:::     :::

ประธานทรงอิทธิพลของมาดริด

วันอังคารที่ 21 มกราคม 2568 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
259
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ จะนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ไปจนกระทั่งอายุ 81 ปี หลังชนะการเลือกตั้งโดยไม่มีการลงคะแนนเป็นครั้งที่ 5

ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน เรอัล มาดริด อีกหนึ่งสมัยไปจนถึงปี 2029 หลังไม่มีใครยื่นใบสมัครแข่งขันกับผู้ทรงอิทธิพลวัย 77 ปี ก่อนเส้นตายช่วง 23.59 น.เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

เรอัล มาดริด กำลังเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้งประธานสโมสรคนต่อไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ ฟลอเรนตีโน่ ยังคงยืนหยัดที่จะดำรงตำแหน่งต่อไป แม้ว่าจะมีอายุมากถึง 77 ปีแล้วก็ตาม 

ฟลอเรนตีโน่ เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา และในเวลานั้นยังไม่มีใครหาญกล้าจนแข่งขันกับประธานวัย 77 ปี และดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการเลือกโดยไม่มีคู่แข่งอีกครั้ง 

ตอนนี้ ฟลอเรนตีโน่ ได้รับเลือกให้เป็นประธานสโมสร เรอัล มาดริด อีกหนึ่งสมัยอย่างเป็นทางการ ตามรายงานจากการประชุมของคณะกรรมการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเขาจะดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ไปจนถึงปี 2029 หรือจนถึงอายุ 81 ปี 

ความสำเร็จของ ฟลอเรนตีโน่ ในฐานะประธานสโมสร เรอัล มาดริด นั้นน่าเหลือเชื่อมาก ทัพ 'โลส บลังโกส' คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 7 สมัยในยุคของเขา จากทั้งหมด 15 ครั้งที่สโมสรประสบความสำเร็จในรายการนี้

เรอัล มาดริด ยังคว้าแชมป์ ลา ลีกา 7 สมัย, โกปา เดล เรย์ 3 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 7 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 6 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 5 สมัย, ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย และ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ 1 สมัย 


มันมาจากการสร้างทีมใหม่และปลดประจำการผู้เล่นที่มีประสบการณ์ออกจากในเวลาที่เหมาะสม และการบริหารงานของ ฟลอเรนตีโน่ นำพาสโมสรไปในทิศทางที่ถูกต้อง 

การจัดการด้านการเงินของสโมสรในช่วงที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อ โควิด-19 การรักษาให้สโมสรมีกำไรและอยู่ภายใต้กฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ อันเข้มงวดของ ลา ลีกา ที่ ฟลอเรนตีโน่ ทำงานของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดช่วงกว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานช่วงที่สองเมื่อปี 2009 

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อแย่างใดที่ ฟลอเรนตีโน่ จะชนะการเลือกตั้งโดยไร้คู่แข่งเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2009, 2013, 2017, 2021 และครั้งนี้ในปี 2025

หลังการชนะเลือกตั้งโดยไม่มีการลงคะแนน 5 ครั้งติดต่อกัน ฟลอเรนตีโน่ แต่งตั้งบอร์ดบริหารใหม่อีก 4 คน ไล่จาก ฟรานซิสโก้ การ์เซีย ซานซ์ อดีตประธานสโมสร โวล์ฟสบวร์ก, มานูเอล เรดอนโด้ เซียร์ร่า, โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ และ มานูเอล โกเมซ บาร์เรร่า ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งจนถึงปี 2029 เช่นเดียวกัน

สำหรับ ฟรานซิสโก้ การ์เซีย ซานซ์ เคยนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร โวล์ฟสบวร์ก ในช่วงปี 2009-2018 และอยู่ในคณะกรรมการของสโมสรบุนเดสลีกามาตั้งแต่ปี 2004

ขณะที่ มานูเอล เรดอนโด้ เซียร์ร่า และ โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ ที่เคยทำงานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานของประธานสโมสรและผู้อำนวยการทั่วไปตามลำดับ แต่ตอนนี้พวกเขาจะมีบทบาทรับผิดชอบงานมากขึ้น หลังทั้งคู่อยู่โยงกับสโมสรมาตั้งแต่ปี 2000

ส่วน มานูเอล โกเมซ บาร์เรร่า เคยทำงานในแผนกสังคมของสโมสร ซึ่งอุทิศตนเพื่อกลุ่มผู้สนับสนุนสโมสรจะก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นเช่นกัน


สำหรับ ฟลอเรนตีโน่ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสร เรอัล มาดริด ครั้งแรกในปี 1995 โดยมีคู่แข่งสำคัญอย่าง ราม่อน เมนโดซ่า และ ซานติอาโก้ โกเมซ ปินตาโด้ ก่อนชัยชนะจะตกเป็นของ เมนโดซ่า 

แต่ เมนโดซ่า อยู่ในตำแหน่งไม่นานนักเมื่อถูกบีบให้สละเก้าอี้ หลังยอมรับว่าสโมสรมีหนี้สิน 14 ล้านเปเซต้า (เงินสเปนในขณะนั้น) โดยมี โลเรนโซ่ ซานซ์ ที่ขยับจากรองประธานสโมสรขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ 

ในปี 2000 ฟลอเรนตีโน่ ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสร เรอัล มาดริด อีกครั้ง เขาสามารถโค่นบัลลังก์ของ ซานซ์ ด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าฝ่ายหลังจะสร้างผลงานด้วยการนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สองสมัยในปี 1998 และ 2000 ก็ตาม

แต่การรณรงค์หาเสียงของ ฟลอเรนตีโน่ ที่เน้นย้ำถึงปัญหาทางการเงินของสโมสรและการอ้างอิงว่าคณะกรรมการชุดก่อนบริหารจัดการผิดพลาดช่วยให้เขาได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลาม 


ฟลอเรนตีโน่ ยังทำตามคำมั่นสัญญาด้วยการกระชากตัว หลุยส์ ฟิโก้ มาจาก บาร์เซโลน่า สำเร็จ รวมถึงการสร้างยุค 'กาลาคติกอส' จากการลากเหล่าดาราดังเข้าสโมสรปีแล้วปีเล่าอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้ นาซารีโอ, เดวิด เบ็คแฮม และ ไมเคิ่ล โอเว่น ทำให้เขาได้รับเสียงหนุนมากถึง 94.2 เปอร์เซ็นต์ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2004

แม้ว่านโยบายของ ฟลอเรนตีโน่ จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จทางการเงินมากขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางการตลาดที่สูงของสโมสรไปทั่วโลกก็ตาม โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย 

แต่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นว่ามุ่งเน้นทำการตลาดเพื่อแบรนด์ เรอัล มาดริด มากเกินไป โดยมองข้ามความสำคัญกับฟุตบอลของสโมสร จนกระทั่งเขาประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2006 โดยยอมรับว่าทั้งทีมและสโมสรต้องการแนวทางใหม่


ฟลอเรนตีโน่ ใช้เวลาทบทวนเป็นเวลานานกว่า 3 ปีก่อนประกาศคืนสังเวียนอีกครั้ง โดยยืนยันการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสรอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2009 ก่อน เรอัล มาดริด จะยืนยันว่าเขาเป็นประธานคนใหม่ในวันที่ 1 มิถุนายน เนื่องจากไม่มีใครสมัครลงแข่งกับเขา 

จากวันนั้นจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟลอเรนตีโน่ ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร เรอัล มาดริด เป็นวาระที่ 5 ติดต่อกันโดยไม่มีคู่แข่งและจะอยู่แก่หง่อมบนเก้าอี้ไปจนถึงปี 2029


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด