สาเหตุตกงานของชาฮิน

นูรี ชาฮิน กลายเป็นอดีตของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หลังเทรนเนอร์วัย 36 ปีทำงานมาเพียง 7 เดือน นับตั้งแต่เข้ามารับงานต่อจาก เอดิน แทร์ซิช ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ก่อนทีมเสือเหลืองจะมอบหมายหน้าที่ให้ ไมค์ ทูลล์เบิร์ก เฮดโค้ชชาวเดนมาร์กของทีมชุดยู-19 ปีกุมบังเหียนชั่วคราวในเกมรับมือ แวร์เดอร์ เบรเมน บนเวทีบุนเดสลีกาวันเสาร์นี้

สื่อเมืองเบียร์ได้ประเมินว่ามี 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ชาฮิน ตกเก้าอี้ที่ ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ก ในเวลาราวครึ่งปีเท่านั้น

1.การเริ่มต้นปี 2025 ที่น่ากังวล

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องดิ้นรนมาตลอดฤดูกาลนี้ แต่ปัญหาของพวกเขายิ่งแต่ลงกว่าเดิมนับตั้งแต่เริ่มต้นศักราชใหม่ ชาฮิน นำทีมเสือเหลืองพุ่งชนความล้มเหลวทั้ง 4 เกม โดยเกิดขึ้นบนเวทีบุนเดสลีกา 3 นัด ซึ่งเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายตั้งแต่ยุคของ ปีเตอร์ บอสซ์ เมื่อ 7 ปีก่อนหน้านี้ 

เบเฟาเบ เริ่มต้นปีด้วยการปราชัยต่อ เลเวอร์คูเซ่น 2-3 ซึ่งเป็นการแพ้ในถิ่น ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ก ครั้งแรกในซีซั่นนี้ ต่อด้วยเกมพ่าย โฮลชไตน์ คีล แบบน่าอับอายด้วยสกอร์ 2-4 โดยถูกทะลวงถึง 3 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรก และแพ้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 0-2 ก่อน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะพลาดท่าต่อ โบโลญญ่า 1-2 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ชาฮิน สูญเสียงานของเขา

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เข้าสู่ปี 2025 ฐานะอันดับ 6 และตามหลังท็อปโฟร์เพียง 2 คะแนน ปัจจุบัน พวกเขารูดมาอยู่อันดับ 10 ไล่หลังทีมอันดับ 4 สตุ๊ตการ์ท ถึง 7 แต้ม ภายในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังกลับมาจากช่วงเบรกหนีหนาว

2.ปัญหาของ ชาฮิน

การแต่งตั้ง ชาฮิน เป็นนายใหญ่คนใหม่ต่อจาก แทร์ซิช มาพร้อมความคาดหวังว่าเทรนเนอร์วัย 36 ปีจะนำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไล่ล่าความสำเร็จในรายการสำคัญทั้งในประเทศและบนเวทียุโรป แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง

สถิติของทีมเสือเหลืองภายใต้การคุมทีมช่วงสั้นๆของอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติตุรกีไม่ดีอย่างที่คาดหวัง หลังการลงเล่นบุนเดสลีกา 18 เกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เก็บได้เพียง 25 คะแนน ซึ่งเป็นผลงานแย่สุดในช่วงเวลานี้ของฤดูกาลในรอบทศวรรษ โดยมี ปีเตอร์ สตือเกอร์ เป็นเทรนเนอร์คนล่าสุดของทัพเสือเหลืองที่นำทีมคว้าชัยชนะ 9 ครั้งจากการลงเล่น 18 เกมแรกในซีซั่น 2017-2018

ที่น่าตำหนิที่สุดคือ ชาฮิน นำทีมเสือเหลืองเก็บได้เพียง 1.4 คะแนนต่อเกม ซึ่งเป็นผลงานแย่สุดนับตั้งแต่ โธมัส โดลล์ กุมบังเหียนโดยเก็บคะแนนเฉลี่ย 1.3 เกมต่อเกมในปี 2008 ก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่ง และ เดเฟาเบ จบฤดูกาล 2007-2008 อันดับ 13 ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดในศตวรรษที่ 21 ของสโมสร

3.ความสม่ำเสมอมากเกินไป

มันมีช่วงเวลาดีๆบ้างภายใต้การกุมบังเหียนของ ชาฮิน อย่างเช่นเกมเปิดบ้านทุบ เซลติก 7-1 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก หรือการคว้าชัยชนะเหนือ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-1 แต่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กลับทำผลงานขาดความสม่ำเสมอ พวกเขาไม่สามารถคว้าชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันบนเวทีบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้ และมักจะพ่ายแพ้อย่างน่าผิดหวังหลังการคว้าชัยชนะสำคัญๆ 

การขาดความสม่ำเสมอไม่ได้แค่ทำให้สถานการณ์แย่ลงจากเกมหนึ่งไปสู่อีกเกมหนึ่งเท่านั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นของพวกเขาไว้ได้ตลอด 90 นาทีอีกด้วย โดยมีเพียง เลเวอร์คูเซ่น ที่เสียคะแนนจากเกมที่ควรชนะมากกว่า (5 แต้ม) ขณะที่ทีมเสือเหลืองเสีย 4 คะแนน 

