ็นสัญญากับใครจาก เรอัล มาดริด ได้หรือไม่ พวกเขาก็ตกหลุมพรางทันที'

อันเชล็อตติ เป็นหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากสุดของวงการลูกหนังโลก เขาคว้าแชมป์ตลอดอาชีพเทรนเนอร์รวมกัน 30 รายการ ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ 5 ลีกใหญ่ของยุโรปกับ เอซี มิลาน, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เรอัล มาดริด 

'อันเช่' ยังคว้าแชมป์ยุโรปรวมกัน 5 สมัย เกิดขึ้นกับ เรอัล มาดริด 3 ครั้งและอีก 2 สมัยในฐานะเทรนเนอร์ของ เอซี มิลาน โดยโค้ชชาวอิตาเลียนยังมีโอกาสสะสมความสำเร็จเพิ่มเติมจนกว่าเขาจะตัดสินใจวางมือ


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด