สามประสานทรงพลังของบาร์ซ่า

ฮันซี่ ฟลิค ประสบความสำเร็จในฐานะเทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า จากการคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า หรือ ซูเปอร์ คัพ หลังทัพอาซูลกราน่าฉายฟอร์มเด่นด้วยการยิงสลุต เรอัล มาดริด ขาดลอย 5-2 

นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก ชาบี เอร์นานเดซ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ฟลิค กลายเป็นหนามยอกอกสาวกมาดริดีสต้าอย่างรวดเร็ว หลังเทรนเนอร์ชาวเยอรมันนำทัพอาซูลกราน่าบุกทุบ เรอัล มาดริด 4-0 ก่อนตอกย้ำชัยชนะเหนือคู่แข่งอีกครั้งด้วยสกอร์ 5-2 ที่เมืองเจดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 

การคุมทัพอาซูลกราน่าลงเล่นเกม 'เอล กลาซิโก้' เพียงสองยก ปรากฎว่าทีมของ ฟลิค กดทีมชุดขาวรวมกันถึง 9 ประตู ซึ่งเป็นผลงานของ 3 ประสาน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ราฟินญ่า กับ ลามีน ยามาล ถึง 8 ประตู 

เลวานดอฟสกี้ กดสองประตู ขณะที่ ราฟินญ่า กับ ยามาล ทำคนละประตูในการบุกคว้าชัยชนะบนสังเวียน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

ส่วนเกมล่าสุดที่เมืองเจดดาห์ ราฟินญ่า ทำ 2 ประตู ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ กับ ยามาล ทำคนละประตู โดยมี อาเลฆานโดร บัลเด้ บวกเพิ่มอีกหนึ่งประตู 

หากวัดกันตัวต่อตัวระหว่างสามประสานของ บาร์เซโลน่า กับสามประสานของ เรอัล มาดริด อย่าง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ โกเอส เด็กๆของ ฟลิค ทำผลงานห่างกันเป็นไมล์

ผ่านมาจนถึงตอนนี้สามประสาน 'เลวานดอฟสกี้-ราฟินญ่า-ยามาล' ทำรวมกัน 53 ประตู โดยเป็นผลงานของ 'เลวาน' 26 ประตู, ราฟินญ่า 19 ประตู และ ยามาล 8 ประตู ส่วนสามประสาน 'เอ็มบั๊ปเป้-วินิซิอุส-โรดรีโก้' ทำรวมกันเพียง 38 ประตู

ในฐานะทีม บาร์เซโลน่า ทำเฉลี่ยเกือบ 3 ประตูต่อเกมและทำรวมกัน 83 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการจนถึงตอนนี้ 28 เกม กลายเป็นทีมที่เล่นเกมรุกมีประสิทธิภาพสูงสุดของเวทียุโรปแซงหน้าทั้ง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

ราฟินญ่า เป็นนักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นสุดในเกมล่าสุดที่เมืองเจดดาห์ หลังแนวรุกชาวบราซิเลียนวัย 28 ปีทำ 2 ประตูกับหนึ่งแอสซิสต์จนคว้ารางวัลเอ็มวีพีหรือนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกม

อย่างไรก็ตาม ราฟินญ่า ยืนกรานว่าการคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งแรกในช่วงเวลานานกว่าหนึ่งปีนั้นมีความสำคัญต่อความสำเร็จส่วนตัวของเขา

'เอ็มวีพี? สิ่งสำคัญคือการคว้าแชมป์ นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่ บาร์ซ่า' แนวรุกวัย 28 ปีกล่าว

'ผมมีความสุขมากที่สามารถช่วยทีมคว้าชัยชนะ ไม่ว่าผมจะเล่นได้ดีหรือแย่ก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญสำหรับผมคือการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วย บาร์ซ่า คว้าโทรฟี่แชมป์'

แนวรุกชาวบราซิเลียนยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคว้าแชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแก่ทัพอาซูลกราน่า หลังฟอร์มเป๋ก่อนหน้านี้จนเสียบัลลังก์จ่าฝูง ลา ลีกา และตามหลัง แอตเลติโก มาดริด ในปัจจุบันถึง 6 คะแนน

'ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า นี้ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล มันรู้สึกดีจริงๆ'

ราฟินญ่า ยังกล่าวถึงการคว้าชัยชนะในเกม 'เอล กลาซิโก้' แบบขาดลอยเป็นเกมที่สองติดต่อกันว่า 'เรารู้ว่า เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม แต่เราโฟกัสที่ตัวเราเอง เราทำงานหนักมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล และเข้าใจว่าเราต้องทำอะไรในสนาม'

'เราเชื่อใจโค้ช เขาเชื่อใจเรา และสิ่งสำคัญที่สุดคือเราสามารถแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์และคว้ามันมาได้'

แนวรุกวัย 28 ปียังพูดถึงการตอบสนองของเพื่อนร่วมทีมจากการลงเล่นเพียง 10 คนในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม หลัง วอยเชียค เชสนี่ ถูกไล่ออกจากสนาม

'เราเล่นเกมป้องกันได้ดีมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาผลงานและแชมป์เอาไว้ และเราทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ผมภูมิใจในทีมของผมมาก เราทุ่มกันสุดตัว'