ไม่ว่าใครก็ตามที่ทีมเสือเหลืองเลือกมารับไม้ต่อจาก ชาฮิน เทรนเนอร์คนนั้นจะต้องค้นหาวิธีที่จะรวมผลงานต่างๆเข้าด้วยกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาไม่น่าจะพัฒนาขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

4.ผลงานนอกบ้านที่น่าผิดหวัง

ฟอร์มการเล่นของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดูน่าพอใจที่ ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ก โดยมีเพียง 4 ทีมในบุนเดสลีกาเท่านั้นที่มีสถิติการเล่นในบ้านดีกว่าทีมเสือเหลือง ในขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น และ บาร์เซโลน่า เป็นแค่ 2 ทีมที่บุกมาเฮในถิ่นของ เบเฟาเบ 

อย่างไรก็ตามนั่นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเล่นนอกบ้าน โดยมีเพียง โบคุ่ม (1) และ โฮลชไตน์ คีล (2) สองทีมท้ายตารางเท่านั้นที่เก็บคะแนนจากการเล่นนอกถิ่นได้น้อยกว่าทีมเสือเหลือง (5 คะแนน) 

การเก็บชัยชนะครั้งแรกและครั้งเดียวนอกบ้านในซีซั่นนี้ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เกิดขึ้นในเกมส่งท้ายปี 2024 หลังบุกอัด โวล์ฟสบวร์ก 3-1 แต่ถึงอย่างไร ชาฮิน ก็ทำสถิติแย่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2014-2015 ที่พวกเขาเก็บได้เพียง 4 คะแนนจากการเล่นนอกบ้าน 9 นัดแรกของซีซั่น

แม้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะเคยคว้าชัยชนะนอกบ้านบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกเหนือ คลับ บรูช และ ดินาโม ซาเกร็บ ก็ตาม แต่การปราชัยสองเกมล่าสุดต่อ บาร์เซโลน่า และ โบโลญญ่า ทำให้ทีมเสือเหลืองยังต้องดิ้นรนเข้ารอบต่อไปจนถึงเกมสุดท้ายกับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 

5.ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยุค ชาฮิน ทำผลงานต่ำกว่าระดับมาตรฐานทั้งเกมรุกและเกมรับ เมื่อดูจากสถิติการทำ 32 ประตูแล้วถือว่าไม่เลวเลย เนื่องจากเป็นการทำประตูมากสุดอันดับ 6 ของบุนเดสลีกาตอนนี้เทียบเท่า แอร์เบ ไลป์ซิก แม้ว่ามันจะเป็นการทำประตูน้อยสุดในรอบทศวรรษของสโมสรก็ตาม 

ทีมเสือเหลืองสร้างโอกาสทำประตูรวมกัน 233 ครั้ง สูงสุดอันดับ 5 แต่แปรเปลี่ยนเป็นประตูเพียง 27.1 เปอร์เซ็นต์อยู่อันดับ 11 เท่านั้น

ทั้ง เซรู กีราสซี่ และ เจมี่ กิตเทนส์ ช่วยทำคนละ 7 ประตูบนเวทีบุนเดสลีกา แต่ทีมเสือเหลืองยังขาดตัวช่วยเพิ่มเติม ขณะที่ มักซิมิเลียน ไบเออร์ ที่ย้ายมาจาก ฮอฟเฟนไฮม์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กองหน้าวัย 22 ปียังต้องดิ้นรนและขาดความมั่นใจจนทำได้เพียง 3 ประตู ส่วนอีกหนึ่งกำลังสำคัญอย่าง คาริม อเดเยมี่ ที่ทำแฮตทริคในเกมขย่ม เซลติก ก็มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน

ทว่าปัญหาในการเล่นเกมรับดูจะมืดมนมากกว่า หลังการเสียถึง 31 ประตูในตอนนี้แย่สุดอันดับ 10 ของลีก ซึ่งเป็นผลงานที่น่าผิดหวังนับตั้งแต่การเสีย 33 ประตูจากการลงเล่น 18 เกมในซีซั่น 2007-2008

แนวป้องกันของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดโอกาสให้คู่แข่งยิงประตูน้อยสุดอันดับ 3 ของลีก แต่ทุกความพยายาม 6 ครั้งจะกลายเป็นหนึ่งประตู ซึ่งเป็นอัตราส่วนแย่ที่สุด แม้ที่ผ่านมา เกรกอร์ โคเบล จะคอยป้องกันอันตรายเมื่อแนวรับถูกเจาะก็ตาม แต่นายทวารวัย 27 ปีทำผลงานไม่ดีเหมือนเดิมเช่นกัน โดยมีอัตราการเซฟอยู่ที่ 61 เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดตั้งแต่ฤดูกาลเปิดตัวกับ ฮอฟเฟนไฮม์ 

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังโชคร้ายที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ นีโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ทำผลงานคงเส้นคงวามากที่สุดในแนวรับของทีมเสือเหลือง นั่นทำให้ ชาฮิน ต้องเปลี่ยนแปลงทั้งนักเตะและระบบการเล่นจนส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นและผลงานของทีม